สุรินทร์ ผู้สมัครนายก.อบต.หอบหลักฐานยื่น กกต. การกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และเจ้าหน้าที่รัฐวางตัวไม่เป็นกลาง

สุรินทร์ ผู้สมัครนายก.อบต.หอบหลักฐานยื่น กกต. การกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และเจ้าหน้าที่รัฐวางตัวไม่เป็นกลาง ด้าน กกต.รับเรื่องสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมฝากถึงผู้สมัครทั้ง นายก อบต.และ ส.อบต.ที่ได้รับเลือกและไม่ได้รับเลือก ให้แจ้งรายรับรายจ่าย ภายใน 90 วัน หากไม่ดำเนินการจะมีทั้งโทษอาญาและตัดสิทธิ์ทางการเมือง

วันที่ 9 ธ.ค. 64 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดสุรินทร์ ถนนเทศบาล 4 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายพันทิพย์ แก้วกล้า ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบต.พระแก้ว อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้เข้ายื่นหนังสือพร้อมเอกสารหลักฐานต่อ ร.ต.อ.นิยม เพ็ชรโกมล ผอ.กต.จ.สุรินทร์ เพื่อคัดค้านการเลือกตั้ง เรื่องผู้สมัครรับเลือกตั้งกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และเจ้าหน้าที่ของรัฐวางตัวไม่เป็นกลาง โดยหนังสือที่ยื่นระบุลงวันที่ 9 ธันวาคม 2564 เรื่อง ผู้สมัครรับเลือกตั้งกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และเจ้าหน้าที่รัฐวางตัวไม่เป็นกลาง พร้อมสิ่งที่ส่งมาด้วย หลักฐาน รูปภาพ การกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ข้าพเจ้า นายพันทิพย์ แก้วหล้า ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พระแก้ว อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เบอร์ 2 เลือกตั้งเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ผลการเลือกตั้ง ปรากฏว่า นายธีระศักดิ์ กันนิดา ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พระแก้ว เบอร์ 1 เป็นผู้ได้คะแนนสูงสุด แต่ก่อนถึงวันเลือกตั้ง วันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 นายธีระศักดิ์ กันนิดา ได้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด้วยการบริจาคเงินร่วมทำบุญงานกฐินสามัคคีวัดป่าประทุมวัน บ้านสังพอก ตำบลพระแก้ว อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 1,000 บาท (หนึ่งพันบาทถ้วน) โดยมอบหมายให้นางบัวย้อย กันนิดา ผู้เป็นภรรยา โอนเงินเข้าบัญชีพระศักรินทร์ ชัยยิ่ง วัดป่าประทุมวัน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 เวลา 19.27 น. ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เพราะเป็นห้วงเวลาที่จะมีการเลือกตั้งแล้ว ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งทุกคนจะต้องไม่มีการจำหน่าย จ่าย โอน แจก ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง หรือทรัพย์สินอื่นใดทั้งสิ้น ในช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง เพราะถือว่าเป็นการได้เปรียบเสียเปรียบในผลของการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ข้าพเจ้านายพันทิพย์ แก้วหล้า จึงขอร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ ว่าเป็นการกระทำผลกฎหมายเลือกตั้งอย่างชัดเจน

การกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งของนายธีระศักดิ์ กันนิดา ประการต่อมาโดยการชักชวนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ตำบลพระแก้ว อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งถือว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เป็นเจ้าหน้าที่รัฐต้องวางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้งทุกระดับ แต่นายธีระศักดิ์ กันนิดา ได้ชักชวนให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ให้มาเป็นพวกช่วยหาเสียงให้นายธีระศักดิ์ กันนิดา อย่างโจ่งแจ้ง มีการใส่เสื้อทีมของผู้สมัครรับเลือกตั้งครบทุกคน เป็นเสื้อยืดคอปกสีขาว สกรีนคำว่า ก้าวไปด้วยกัน และจัดเลี้ยงอาหารด้วย ซึ่งสิ่งที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ของตำบลพระแก้วกระทำนี้ ถือว่าเป็นการไม่วางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 เพราะทุกคนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่จะต้องวางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้งทุกระดับ ถือเป็นการให้คุณให้โทษต่อผู้สมัครรับเลือกตั้งด้วยกัน ข้าพเจ้าจึงขอคัดค้านผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลพระแก้ว อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่สุจริต ไม่โปร่งใส และเที่ยงธรรม และเจ้าหน้าที่รัฐวางตัวไม่เป็นกลางหลังจากได้ยื่นหนังสือต่อผอ.กต.จ.สุรินทร์ ได้รับเรื่องไว้ พร้อมทั้งมอบให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวน กกต.สุรินทร์ ได้เรียกเข้าปากคำบันทึกหลักฐานและจะได้เรียกพยานมาสอบปากคำประกอบเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป

นายพันทิพย์ แก้วหล้า ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบต.พระแก้ว อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เบอร์ 2 กล่าวว่า วันนี้ตนได้มาร้องผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบต.พระแก้ว ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบต.กระทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ประเด็นที่ 1.ที่ผู้สมัครไปบริจาคเงินช่วยงานกฐินสามัคคีที่วัดป่าประทุมวัน ม.5 ต.พระแก้ว ในช่วงที่ประกาศการเลือกตั้งแล้ว คือวันที่ 1 ต.ค.64 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ตนจึงมาร้องเพื่อให้ กกต.ได้รับทราบ โดยนำเอกสารการโอนเงินให้วัดมาให้กับทาง กกต.ส่วนประเด็นที่ 2 เรื่องผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐวางตัวไม่เป็นกลาง มีการช่วยผู้สมัครอีกฝั่งหนึ่ง และก่อนการเลือกตั้งก็มีการประชุมกินเลี้ยงกัน มีการฆ่าหมูร่วมกันประมาณ 2-3 ครั้ง มีรูปแจกเสื้อของผู้สมัครเบอร์ 1 เขียนว่า”ก้าวไปด้วยกัน” ให้ใส่เหมือนกันทั้งหมด และจะช่วยกันทุกหมู่บ้าน มีผู้ใหญ่บ้านบางคนที่กันไว้เป็นพยาน เพราะเขามาแล้วเขาไม่ได้ปฏิบัติตามที่กำนันสั่ง มีประมาณ 4-5 คน ตนจึงกันไว้เป็นพยาน สำหรับเหตุการณ์เหตุเกิดที่บ้านกำนันตำบลพระแก้ว ที่มีการกินเลี้ยงกัน ซึ่งผู้ใหญ่บ้านบางคนก็คิดว่านัดไปประชุมเรื่องอะไรกัน พอไปถึงเขาให้ถอดเสื้อแล้วให้ใส่เสื้อทีม”ก้าวไปด้วยกัน”ทุกคน ตามกฎหมายก็คือวางตัวไม่เป็นกลาง และทำให้ตนเสียเปรียบการเลือกตั้งเป็นอย่างมาก ซึ่งต่อไปก็จะได้นำพยานมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม กับ กกต.สุรินทร์ มีทั้งหมด 7 คน เป็นผู้ใหญ่บ้าน จำนวน 4 คน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จำนวน 3 คน ในวันที่ 21 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ นอกนี้ตนจะไปยื่นหนังสือต่อนายอำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ด้วย

สำหรับปัญหาการเลือกตั้งที่ผ่านมา ร.ต.อ.นิยม เพ็ชรโกมล ผอ.กต.จ.สุรินทร์ เผยว่า ภาพรวมการเลือกตั้งสมาชิกสภา อบต.และนายก.อบต.ของจังหวัดสุรินทร์ ทั้ง 144 แห่ง เป็นไปอย่างเรียบร้อย จะมีปัญหาบ้าง แต่ก็สามารถแก้ไขได้ เช่น กรณีการปิดหมู่บ้าน ที่ตำบลตาคง อ.สังขะ และตำบลสมุด อ.ปราสาท เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ก็สามารถจัดการเลือกตั้งได้ ภายใต้มาตรการการควบคุมและป้องกันสถานการณ์โควิค-19 ของคณะกรรมการควบคุมโรคของจังหวัดสุรินทร์ และกรณีของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งฉีกบัตรมีอยู่ 3 คดี ก็มีการดำเนินการไปตามอำนาจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในการเลือกตั้งในครั้งนี้มีจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งของจังหวัดสุรินทร์ มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งคิดเป็นร้อยละ 69.80 % หากเทียบเคียงจากการเลือกตั้ง อบจ.ที่ผ่านมา ถือว่ามีผู้มาใช้สิทธิ์เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นจังหวัดสุรินทร์เรามีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากเป็นอันดับที่ 66 ของประเทศ ที่สำคัญคือการร้องคัดค้านการเลือกตั้ง หลังจากลงคะแนนเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา มีผู้มาร้องคัดค้านทั้งผู้สมัครนายกและสมาชิกที่ กกต.จังหวัด บางแล้ว

ผอ.กต.จ.สุรินทร์ กล่าวอีกว่า ประเด็นสำคัญก็ขอฝากให้ทั้งผู้สมัครนายก อบต.และสมาชิก ที่ได้รับเลือกและไม่ได้รับเลือก จะต้องมายื่นบัญชีค่าใช้จ่ายที่ กกต.สุรินทร์ แต่ในช่วงสถานการณ์โควิค-19 และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้สมัครทั้งสอบได้และสอบไม่ได้ ตนให้ฐานะผู้อำนวยการสำนักงาน กกต.สุรินทร์ ก็ได้มีคำสั่งมอบหมายให้รับยื่นบัญชีได้ค่าใช้จ่าย ที่ อบต.ที่เรากำหนดไว้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก โดยระยะเวลาการยื่นค่าใช้จ่ายภายใน 90 วัน นับจากวันเลือกตั้ง ประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ปี 65 จะครบกำหนด 90 วัน จึงอยากจะฝากทั้งผู้สอบได้และสอบตก ซึ่งเป็นห่วงมาก เพราะหากไม่แจ้งตามกำหนดจะมีโทษทางอาญาและถูกเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมือง ร่วมถึงโทษปรับด้วย ก็อยากให้ปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด