นนทบุรี พนักงานบริษัท 9 รายถูกเพื่อนร่วมงานหลอกลงทุนอสังหาสูญเงินกว่า 10 ล้าน
1 min readเมื่อเวลา17.00 น.วันที่ 24 ต.ค.64 น.ส.มนัชญา พันธ์มณี อายุ 32 ปี พร้อมด้วยผู้เสียหายรวม 9 ราย พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง เดินทางเข้าพบนายจิรวัฒน์ ตั้งเจริญถาวร ทนายความ และผู้เชี่ยวชาญประจำตัวนายมนตรี ตั้งเจริญถาวร สส.พรรคเพื่อไทยเขต 4 จังหวัดนนทบุรี เพื่อขอความช่วยเหลือหลังถูกนางสาวภัณฑิรา ทองด้วง เพื่อนร่วมงานชักชวนให้ร่วมลงทุนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยจะได้ค่าตอบแทนเป็นรายวัน และ จะได้ผลค่าตอบแทนตั้งแต่ 20 เปอร์เซ็นต์จนถึง 50 เปอร์เซ็นตามจำนวนที่ร่วมลงทุน โดยจะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์นางสาวภัณฑิรา ทองด้วง ปรากฏว่าผู้เสียหายทั้ง 9 รายไม่ได้ค่าตอบแทนตามที่ตกลง พอทวงถามกลับถูกบ่ายเบี่ยงและผลัดผ่อนมาโดยตลอดและติดต่อไม่ได้ในที่สุดทางผู้เสียหายทั้ง 9 รายจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความไว้ที่สภ.ปากเกร็ดแต่เกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้าจึงได้เดินทางเข้ามาพบนายจิรวัฒน์ ตั้งเจริญถาวร เพื่อให้ช่วยประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยเหลือเร่งรัดคดีเพื่อนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
น.ส.มนัชญา พันธ์มณี อายุ32ปี ตัวแทนผู้เสียหาย เล่าว่า ตนรู้จักผู้ชักชวนจากนางสาวภัณฑิรา ทองด้วง ว่าลงทุนแล้วจะได้ผลตอบแทน เพราะทำงานที่เดียวกันและสนิทกัน ช่วงระยะแรกก็ลงทุนประมาณหลักหมื่นระยะเวลา 5-6 เดือน พอผ่านไปประมาณ 7 เดือน เขาได้สร้างตัวละครเพิ่มมาว่ามีบอสมีเลขา มีการถ่ายรูปที่ดินอสังหาริมทรัพย์ เงินที่ทางพวกตนลงทุนไปเขาจะไปทำเป็นโครงการหมู่บ้านทำให้น่าเชื่อถือมากขึ้น หลังจากนั้นพวกตนก็ลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ ช่วงหลังๆเริ่มมีการชวนลงทุนและบังคับให้ลงทุนมากกว่าเดิม ถ้าไม่ลงทุนก็ไม่สามารถเอาเงินต้นคืนได้จะตัดออกเราก็ไว้ใจเพราะรู้จักกันมา5-6ปี ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ ซึ่งแรกๆก็ได้เงินกำไรจากตรงนี้เล่นมาประมาณ 1 ปี ต่อมาเขามาเปิดวงใหม่มาล่อและให้เราเพิ่มวงเงินไปอีกเงินที่ได้มาได้แค่ตัวเลข จำนวนเงินที่ทางตนจะได้ก็จะสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.64 ที่ผ่านมา เขาได้มีการไลฟ์สดว่าทางบอสใหญ่เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจอาญัติบัญชีเค้าและตรวจสอบบัญชีเขาบอกว่ามีคดีเกี่ยวกับการฟอกเงิน บอกว่าทางบริษัทถูกตำรวจเข้าโดยมารู้ที่หลังว่าเป็นการสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนเชื่อพอวันที่ 11 ต.ค. ทุกคนเริ่มมีการสงสัยว่าโดนอายัติบัญชีจริงไหมพอดีมีน้องที่อยู่ในกลุ่มที่ร่วมลงทุนด้วยได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจจังหวัดนครปฐมโดยให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจเช็คดูว่าบัญชีของนางสาวภัณฑิรา ทองด้วง ว่าถูกยายัดบัญชีจริงหรือไม่ปรากฎว่าบัญชีเป็นปกติไม่ได้โดนอายัดเหมือนที่เขาบอกทางตนกับผู้เสียหายรายอื่นวันที่ 12 ต.ค.จึงได้ตัดสินใจไปที่ห้องนางสาวภัณฑิราไปถามว่าเรื่องจริงเป็นยังไงถูกอายัดจริงไหมนางสาวภัณฑิรา จึงได้รับสารภาพว่าไม่ได้โดนอายัดตัวละครที่สร้างขึ้นมาไม่มีจริง ยอมรับว่าเงินที่ได้มาเอาไปหมุนใช้จ่ายในบ้าน ตอนนี้มีผู้เสียหายทั้งหมดที่โรงงานเดียวกันมีประมาณ 9 คน รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดประมาณกว่า 10 ล้าน ตอนนี้อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดส่งสำนวนให้ทางอัยการ และอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งอายัดทรัพย์สินและอายัดบัญชีจากการพูดคุยก่อนหน้านี้เขาบอกว่าไม่เงินมาชดใช้ตนกับผู้เสียหายทั้ง 9 คนวันนี้จึงได้มาร้องขอความช่วยเหลือจากทนายนายจิรวัฒน์ ตั้งเจริญถาวรให้ช่วยประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยเร่งรัดคดี
นายจิรวัฒน์ ตั้งเจริญถาวร ทนายความ และผู้เชี่ยวชาญประจำตัว นายมนตรี ตั้งเจริญถาวร สส.พรรคเพื่อไทยเขต 4 นนทบุรี กล่าวว่า วันนี้มีผู้เสียหายทั้งหมด 9 คน ได้รับการร้องเรียนว่ามีเพื่อนร่วมงานที่ชวนให้ลงทุนโดยรู้จักกันมาประมาณ 8 ปี แล้วได้หลอกลวงเรื่องอสังหาริมทรัพย์และให้ทุกคนนำเงินมาร่วมลงทุน และมีค่าตอบแทนสูง เบื้องต้นมีการเข้าแจ้งความและสอบปากคำไปแล้ว 2 คน เหลืออีกประมาณ 7ท่าน ซึ่งทางผู้เสียหายติดต่อมาให้ทางตนช่วยเร่งรัดทางคดีให้ อยู่ที่พนักงานสอบสวนแล้วจะได้สรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการให้ส่งฟ้องคดีต่อไป ลักษณะการกระทำนี้ เป็นลักษณะการฉ้อโกง และต้องดูว่ามีผู้ร่วมกระทำความผิดหรือไม่ถ้ามีก็จะเป็นการร่วมกระทำความผิดฐานฉ้อโกงและพนักงานสอบสวนต้องดูผู้ได้รับความเสียหายว่ามีจำนวนมากหรือไม่ถ้ามีผู้เสียหายมากจะถือว่าเป็นการฉ้อโกงประชน
ภาพ/ข่าว กำพลศิลป์ วงษ์เดือน ผู้สื่อข่าวนนทบุรี