นครปฐม “บิ๊กโอ๋” นำทีมคลี่คลายคดี พนักงานสารภาพวางเพลิงประภากรออยล์ สูญ 40 ล้านบาท
1 min readผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ตั้งโต๊ะแถลงสรุปเหตุดพลิงไหม้ โกดังเก็บน้ำมัน ประภากรออยล์ ต.อ้อมใหญ่ โดยเป็นลูกจ้างหัวหน้าแผนกคลังสินค้าก่อเหตุเอง อ้างโกรธที่ถูกตำหนิ โดยแจ้งข้อกล่าวหาวางเพลิงโทษหนักถึงประหารชีวิต ส่วนผู้บริหารโต้ไม่เคยตำหนิรุนแรง แต่ตักเตือนเรื่องความปลอดภัยในโกดัง เบื้องต้นความเสียหาย 40 ล้านบาท พร้อมเยียวยาทุกครัวเรือนที่เดือดร้อน
วันที่ 1 ธันวาคม 64 ที่ สภ.โพธิ์แก้ว อ.เมือง จ.นครปฐม พลตำรวจโทธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจกูธรภาค 7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน นายรัฐศาสร์ ชิดชูชิดชู รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุ วางเพลิงโกดังเก็บน้ำมันประภากรออยล์ ในพื้นที่ ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยมีความสูญเสียถึง 40 ล้านบาท
พลตำรวจโทธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจกูธรภาค 7 เผยว่าในการจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุม นางสาวสิราสินี หรือแอน ศรียา อายุ 38 ปี ชาว อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในข้อหา “วางเพลิงทรัพย์สินของผู้อื่น” ซึ่งทรัพย์นั้นเป็นโรงเรือนที่เก้บสินค้า แจ้งความเท็จ (รู้ว่ามิได้กระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งแก่เจ้าพนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด) และแจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวน ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเสียหาย
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พ.ย. เวลาประมาณ 12.15 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ โกดังสำหรับน้ำมันของบริษัทประภากรออยล์ จำกัด เลขที่ 26/ 15 ม.2 ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม โดย สภ.โพธิ์แก้ว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ร่วมกันบริหารเหตุการณ์ฉุกเฉิน โดยระดมรถดับเพลิงประมาณ 40 คันในการดับไฟ โดยเวลา 16.30 น.จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
ซึ่งจากการตรวจสอบพบมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน คือ นางสาวสิราสินี หรือแอน ซึ่งเป็นพนักงานบริษัท ตำแหน่งหัวหน้าคลังสินค้า ได้ให้การว่าก่อนเหตุได้พบชาย 2 คน เข้ามาก่อเหตุซึ่งได้หลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามสืบสวนตามพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและประกอบกับผู้ต้องหามีพิรุธในการให้ปากคำจึงได้สอบสวนเชิงลึกจนสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุ โดยใช้ไฟแช๊คจุดกระดาษแล้ววางไว้ ในกล่องกระดาษบรรจุนน้ำมันหล่อลื่นจำนวน 2 จุด จนเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว ไม่ได้มีคนร้าย 2 คนตามที่ให้การครั้งแรกแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานทั้งหมดรวบรวมเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา โดยโทษมีสูงสุดประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต โดยมีหลักฐานทั้งหมดและมีชุดที่สวมใส่ในพื้นที่เกิดเหตุ มาเป็นหลักฐาน โดยเจ้าตัวสารภาพว่าโกรธที่ถูกนายจ้างตำหนิจึงได้ก่อเหตุดังกล่าว
ด้าน คุณพิภัช อึ้งประภากร กรรมการผู้จัดการฯ เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวยอมรับว่าช๊อคว่าเกิดจากพนักงานในบริษัทซึ่งที่ผู้ต้องหาได้กล่าวว่ามีความโกรธแค้นเรื่องการถูกตำหนิ ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีการพูดรุนแรงกับผู้ต้องหาแต่มีการตำหนิจริงซึ่งจะเป็นเรื่องความรอบคอบเรื่องของความปลอดภัยของพนักงานที่เข้าออกในโกดังน้ำมัน โดยตอนนี้ความเสียหายมีประมาณ 40 ล้านบาท โดยครั้งแรกที่เคยได้เกิดเพลิงไหม้เมื่อเดือนเมษายนท่ีผ่านมา มีความเสียหายกว่า 90 ล้านบาท ได้มีประกันจ่ายสินไหมมาแล้ว 60 กว่าล้านบาท
ในส่วนของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน บ้านเรือนเสียหายก็จะมีการชดเชยอย่างแน่นอนทุกราย ซึ่งจะดูเป็นรายไปว่ามีความเดือดร้อนเสียหายมากในระดับไหน ซึ่งจะมีการประเมินอีกครั้งหนึ่ง
ภาพ/ข่าว ปนิทัศน์ มามีสุข / นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม