ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครนายก เป็นเจ้าภาพจัดพิธีปฏิญาณตนและอบรมปฐมนิเทศผู้พิพากษาสมทบ ก่อนเข้ารับตำแหน่งผู้พิพากษาสมทบในศาลเยาวชนและครอบครัวในภาค 2
1 min readศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครนายก เป็นเจ้าภาพจัดพิธีปฏิญาณตนและอบรมปฐมนิเทศผู้พิพากษาสมทบ ก่อนเข้ารับตำแหน่งผู้พิพากษาสมทบในศาลเยาวชนและครอบครัวในภาค 2 ประกอบด้วยจังหวัดนครนายก จันทบุรี ตราด ปราจีนบุรีและสระแก้ว
5 พฤศจิกายน 2564 ที่ห้องประชุมภูมนตรารีสอร์ท ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก นายประกอบ ลีนะเปสนันท์ อธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เป็นประธานในพิธีปฏิญาณตนและปฐมนิเทศผู้พิพากษาสมทบในศาลเยาวชนและครอบครัในภาค ๒ ประกอบด้วยศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครนายก จำนวน 12 คน ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดจันทบุรี จำนวน 16 คน ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดตราด จำนวน 15 คน ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปราจีนบุรีจำนวน 17 คน และศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสระแก้ว จำนวน 1 คน รวม 61 คน โดยได้รับเกียรติจากนายภัทรศักดิ์ ศิริสินธว์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนกลาง นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก นายนริศ วงศ์ตระกูล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนครนายก พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติ ร่วมพิธี ในการนี้ ศาลเยาวชนและครอบครัว โดยมีนายทรงกลด มั่นสิงห์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครนายก พร้อมคณะให้การต้อนรับ
อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ได้กล่าวให้โอวาทว่าตำแหน่งผู้พิพากษาสมทบถือเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งตุลาการตามประมวลกฎหมายอาญาและมีหน้าที่พิจารณาพิพากษาอรรถคดีในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ ฉะนั้น ผู้พิพากษาสมทบจึงต้องมีจริยธรรมและวินัย ควบคู่ไปกับการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งต้องมีอุดมการณ์ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความเที่ยวธรรม ปราศจากอคติ มีความเป็นกลาง รักษาความลับ รักษาวินัยมีจริยธรรมเช่นเดียวกับผู้พิพากษา และนำความรู้ความสามารถมาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จลุล่วง เพื่อแก้ไข บำบัด ฟื้นฟูเด็กและเยาวชนให้กลับตนเป็นคนดี ตลอดจนคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กเยาวชนและครอบครัว และลดปัญหาความแตกแยกของครอบครัว ซึ่งเป็นสถาบันหลักในการอบรมเด็กและเยาวชนให้เป็นคนดีของชาติต่อไป
ภาพ/ข่าว สมบัติ เนินใหม่//รัชชานนท์ เนินใหม่ ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก