อาทิตย์. พ.ย. 24th, 2024

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

“บิ๊กป้อม” มอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้คนไร้ที่ดินทำกิน พร้อมสั่งการ บจธ. – หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเกษตรกร คนยากจนที่เดือดร้อนและยังเข้าไม่ถึงที่ดินทำกินทั่วประเทศ

1 min read

“บิ๊กป้อม” มอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้คนไร้ที่ดินทำกิน พร้อมสั่งการ บจธ. – หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเกษตรกร คนยากจนที่เดือดร้อนและยังเข้าไม่ถึงที่ดินทำกินทั่วประเทศ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ธันวาคม 2564 พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
เป็นประธานในพิธี “บจธ. มอบสิทธิในที่ดินทำกิน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ตามโครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน ของ สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ณ วิสาหกิจชุมชนไร่นาสวนผสมเกษตรกรฐานรากช่องโคพัฒนา ตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา โดยมีเกษตรกรที่ทั้งที่ได้รับสิทธิในที่ดินแล้ว และที่อยู่ระหว่างขอความช่วยเหลือเข้าร่วมงานประมาณ 300 คน ในงานดังกล่าว
( รัฐมนตรี รอยืนยัน ) พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศีรวรขาน ประธานกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) กล่าวรายงานความเป็นมา และ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมากล่าว ต้อนรับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และคณะ

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. เป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินภารกิจกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนในการแก้ไขปัญหาด้านที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย การป้องกันการสูญเสียสิทธิในที่ดินจากการจำนอง ขายฝาก ตลอดจนส่งเสริมการใช้ประโยชน์ในที่ดิน การเพิ่มโอกาสการเข้าถึงที่ดินทำกินเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ซึ่งโครงการตามภารกิจของ บจธ. ทุกโครงการ จะน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ มาเป็นหลักในการพัฒนาที่ดินในโครงการด้วย เพื่อจะได้รักษาสิทธิในที่ดินทำกินที่รัฐบาลมอบให้ในวันนี้ ไว้ให้ลูกหลานสืยทอดต่อไป

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน กล่าวว่า จากปัญหาความเหลื่อมล้ำในที่ดินทํากิน ที่อยู่อาศัย และ ความยากจน ประชาชนที่ไม่มีที่ดินทํากิน และไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง รวมถึง ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ผู้ประกอบการจํานวนมากปิดกิจการ ทําให้ประชาชนไม่มีงานทํา และขาดรายได้ในการดํารงชีพ รัฐบาลจึงได้มอบนโยบายให้ บจธ. ซึ่งป็นหน่วยงานที่มีภารกิจสำคัญของประเทศเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ทั้งการช่วยเหลือประชาชนให้มีที่ดินทํากิน และมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยต้องเร่งกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน รวมทั้งป้องกันและแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิในที่ดิน จากการจํานอง การขายฝาก และ การถูกบังคับคดี ซึ่งจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ประชาชนจํานวนมากได้รับผลกระทบ หลายบริษัทห้างร้านเลิกจ้างพนักงาน หรือโรงงานปิดตัวลง ผู้คนเดินทางกลับภูมิลำเนาไม่มีอาชีพรองรับ บจธ. ต้องให้ความช่วยเหลือ และน้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ สู่การปฏิบัติเพื่อพัฒนาให้เกิดความยั่งยืนในทุกพื้นที่ พร้อมทั้งบูรณาการร่วมกับหน่วยงาน ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อให้มีการใช้งบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน จนนำมาสู่ความสำเร็จ ในการดำเนินการ นำความสุขความภาคภูมิใจมาให้แก่เกษตรกร ถือเป็นของขวัญปีใหม่ของรัฐบาลในปี 2565 ที่ใกล้จะถึงนี้ บจธ. จึงได้จัดพิธี “บจธ. มอบสิทธิในที่ดินทำกิน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาเกษตรกร ผู้ยากจน และพี่น้องที่ว่างงานของรัฐบาล และเพื่อให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน ซึ่งขณะนี้ บจธ. อยู่ระหว่างการเสนอร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการที่ดินและกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน พ.ศ. …. ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ภายในเดือนมกราคม 2565 นี้

นายกุลพัชร ภูมิใจอวด ผู้อำนายการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บจธ. ได้มุ่งมั่น ลดความเหลื่อมล้ำเรื่องที่ดินทำกิน โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางให้เกษตรกรในการทำการเกษตร เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น บจธ. มีภารกิจที่สำคัญในการจัดหาและพัฒนาที่ดิน โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของพี่น้องเกษตรกรและชุมชน ให้พึ่งพาตัวเองได้ ซึ่งปัจจุบัน บจธ. ได้ให้การช่วยเหลือและสนับสนุนกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ไปแล้ว 11 พื้นที่ และสหกรณ์การเกษตร 1 พื้นที่ ครอบคลุมทั้ง 5 ภาค (ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้) เนื้อที่รวม 1,234 – 2 -17.7 ไร่ จำนวน 482 ครัวเรือน และแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิในที่ดินไปแล้ว 387 ราย โครงการนำร่องธนาคารที่ดินในพื้นที่นำร่อง 5 ชุมชน เนื้อที่ 717 ไร่เศษ จำนวนเกษตรกร 500 ครัวเรือน โดยทุกชุมชนมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าชื่นชมมาก เกษตรกรทุกพื้นที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รายละเอียดโครงการ ประกอบไปด้วย

1. โครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน เป็นการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกร ที่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ให้มีที่ดินทำกินและได้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างยั่งยืน โดยกลุ่มต้องจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน หรือกลุ่มสหกรณ์ และมองหาที่ดินที่ต้องการใช้ประโยชน์ในรูปแบบกรรมสิทธิ์แบบแปลงรวม บจธ. จะเป็นผู้เจรจาร่วมกับกลุ่มสมาชิกจัดซื้อที่ดินเพื่อนำมาให้ เช่า หรือเช่าซื้อระยะยาวไม่เกิน 30 ปี ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ สนับสนุนการจัดทำผังแปลงที่ดินตามหลักภูมิสถาปัตย์และโครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงสินเชื่อเพื่อพัฒนาที่ดิน และที่อยู่อาศัย ปัจจุบัน บจธ. ได้ให้การสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนไปแล้ว 11 กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และ 1 สหกรณ์การเกษตร ใน 5ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลำพูน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครราชสีมา ภาคตะวันออก จังหวัดจันทบุรี ภาคตะวันตก จังหวัดตาก จังหวัดเพชรบุรี และภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกษตรกรได้รับความช่วยเหลือ จำนวน 482 ครัวเรือน จำนวนที่ดิน 1,234 – 2 -17.7 ไร่ ซึ่งมีตัวอย่างที่เห็นภาพความสำเร็จได้อย่างเป็นรูปธรรมคือพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือคือ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนไร่นาสวนผสมเกษตรกรฐานรากช่องโคพัฒนา ตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา มีเกษตรกรและผู้ยากจนที่ได้รับความช่วยเหลือจำนวน ๔๕ ครัวเรือน สมาชิกบางส่วนเป็นผู้ไร้ที่ดินทำกิน บางส่วนถูกเจ้าของที่ดินบอกเลิกเช่า และบางส่วนได้รับความเดือดร้อนจากนโยบายโครงการการพัฒนาของภาครัฐ ในการก่อสร้างทางรถไฟรางคู่ เส้นทางกรุงเทพ-หนองคาย และกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกทวงพื้นที่ผืนป่า สมาชิกจึงได้มีการรวมกลุ่มกันและยื่นหนังสือขอรับความช่วยเหลือจาก บจธ. ต่อมา บจธ. ได้มีการจัดซื้อที่ดินโดยมีการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นของ บจธ. เนื้อที่ ๑๕๐-๐-๑๗ ไร่ และได้มีการทำสัญญาเช่ากับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ เป็นระยะเวลา ๒ ปี เพื่อให้กลุ่มเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งการวางแผนการดำเนินงาน การบริหารจัดการ เพื่อสร้างความเข้มแข็งของกลุ่ม ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการเช่าซื้อตามหลักเกณฑ์ของ บจธ. ต่อไป ซึ่งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ได้มีการจัดสรรแบ่งแปลงให้เกษตรกรเข้าไปใช้ประโยชน์เรียบร้อยแล้ว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ มีการบริหารจัดการกลุ่มที่ดี สมาชิกมีความเข้มแข็ง ให้ความร่วมมือในการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน และสามารถใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้เต็มศักยภาพ พื้นที่มีความก้าวหน้าในการดำเนินงาน และมีการใช้ประโยชน์ในพื้นที่จนเกิดผลผลิตและสามารถสร้างรายได้ให้แก่ครัวเรือนได้ ถือเป็นพื้นที่ต้นแบบ หรือตัวอย่างความสำเร็จ (Best Practice) ของการดำเนินงานของ บจธ. โครงการแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิในที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจน บจธ. ได้ช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาจะสูญเสียสิทธิในที่ดิน หรือสูญเสียสิทธิไปแล้ว โดยการสนับสนุนสินเชื่อให้เกษตรกรเพื่อนำไป

ไถ่ถอนที่ดินจากสถาบันการเงินและเจ้าหนี้นอกระบบ จากการจำนอง ขายฝาก และชำระหนี้ตามคำพิพากษา เพื่อคงสิทธิในที่ดิน รวมไปถึงจัดซื้อที่ดินของลูกหนี้ที่ถูกขายทอดตลาด หรือหลุดขายฝากไปแล้ว ในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท เพื่อคงสิทธิให้เกษตรกรและผู้ยากจนได้กลับมามีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยในที่ดินของตนเองต่อไป และให้สินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรมแก่เกษตรกรเพื่อเป็นทุนในการประกอบอาชีพ ปัจจุบัน บจธ.
ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรแล้ว 387 ราย รวมเนื้อที่ทั้งหมด 2,319-0-55.9 ไร่

3. โครงการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาด้านที่ดินจากการดำเนินนโยบายของรัฐ มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และผู้ยากจน ที่ประสบปัญหาด้านที่ดินจากการดำเนินนโยบายของรัฐ เช่น โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC และทางหลวงสายพิเศษ บางปะอิน–นครราชสีมา เป็นต้น บจธ. จะสนับสนุนสินเชื่อสำหรับจัดซื้อที่ดินให้เกษตรกร ผู้ยากจนมีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ในรูปแบบแปลงรวมถือกรรมสิทธิ์ร่วม และน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ในการทำเกษตรกรรม เพื่อให้สามารถดำรงชีพได้อย่างมั่นคง  ปัจจุบันมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับการสนับสนุนไปแล้ว 2 กลุ่ม พื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดฉะเชิงเทรา  มีเกษตรกรได้รับความช่วยเหลือ 53 ครัวเรือน  รวมเนื้อที่ทั้งหมด 103-2-51.3 ไร่ 

4. โครงการนำร่องธนาคารที่ดินในพื้นที่นำร่อง 5 ชุมชน (ดำเนินงานในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และลำพูน) บจธ. ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนที่ไม่มีที่ดินทำกินหรือมีไม่เพียงพอต่อการประกอบอาชีพในพื้นที่เป้าหมายให้มีที่ดินทำกินและอยู่อาศัยตามรูปแบบที่ บจธ. กำหนด ซึ่ง บจธ. ได้ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน จำนวน 500 ครัวเรือน โดยได้จัดซื้อที่ดินตามแผนโครงการดังกล่าว เป็นจำนวนที่ดิน  741-3-91.5 ไร่

เกษตรกรและผู้ยากจนที่ประสบปัญหาเรื่องที่ดินทำกินสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่

กรณีขอรับความช่วยเหลือในการกระจายการถือครองที่ดิน ติดต่อ กองบริหารจัดการที่ดิน โทร 0 2278 1648 ต่อ 501, 511

กรณีขอรับความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิหรือจะสูญเสียสิทธิในที่ดิน ติดต่อ กองบริหารสินเชื่อ โทร 0 2278 1648 ต่อ 601, 602, 610 หรือสอบถามพูดคุยได้ที่ inbox เว็บไซต์ https://www.labai.or.th/

Loading…

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.