มุกดาหาร ศาลนัดโจทก์ และจำเลยวันที่ 8 มีนาคม 65 คดีน้องชมพู่
1 min readเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศที่บริเวณหน้าศาลจังหวัดมุกดาหาร คึกคักตั้งเช้า มีเหล่ายูทูบเบอร์ข้างกายนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล มาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก และมีการไลฟ์สดตลอดเวลา และอีกฝ่ายยูทูบเบอร์ ฝั่งนางสาวิตรี แม่น้องชมพู่ ก็มาให้กำลังใจบางตา ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร มาคอยดูแลความปลอดภัย
และในวันนี้ศาลจังหวัดมุกดาหารนัดตรวจพยานฝ่ายโจทก์ ประกอบด้วยอัยการจังหวัดมุกดาหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีพยานทั้งหมดประมาณ 62 ปาก ส่วนฝ่ายโจทก์ร่วม ได้แก่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ และนายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อน้องชมพู่ มีพยานประมาณ 5 ปาก
ส่วนฝ่ายจำเลย มีนายไชย์พล วิภา อายุ 45 ปี หรือลุงพล นางสมพร หลาบโพธิ์ อายุ 43 ปี หรือป้าแต๋น พร้อมด้วย นายษิทรา เบี้ยบังเกิด นายรัชพล ศิริสาคร นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความ ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร เพื่อตรวจพยานจำนวน 32 ปาก ในคดีดังกล่าว
ด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม บอกว่า พยานฝ่ายโจทก์ และพยานฝ่ายจำเลย มีอยู่ 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. พยานทางครอบครัวโจทก์ และพยานครอบครัวฝ่ายจำเลย 2. พยานนักวิชาการ และพยานนิติวิทยาศาสตร์ (ซินโคตรอน) 3. พยานชาวบ้านทั่วไป 4. พนักงานสอบสวน อัยการจังหวัดมุกดาหาร และเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่เกิดเหตุ
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ บอกต่ออีกว่า ในวันนี้เปิดเผยพยานของแต่ละฝ่าย ถ้าฝ่ายใดมีพยานเพิ่มเติมก็สามารถยื่นพยานได้ทั้ง 2 ฝ่าย
ความคืบหน้าล่าสุด เวลาประมาณ 12.30 น. นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความจำเลย ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ทางอัยการมีพยานบุคคลประมาณ 62 ปาก ส่วนทางจำเลยพยานบุคคล 32 ปาก และซ้ำกับทางฝ่ายโจทกฺ 8 ปาก เหลือ 24 ปาก ซึ่งในวันนี้ไม่สามารถที่จะตรวจได้ครบทั้งหมด ศาลก็เลยบอกว่า ทางโจทก์กับจำเลยกลับไปทำการบ้าน สรุปมาหน่อยว่า แต่ละปากมีความสำคัญอย่างไร และมาดูอีกทีว่า ติดใจปากไหน ปากไหนไม่ติดใจ จะเป็นนัดหน้าอีกทีหนึ่ง และตรวจพยานหลักฐานอีกครั้งในวันที่ 8 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 น.
นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความจำเลย กล่าวต่ออีกว่า พยานแต่ละคนต้องกลับไปทำการบ้าน พยานแต่ละคนมีความสำคัญอย่างไร ที่ต้องนำมาสืบ ต้องคำร้องมาที่ศาล ส่งภายใน 31 มกราคม 2565 พอ 31 มกราคม ศาลก็จะทำการตรวจพยานแต่ละคน มีพยานเยอะ ใช้เวลานิดหนึ่ง ทางโจทก์ทำเสร็จ ทางจำเลยทำเสร็จ ศาลก็ต้องมาอ่านอีต้องใช้เวลานาน สำหรับคดีนี้ตอนแรกก็มีความกังวลใจว่า มีคนเห็นหรือเปล่า เพราะว่ามีการตั้งข้อกล่าวหา พรากผู้เยาว์ขึ้นมาน่าจะมีคนเห็น ตั้งข้อหานี้ได้อย่างไร ในวันนี้ทราบแล้วมันไม่มีประจักรพยาน ก็ทำให้สบายใจขึ้น พยานสำคัญก็กังวลอยู่ในความไม่ประมาท ในเรื่องพยานหลักฐานค่อนข้างกังวล และในวันนี้ขบวนการเสร็จแล้ว ทางลุงพลก็จะมารับเอกสารด้วยตัวเอง เพราะเอกสารเยอะมาก คาดคดีปี 65 น่าจะเสร็จในศาลชั้นต้น
ภาพ/ข่าว ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร รายงานจากมุกดาหาร