อาทิตย์. พ.ย. 24th, 2024

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

สุรินทร์ อุทาหรณ์คนค้ำรถ ยายโดนบังคับคดียึดทรัพย์หมดตัวส่วนสามีป่วยนอนติดเตียง ขณะที่สองสามีภรรยาที่หลอกค้ำหายตัวพร้อมรถไถนา

1 min read

วันที่ 9 พ.ย. 64 ที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน สำนักงานบังคับคดีจังหวัดสุรินทร์ อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรม ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายคำสิงห์ ชอบมี ทนายความ พร้อมด้วยนางบัวริน ศรีนิลก์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78 ม.12 ต.เมืองลีง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ ได้เดินทางขอไกล่เกลี่ย กรณีการค้ำประกันรถไถนาแบบนั่งขับ ของนางบัวริน ศรีนิลก์ หลังผู้ซื้อคือ น.ส.ลัดดาวรรณ บุญมาก ชาวบ้านสังแก ต.กาเกาะ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ไม่ยอมผ่อนชำระหนี้ตามสัญญา และหายตัวไปพร้อมกับสามีและรถไถนา ก่อนถูกบริษัท สยามคูโบต้า ลิชซิ่ง จำกัด ฟ้องศาล และศาลมีคำพิพากษาให้นางบัวรินเป็นผู้ชดใช้ค่าเสียหายแทน โดยมีคำพิพากษาให้ยึดที่ดินของนางบัวรินที่เป็นที่อยู่อาศัย จำนวน 2 งาน 80 ตารางวาง ซึ่งเป็นที่ดินผืนเดียวของนางบัวริน มาชดใช้ค่าเสียหายแก่เจ้าหนี้ ทำให้เดือดร้อนเพราะไม่มีที่อยู่อาศัยและตัวสามีเองก็ป่วยนอนติดเตียงมาเป็นหลายปีแล้ว และนอกจากนี้ที่ดินดังกล่าวก็ยังติดจำนองอยู่กับ ธ.ก.ส.สุรินทร์ด้วย จึงมาขอความเมตตาจากสำนักงานบังคับคดีสุรินทร์ เพื่อช่วยไกล่เกลี่ยในคดีความดังกล่าว เพราะตอนนี้ติดหนี้ 2 ทาง บริษัทรถและ ธ.ก.ส.ด้วย

นายพุฒิพงศ์ รัตนธรรมมา เจ้าพนักงานบังคับคดี ผู้ไกล่เกลี่ย กล่าวว่า วันนี้เนื่องจากทางเจ้าหนี้ไม่มา ตนก็โทรศัพท์ไปหาผู้รับมอบอำนาจที่กรุงเทพฯ โดยทางผู้รับผิดชอบบอกว่ากำลังติดประชุมอยู่ ส่วนยอดหนี้ทางคดีนี้ เนื่องจากจะต้องคืนรถเขาและค่าเสียหายด้วย ไม่มีดอกเบี้ยอะไร ก็เป็นจำนวนเงิน 618,400 บาท (หกแสนหนึ่งหมื่นแปดพันสี่ร้อยบาท)หากมีการชำระหนี้กันไปแล้ว ตรงนี้ก็จะมีค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมอื่นๆอีกประมาณ 15,000 บาท (ประมาณหนึ่งหมื่นห้าพันบาท) ซึ่งในจำนวนต้นหนี้ตรงนี้ก็อยากให้ทางลูกหนี้ไปคุยกับเจ้าหนี้ ซึ่งตนได้โทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบของเขา ว่าพอลดอะไรได้บ้าง ซึ่งทางลูกหนี้ก็รับปากจะเข้าไปคุยกันดู ถ้าได้เรื่องยังไงก็ให้มาแจ้งเจ้าพนักงานกรมบังคับคดีทราบด้วย เพราะว่าการไกล่เกลี่ยเมื่อศาลพิพากษาแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของทางลูกหนี้ ที่เจรจากับเจ้าหนี้ และขณะเดียวกันเจ้าหนี้จะลดให้หรือให้ผ่อนหรือไม่ให้ผ่อนยังไง ก็เป็นสิทธิของเจ้าหน้าหนี้ตามกฎหมาย เพราะเราจะไปบังคับเขาไม่ได้ ทางงานไกล่เกลี่ยอย่างน้อยๆเมื่อมาทำการไกล่เกลี่ย เราก็ให้ความรู้ในการบังคับคดี และขณะเดียวกันก็รู้ระยะเวลาที่เราจะหาเงินมาให้เขาได้ หรือถ้าเขาไม่ลดหรือไม่ให้ผ่อน มีระยะเวลาที่จะบังคับคดี ที่จะนำทรัพย์ออกมาขายประมาณเท่าไหร่

คดีนี้ขณะนี้ร่างประกาศแล้วส่งไปแล้ว น่าจะขายได้ประมาณเดือนมีนาคม ปี 65 หมายถึงนัดแรก ซึ่งกำหนดแน่นอนทางเจ้าพนักงานก็ยังไม่กำหนด แต่ทุกอย่างร่างประกาศไว้แล้ว สำหรับการไกล่เกลี่ยคือการประสานงานในการช่วยพูด หรือว่าทางลูกหนี้มีข้อเสนออะไรให้เจ้าหนี้ แล้วเจ้าหนี้รับได้ไหมลดได้ไหม ทำได้แค่แบบนี้ อย่างคดีนี้นางบัวริน ก็เป็นแค่ผู้ค้ำ ขณะเดียวกันตัวคนที่เอารถไปไม่รู้อยู่ไหนตามหาตัวไม่ได้ ความรับผิดชอบตรงนี้มันสำคัญในเรื่องการที่เราไปค้ำให้เขา ต้องรู้ตั้งแรกว่าเราจะต้องรับผิดชอบอะไร ไม่ใช่จะเซ็นๆไป ปัญหาแบบนี้ในการบังคับคดีมีเยอะที่ตามยึดทรัพย์กับผู้ค้ำ อาจจะเกิดจากในเรื่องความง่ายของคนหรือความมีน้ำใจของคน ก็เลยเกิดปัญหาส่งผลแบบนี้ แม้แต่พี่น้องกันเอง ถ้าเกิดลูกหนี้ชั้นต้นไม่รับผิดชอบปัญหาก็จะตกหนักกับผู้ค้ำเป็นซะส่วนมาก นายพุฒิพงศ์ กล่าว

ด้านนายคำสิงห์ ชอบมี ทนายความ ซึ่งเข้ามาช่วยในการเจรจาไกล่เกลี่ยกับทางเจ้าหนี้ กล่าวว่า วันนี้ก็ได้มาไกล่เกลี่ยในชั้นบังคับคดี แต่ทางตัวแทนโจทย์ไม่มา ซึ่งทางเจ้าพนักงานไกล่เกลี่ย ของสำนักงานบังคับคดี ได้ประสานงานกับผู้รับผิดชอบของเจ้าหนี้ ซึ่งติดประชุม ก็ได้ให้เบอร์ประสานงานมา เพื่อประสานงานในการไกล่เกลี่ยกับทางเจ้าหนี้โดยตรงอีกครั้ง ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้นก็ยังไม่ทราบ ซึ่งทางเจ้าพนักงานบังคับคดีก็ได้ช่วยดำเนินการให้เป็นอย่างดีในเรื่องนี้ ตนก็จะช่วยในเรื่องการเจรจากับตัวแทนเจ้าหนี้ ผลจะเป็นอย่างไรก็จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ต้องยอมรับว่ายายแกเดือดร้อนมาก คนค้ำไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ต้องมารับผิดชอบหนี้อีก 6 แสนกว่าบาท ซึ่งฉโนดที่ดินที่เจ้าพนักงานตัวแทนโจทย์นำยึดไว้ก็เป็นหนี้เก่าถึง 4 แสนกว่าบาท เป็นภาระหนักอยู่แล้ว ลำบากมาก ก็ต้องรอเจรจากับกับเจ้าหนี้อีกครั้ง

ขณะที่นางบัวริน ศรีนิลก์ ผู้ถูกบังคับยึดทรัพย์ เล่าว่า ตนได้ค้ำประกันออกรถไถนากับบริษัทแห่งหนึ่ง ให้คนรู้จักกันเป็นคนละหมู่บ้านที่ตนเองอยู่ ซึ่งในตอนแรกก็ยืนยันว่าจะส่งค่างวดให้ครบไม่ต้องห่วง ก็ไม่คิดว่าเขาจะทำอย่างนี้ ตนมารู้อีกที่ว่าโดนบังคับยึดที่ดิน ก็ตอนที่ไป ธ.ก.ส. เพื่อไปเคลียร์หนี้ของตนที่มีค้างไว้แต่ก่อน และได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ ธกส.ว่าฉโนดที่ของตน ถูกศาลบังคับคดียึดที่แล้ว ตนตกใจมาก พอรู้ก็ไปหาเจ้าตัวที่บ้านก็ไม่เจอแล้ว ไม่ยอมผ่อนชำระหนี้ตามสัญญา และหายตัวไปพร้อมกับสามีและรถไถนา ก่อนถูกบริษัทรถไถ่นาฟ้องศาล และศาลมีคำพิพากษาให้ตนซึ่งเป็นผู้ค้ำเป็นผู้ชดใช้ค่าเสียหายแทน โดยมีคำพิพากษาให้ยึดที่ดินที่เป็นที่อยู่อาศัย จำนวน 2 งาน 80 ตารางวาง ซึ่งเป็นที่ดินผืนเดียวที่มี มาชดใช้ค่าเสียหายแก่เจ้าหนี้

ในวันนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่บังคับคดี ได้นัดให้มาเจรจาไกล่เกลี่ยและขอให้ทนายได้ช่วยมาเจรจาไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินผืนสุดท้ายที่อาศัยอยู่กับตา(สามี)ซึ่งป่วยติดเตียงมานานหลายปีแล้ว ร้องให้แล้วร้องให้อีกไม่รู้จะทำอย่างไร ในตอนแรกๆไปหาที่บ้านเขาและโทรไปก็ได้รับคำตอบว่าชำระแล้ว จนตนไป ธกส.จึงรู้ว่าฉโนดถูกศาลบังคับคดี ซึ่งที่ดินแปลงนี้เป็นผืนสุดท้ายในชีวิต โดยเมื่อปี 58 ที่ผ่านมา ตนเคยนำไปกู้เงินนอกระบบ เป็นหนี้เป็นกว่า 4 แสนบาท และได้เข้าไปยื่นเรื่องกับทางสำนักนายกรัฐมนตรี ทางรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีมีโครงการช่วยเหลือปลดหนี้จากนายทุนเงินกู้นอกระบบ ให้นำฉโนดมาไว้ที่มาไว้ที่ ธกส. เป็นการช่วยเหลือตนได้เป็นอย่างมาก แต่ต้องเจอให้ไปค้ำออกรถไถนากลับเชิดหายไปทั้งคนซื้อและรถไถนา เป็นหนี้พร้อมดอกเบี้ยอีกกว่า 6 แสน และยังไม่ร่วมหนี้กับ ธ.ก.ส.อีก 4 แสนกว่าบาท และไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว หนี้เก่าก็ยังค้างและต้องมาเจอโดนบังคับคดียึดที่อีก

Loading…


You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.