ชัยภูมิ ร้องขอความเป็นธรรมคลอดลูกเสียชีวิต(รพ.เอกชนไม่รับผิดชอบ)
1 min readวันนี้ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดชัยภูมิ ได้รับการร้องเรียนจาก นางสาวกิ่งดาว บำรุงชาติ อายุ 50 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 22 บ้านหนองโก ต.คอนสวรรค์ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ เล่าว่า ตนมีบุตรบุญธรรมที่ขอมาเลี้ยงจากศูนย์กำพร้าจังหวัดขอนแก่น ตั้งแต่เล็กๆชื่อนางสาวปิยะวรรณ บำรุงชาติ อายุ 24 ปีและได้ส่งเสียให้เล่าเรียนจนจบปริญญาตรี สาขาการตลาด และได้แต่งงานกับนายอัชนัย ไชยมี อายุ 26 ปี มีบุตรชาย 1 คนอายุ 5 ขวบ และกำลังจะคลอดอีก 1 คน ในช่วงเดือนมกราคม 65 เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 64 นางสาวปิยะวรรณ ฯ มีอาการท้องเสีย มีไข้ จึงได้ไปหาหมอที่ รพ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี่สุรนารี เพื่อทำการรักษาอาการท้องเสีย และในเวลานั้นแพทย์ได้แจ้งว่าปากมดลูกเปิดแล้วต้องทำการคลอด ทางญาติได้แจ้งกับทาง รพ.ว่าได้มีการฝากครรภ์ไว้ที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งในตัวเมืองจังหวัดนครราชสีมา จึงขอให้ทาง รพ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ส่งตัวมารักษาต่อที่ รพ.เอกชนดังกล่าว ในระหว่างช่วงเวลาประมาณ 16.30 น.ของวันที่ 22 ธันวาคม 64 และนอนอยู่ 1 คืน และแพทย์นัดว่าจะทำการผ่าคลอดในวันที่ 23 ธันวาคม 64 เวลาประมาณ 20.00 น. ได้ส่งตัวนางสาวปิยะวรรณฯเข้าห้องผ่าตัดเพื่อทำการคลอด และได้ผ่าตัดคลอดได้ลูกชาย ออกมาเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้น นางสาวปิยะวรรณ ฯ อาการไม่ดีขึ้น ทางแพทย์จึงได้ทำการปั้มหัวใจใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง อาการของนางสาวปิยวรรณฯ ก็ไม่ดีขึ้นเลย ทาง รพ.จึงได้โทรศัพท์แจ้งญาติ ว่า นางสาวปิยวรรณ ฯ อาการไม่ดีขึ้นเลย และให้สามีเข้าไปในห้องผ่าตัด โดยปั้มหัวใจอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วอาการไม่ดีขึ้นจะให้ปั้มหัวใจต่อหรือเปล่า สามีถามว่าถ้าปั้มหัวใจจะดีขึ้นมั้ย แพทย์แจ้งว่าไม่ดี เพราะร่างกายไม่ตอบสนองแล้วสามีก็เลยให้หยุดปั้มหัวใจ หลังจากนั้นนางสาวปิยะวรรณฯ ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. แพทย์ได้แจ้งว่านางสาวปิยวรรณฯ เสียชีวิตเนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือดและไตวายเฉียบพลัน หลังจากนางสาวปิยวรรณฯ ได้เสียชีวิตทางญาติจึงได้มีการพูดคุยกับทาง รพ.ถึงสาเหตุการเสียชีวิต ของนางสาวปิยวรรณ ฯว่าทำไมจึงต้องเสียชีวิตแบบนี้เพราะร่างกายของนางสาวปิยวรรณ ฯโดยปกติมีร่างกายแข็งแรงและไม่มีโรคประจำตัว แม้แต่บุตรคนแรกคลอดมาก็ไม่เห็นเป็นอะไร แต่มาครั้งนี้ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ถึงกับต้องเสียชีวิต ทาง รพ.แจ้งว่าได้ มีการบล็อกหลังและเกิดอาการเกร็งแล้วช็อดแพทย์ จึงให้ยากระตุ้น และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทางญาติเกิดข้อสงสัยในเสียชีวิตในครั้งนี้ จึงได้มีการพูดคุยกับทาง รพ. แต่ทาง รพ.ไม่ให้ความชัดเจน ในการเสียชีวิตของนางสาวปิยะวรรณฯ แพทย์ได้อธิบายแต่เพียงว่าเป็นการรักษาทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของการรักษาอย่างถูกต้องทุกขบวนการ และ ทาง รพ.เสนอให้ญาติเลือก 2 ช่องทางคือ จะมีการผ่าพิสูจน์ศพ สาเหตุของการเสียชีวิตว่าเกิดจากสาเหตุใด 2. ทาง รพ.จะมีการเยี่ยวยาให้กับทางญาติที่ได้รับการสูญเสีย ทางญาติได้ขอการรับการเยียวยา แต่ทาง รพ.แจ้งว่า จะต้องรอฟังการพิจารณาของคณะกรรมการ โรงพยาบาลก่อนแต่ไม่ทราบว่าจะทราบผลเมื่อใด แต่ทางญาติเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้เดินไปร้องเรียนต่อ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา ทางศูนย์ดำรงแจ้งให้ไปร้องที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาโดยทาง สนง.สาธารณสุขฯ จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนและจะแจ้งให้ทราบภายใน 2 สัปดาห์
ในการเสียชีวิตของนางสาวปิยะวรรณฯ ในครั้งนี้ ทางญาติยังมีข้อสงสัยว่าทำไมทาง รพ.จึงพยายามยัดเยียดให้ญาติรีบนำศพของนางสาวปิยะวรรณฯ กลับบ้านรวดเร็วขนาดนี้ ทางญาติคิดว่ามีอะไรผิดปกติบางอย่างเพราะทำไมต้องรีบให้ญาตินำศพกลับเร็วเกินไป ทั้งๆที่ยังพูดคุยและตกลงยังไม่เป็นที่เรียบร้อยและกว่าจะพบแพทย์ได้ต้องรอแล้วรอเล่าก็ไม่ได้พบแพทย์เสีย ให้แต่ จนท.พยาบาล มาบอกว่าขณะนี้ แพทย์ติดรักษาคนไข้อยู่อีกที่ รพ.อื่นอยู่ ญาติจึงต้องนั่งรอพบแพทย์คนที่ทำการผ่าตัด ตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงวันก็ยังไม่ได้พบ ญาติจึงยังไม่ยอมนำศพกลับเนื่องจากต้องการสอบถามแพทย์ถึงสาเหตุของการเสียชีวิตของนางสาวปิยะวรรณฯ โดยต้องการความชัดเจนที่มากกว่านี้
นางสาวกิ่งดาว บำรุงชาติ มารดาของนางสาวปิยะวรรณ ฯ กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ถ้าทาง รพ.ไม่ให้ความชัดเจนและให้ความเป็นธรรม ต่อครอบครัวของตนก็จะต้องมีการแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีถึงที่สุดกับทาง รพ.ต่อไป
ภาพ/ข่าว คำหอม ชุมชน 02 ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ รายงาน