เปิดภาพจากกล้องศึกแย่งที่จอดรถระหว่างร้านกาแฟกับร้านชุดแต่งงาน (มีคลิป)
1 min readเปิดภาพจากกล้องศึกแย่งที่จอดรถระหว่างร้านกาแฟกับร้านชุดแต่งงานจอดรถขวางทางติดป้ายด่าจนเป็นเหตุให้ทะเลาะกัน ทั้งคู่เผยตั้งแต่เปิดร้านมามีปัญหาเรื่องจอดรถหาทุกวัน
นี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านชุดแต่งงานชื่อร้าน แสนสุข wedding &organizer ที่ตั้งอยู่ริมถนนพระยาสัจจา เลขที่ 165/65 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรีจับภาพของผู้หญิง 2 คนเจ้าของร้านกาแฟกำลังเดินไปที่รถเพื่อจะออกไปหาหมอที่โรงพยาบาลแต่มีรถขวางทางออกไม่ได้จึงได้เรียกเจ้าของรถที่เป็นร้านชุดแต่งานมาขยับให้จนเป็นเหตุให้ไม่พอใจเกิดการตบตีกันโดยมีชาวบ้านเข้ามาห้ามและจะเป็นชายเจ้าของร้านชุดแต่งงานเข้ามาแย่งโทรศัพท์มือถือจากผู้หญิงชุดดำที่นั่งในรถเพื่อเอาไปลบคลิปที่ถ่ายภาพเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นสุดท้ายกลายเป็นเรื่องใหญ่เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายเดินทางมาแจ้งความที่ สภ.เสม็ด
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. ร.ต.ท.อนุพงษ์ ดอกไม้ รอง สว.(สอบสวน)สภ.เสม็ด ได้รับแจ้งจากนายอนุชิต เหมือนรักษา อายุ 32 ปีเจ้าของร้านชุดแต่งงานและนางสาวนพวรรณ ปัญญาเลิศสุข อายุ 25 ปี เรื่องปัญหาการแย่งที่จอดรถที่ลูกค้าของทั้ง 2 ร้านได้มาจอดหลังร้านจนจอดรถกีดขวางกันและทางฝ่ายร้านกาแฟต้องเขียนโน๊ตใส่กระดาษมาแปะตามกระจกรถจนเกิดให้เป็นการไม่พอใจจนมีปากเสียงกันจนเป็นเรื่องราวบานปลายทำให้ทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น
สอบถามนายอนุชิต เหมือนรักษา อายุ 32 ปีเล่าว่าที่จริงพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ของส่วนกลางที่ต้องใช้ร่วมกันโดยพฤติกรรมของฝ่ายตรงข้ามเป็นแบบนี้มานานแล้วจนตัวเองเริ่มชินเรื่องที่มีการเขียนโน๊ตใส่กระดาษมาแปะตามหน้ารถของลูกค้าที่มาจอดหลังร้านโดยทางร้านกาแฟจะติดรถของลูกค้าของตนที่มาดูชุดแต่งงานจนลืมว่าบางทีก็มีลูกค้าของตัวเองมาจอดด้วยก็มี จึงอยากฝากบอกว่าการมีเพื่อนบ้านที่ดีควรอยู่ร่วมกันใช้พื้นที่ร่วมกันไม่มีอะไรดีไปกว่ามีเพื่อนบ้านที่ดีแน่นอนส่วนการดำเนินคดีอยู่ที่อีกฝ่ายจะแจ้งความหรือไม่เพราะตนก็มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดจับภาพไว้อยู่แล้ว
ส่วนทางนางสาวนพวรรณ ปัญญาเลิศสุข อายุ 25 ปีเจ้าของร้านกาแฟก็เปิดเผยว่าตั้งแต่เปิดร้านมาก็มีปัญหามาตลอดเรื่องที่จอดรถแต่วันนี้พี่สาวของตนป่วยจะไปหาหมอแล้วรถก็จอดขวางทางจนออกไม่ได้ตนจึงได้เดินไปบอกให้มาขยับรถให้หน่อยเพราะจะพาพี่ไปหาหมอแต่ถูกอีกฝ่ายบอกไม่ขยับให้จะทำไมจนมีปัญหากันจึงได้มาขยับรถออกให้พอพี่สาวตนเดินไปหารถถูกอีกฝ่ายใช้ไหล่กระแทกพี่สาวด้วยความที่พี่กำลังป่วยอยู่จึงได้ทุบไป 1 ทีด้วยความโมโหส่วนเรื่องที่ว่าตนเอากระดาษโน๊ตไปติดนั้นไม่เป็นความจริงตนไม่ได้เป็นฝ่ายเอาไปติดเลย แต่ไม่รู้ว่ากระดาษใครเอามาติดซึ่งมันติดก็จริงที่หน้ารถทุกคันตนก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นฝ่ายเอาไปติด แต่วันนี้ตนได้เอากระดาษไปติดจริงเพราะพี่สาวออกไปได้จึงได้ติดไว้เพื่อเตือนว่าจอดรถให้จอดเป็นระเบียบเพราะมีรถต้องเข้าออกตลอดเวลา ทางด้านตำรวจจึงได้เจรจาไกล่เกลี่ยทั้ง 2 ฝ่ายให้ปรับความเข้าใจกันเพราะพื้นที่เป็นของส่วนกลางต้องใช้ร่วมกันจึงได้ลงบันทึกประจำวันใว้เป็นหลักฐานเพื่อเป็นกลางให้ทั้ง 2 ฝ่ายจบกันด้วยดี
ภาพ/ข่าว กัญนิภา เจริญวัจนะ