เสนาธิการทหารบกตรวจความพร้อมรับทหารใหม่ผลัด 2/64 ตามมาตรการป้องกันโควิดแบบครอบจักรวาล
1 min readเสนาธิการทหารบกตรวจความพร้อมรับทหารใหม่ผลัด 2/64 ตามมาตรการป้องกันโควิดแบบครอบจักรวาล ณ มณฑลทหารบกที่ 18 และกองพันทหารม้าที่ 23 กรมทหารม้าที่ 5 รักษาพระองค์ จ.สระบุรี
ด้าน พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าในวันที่ 1 พ.ย.นี้ กองทัพบกจะทำการรับทหารกองประจำการผลัดที่ 2/2564 เข้าประจำการในหน่วยทหารของกองทัพบกพร้อมกันทั่วประเทศ โดยมีรูปแบบที่สอดคล้องกับสถานการณ์โควิดและมาตรการด้านสาธารณสุขในปัจจุบัน เป็นไปตามนโยบายการดูแลทหารกองประจำการของ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ที่มอบให้หน่วยทหารทั่วประเทศดำเนินการตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
วันที่ (28 ต.ค. 64) พลเอก สันติพงศ์ ธรรมปิยะ เสนาธิการทหารบก /ผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก และคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมการเตรียมรับทหารใหม่ ผลัด 2/2564 ณ มณฑลทหารบกที่ 18 โดยมี พลตรี คณธัช มากท้วม ผบ. มณฑลทหารบกที่ 18 พร้อมทหารกองพันทหารม้าที่ 23 กรมทหารม้าที่ 5 รักษาพระองค์ อ.เมือง จ.สระบุรี ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมตรวจความพร้อมของหน่วย พร้อมชมการสาธิตการรับทหาร ตั้งแต่พื้นที่รับรายงานตัว ณ สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ, การเดินทางมายังมณฑลทหารบก/หน่วยฝึกทหาร, การคัดกรองทหารใหม่ ณ มณฑลทหารบก, การส่งตัวทหารใหม่เข้าหน่วยฝึก จนถึงการความพร้อมของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการฝึกทหารใหม่ ภายใต้มาตรการป้องกันโควิดแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention), การจำกัดพื้นที่และไม่สัมผัสสิ่งแวดล้อมภายนอกแบบระบบปิด (Bubble and Seal) และการปฏิบัติตามแนวคิดปลอดโควิด คือ “หน่วยฝึกปลอดโรค เจ้าหน้าที่ปลอดภัย ทหารใหม่ปลอดโรค“ โดยเฉพาะในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการฝึกทหารใหม่ กองทัพบกให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนและให้มีการกักตัว 7 วัน ก่อนการทำหน้าที่ พร้อมด้วยการตรวจคัดกรองโควิด( ตรวจ ATK )เพื่อสร้างความปลอดภัยตามระบบการจำกัดพื้นที่และไม่สัมผัสสิ่งแวดล้อมภายนอกแบบระบบปิด(Bubble and Seal) ก่อนรับทหารใหม่
สำหรับกระบวนการคัดกรองทหารใหม่ ณ มณฑลทหารบก จะครอบคลุมทั้งการซักประวัติสัมผัสโรค, ประวัติวัคซีน, ติดตั้งแอปพลิเคชั่น หมอพร้อม ไทยชนะ หมอชนะ โดยทหารใหม่ทุกนายจะได้รับการตรวจคัดกรองโควิด (ATK) เพื่อจำแนกทหารตามความเสี่ยงเป็น 3 กลุ่ม หากพบว่ามีปัจจัยเสี่ยงหรือผลตรวจเป็นบวก จะแยกเข้าสู่กระบวนการรักษาทันที ส่วนทหารใหม่กลุ่มปกติจะเข้ารับการกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วันก่อนทำการฝึก ตั้งแต่วันที่ 4 – 17 พ.ย. 64 ทั้งนี้ตลอดการฝึกทหารใหม่จะแยกการปฏิบัติในทุกกิจกรรม ไม่ให้เป็นลักษณะที่แออัดเกินไป และดูแลให้อยู่ในพื้นที่หน่วยฝึกตามมาตรการ การจำกัดพื้นที่และไม่สัมผัสสิ่งแวดล้อมภายนอกแบบระบบปิด(Bubble and Seal) และดูแลส่งตรวจคัดกรองโควิด (ATK) เมื่อมีอาการผิดปกติ ทั้งนี้กองทัพบกโดยโรงพยาบาลสังกัดกองทัพบก จะดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้กับทหารใหม่ทุกนาย ตามประวัติการรับวัคซีนของแต่ละคนเพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน ตามมาตรฐานสาธารณสุข
ตลอดระยะการฝึก ทหารกองประจำการทุกนายจะได้รับการดูแลจากหน่วยทหารเสนารักษ์และโรงพยาบาลค่าย ทั้งด้านสุขภาพร่างกายทั่วไปและการป้องกันโควิด-19 นอกจากนี้กองทัพบกได้ปรับระเบียบปฏิบัติประจำวัน เพื่อเพิ่มเวลาให้ทหารใหม่ได้มีโอกาสพัฒนาตนเอง ใช้เวลากับครอบครัว หรือฝึกฝนประกอบอาชีพพิเศษที่ได้ทำก่อนมาประจำการ โดยได้จัดทำระบบฐานข้อมูลความต้องการพัฒนาตนเองของทหารกองประจำการ ทั้งด้านการศึกษา, อาชีพในอนาคต, การต่อยอดสู่ทหารอาชีพ เพื่อส่งเสริมและเป็นข้อมูลในการบรรจุลงในหน่วยทหารที่ตรงกับความตั้งใจต่อไป นอกจากนี้กองทัพบกได้เพิ่มโควตาการสอบเป็นนักเรียนนายสิบทหารบกสูงถึง ร้อยละ 80 ให้กับทหารกองประจำการด้วย
ส่วน การตรวจเยี่ยมในวันนี้ เสนาธิการทหารบก ได้กล่าวว่า การดูแลทหารกองประจำการ ผลัดที่ 2/2564 เป็นไปตามแนวทางที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 กองทัพบก ได้กำหนดแนวปฏิบัติ โดยยึดตามแนวทางการดูแลทหารกองประจำการผลัดที่แล้ว และมีการปรับให้ดีขึ้นในทุกด้าน
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบก มีความห่วงใยทหารกองประจำการในทุกเรื่องโดยเฉพาะการเสริมสร้างให้มีความเข้มแข็ง และเสริมสร้างการทำงาน รวมทั้งการป้องกันโควิด อย่างไรก็ตามทหารใหม่ถือว่าเป็นประชาชนที่มาทำหน้าที่รับราชการทหารในช่วงเวลาหนึ่ง ส่ิงที่กองทัพบกดำเนินการคือการฝึกเสริมสร้างพัฒนาให้มีความสามารถในการปฏิบัติงานในอนาคต มีความปลอดภัยจากการทำงานและปลอดภัยจากโควิด-19
ทั้งนี้ เสนาธิการทหารบก ยังได้กำชับให้หน่วยฝึกทหารใหม่ปฏิบัติตามมาตรการที่กองทัพบกได้กำหนดไว้ อย่างรัดกุม มีความต่อเนื่อง ดูแลทหารใหม่ให้มีความพร้อม ทั้งด้านร่างกาย การฝึกศึกษาตลอดหลักสูตร เพื่อให้สามารถปรับและเปลี่ยนตนเองให้เป็นทหารกองประจำการที่พร้อมปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคง พัฒนาประเทศ ช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเต็มภาคภูมิควบคู่ไปกับการที่กองทัพบกจะพัฒนาและสนับสนุนให้ทหารกองประจำการได้เสริมสร้างศักยภาพของแต่ละบุคคลเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการดำเนินชีวิตที่ตั้งใจไว้หลังปลดประจำการต่อไป
ภาพ/ข่าว สมพงษ์ ปานรุ่ง ผู้สื่อข่าว จ.สระบุรี