พ่อค้ารับซื้อของเก่ารถกระบะน้ำมันหมดจอดรอญาติซื้อน้ำมันมาเติมบนกลางสะพานก่อนถูกกระบะอีกคันพุ่งชนท้ายดับ 1 สาหัส 1 รอดหวุดหวิด 2
1 min read
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 1 พ.ย. 64 ร.ต.อ.วรภัค ศุภสวัสดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะชนกันบนสะพานคลองน้ำอ้อม ถนน 347 ม.3 ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ในที่เกิดเหตุบนกลางสะพานดังกล่าว ในช่องเลนกลาง(มุ่งหน้าแยกเทคโนปทุมฯ) พบรถกระบะ อีซูซุ สีเทา หมายเลขทะเบียน 2กฌ-6781 กรุงเทพมหานคร จอดติดเครื่องอยู่ในสภาพหน้ารถด้านซ้ายพังยุบจนถึงฝากระโปรงรถ โดยที่พื้นถนนใต้ท้องรถและที่หน้ารถพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 2 คนนอนจมกองเลือด เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ จึงได้พยายามช่วยปั้มหัวใจและสามารถช่วยเหลือได้ 1 คนก่อนรีบนำส่ง รพ.กรุงสยามเซนคาร์ลอส ส่วนอีกคนไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ห่างไปประมาณ 20 เมตรมีรถกระบะ โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 2ฒส-6609 กรุงเทพมหานคร ท้ายกระบะมีร่องรอยรถถูกชนจนยุบไฟท้ายแตก โดยมี นายวีรเดช อาษา อายุ 14 ปี และ นายณัฐภูมิ ทองปาน อายุ 16 ปี ยืนอยู่ในอาการที่ยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากการสอบถามนายวีรเดช อาษา กล่าวว่าผู้เสียชีวิตคือพ่อตนชื่อนายวิทูรณ์ อาษา อายุ 40 ปี ส่วนคนที่บาดเจ็บสาหัสเป็นพี่ชายตนชื่อนายธนวัฒน์ อาษา อายุ 18 ปี ก่อนเกิดเหตุครอบครัวตนมีอาชีพรับซื้อของเก่า โดยวันนี้พ่อจะพาพวกตนไปซื้อของที่รังสิตซึ่งมากันทั้งหมด 4 คน มีพ่อ พี่ชาย ตน และนายณัฐภูมิ ทองปาน อายุ 16 ปีเพื่อนตน โดยพ่อเป็นคนขับและเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถเกิดน้ำมันหมดพ่อจึงโทรศัพท์ไปบอกให้ญาติซือน้ำมันมาเติมและขณะที่พ่อและพี่ชายยืนอยู่หลังรถ ส่วนตนนั่งอยู่ขอบสะพานและเพื่อนตนนั่งท้ายกระบะจู่รถคู่กรณีก็ขับเข้ามาพุ่งชนท้ายอย่างจังทำให้พ่อตนเสียชีวิตและพี่ชายบาดเจ็บสาหัส ส่วนคนขับคู่กรณีตนไม่ทันได้ดูว่าเป็นใคร
ทางด้านนายสานิด เข็มทอง อายุ 46 ปี คนขับรถกระบะคู่กรณี ซึ่งไม่ได้หลบหนีไปไหนทางตำรวจได้นำตัวมาสอบสวนที่โรงพัก กล่าวว่าก่อนเกิด้หตุขับรถมากับลูกสาววัย 16 ปี เพื่อจะไปรับภรรยาที่ทำงาน ขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งตนก็ขับมาเลนซ้ายโดยมองไม่เห็นว่ามีรถจอดอยู่ช่องทางซ้าย ก่อนรถจะพุ่งชนและเมื่อลงมาดูก็พบว่ามีคนเจ็บและเสียชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนศพมอบให้มูลนิธิฯนำส่ง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป
ภาพ/ข่าว สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม รายงาน
