นครปฐม เดอะโอ๋ แถลงปิดจ๊อบ ไอ้เอ็มกราดยิง งานบวช เผยปมญาติไปหยิบเหล้าคนตายและบาดหมางกัน

เรื่องแค่หยิบเหล้าไปกิน ชนวนเหตุกระหน่ำยิงกลางานเลี้ยงฉลองานบวช มีคนตาย 1 เจ็บอีก 3 ราย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 สั่งการไล่ล่าสุดท้ายตะครุบตัว ไอ้เอ็มมือยิงได้ทันควัน สารภาพหยิบปืนมาช่วยญาติหลังไปหยิบเหล้าผู้ตายมาดื่มช่วงสาย ก่อนจะมาพบตัวที่งานกลางดึกเห็นยังมีปากเสียง คว้าปืนยิงขึ้นฟ้าก่อนรัวไม่ยั้งหนีไปราชบุนรีแต่ถูกจับกุมไม่ทันข้ามคืน ทั้งนี้พบว่ามือยิงมีความช่ำชองในการใช้อาวุธและยิงไปถึง 4 แม๊กกาซีน ส่วนผู้ตายก็พกปืนให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานว่าการยิงเกิดขึ้นอย่างไร จากนี้เข้มจับอาวุธปืนเพิ่มกระบอกไหนถูกจับขออนุมัตินายทะเบียนเพิกถอนใบอนุญาตทันที ขณะเพื่อนผู้ตายคาใจมีการวางแผนเรียนมาสังการหรือไม่ วอนตำรวจทำงานตรงไปตรงมา

วันที่ 3 มกราคม 65 ที่ สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตย์ วุฒิจรัสธำรง ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รองผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.อรรถการ กองสุผล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ธีรเชษฐ์ ธนวินรวีร์ ผกก.กำแพงแสน พร้อมชุดคลี่คลายคดีได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการติดตามจับกุมในคดีกราดยิงภายในงานเลี้ยงฉลองงานบวช เหตุเกิดที่ ม.6 ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 2 มกราคม 65 ที่ผ่านมา ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยทัพสื่อมวลชนที่เข้ามาตั้งหลักฟังการสรุปคดีและญาติผู้ตายที่มีอารมคุกรุ่นหลายสิบรายที่อยากมาเห็นหน้าฆาตรกรโหดรายนี้

พล.ต.ท.ธนายุตย์ วุฒิจรัสธำรง ผบช.ภ.7 เผยว่าในการจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม นายธนัท จ้อยร่อย หรือเอ็ม อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 ม.6 ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.1/2565 ลงวันที่ 2 มกราคม 65 ในฐานความผิด ฆ่าผู้อื่น , พยายามฆ่าผู้อื่น , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามแก่พฤติการณ์ ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน” พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนกึ่งพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อCZ รุ่น 75 P-01 จำนวน 1 กระบอก ซองกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 1 ซอง เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 16 นัด โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ บริเวณหน้า สภ.กรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี

โดยคดีดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. ของคืนวันที่ 1 มกราคม 65 ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 41 ม.6 ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งมีการจัดงานเลี้ยงฉลองงานบวชของเจ้าภาพ ได้มีเหตุการยิงกันทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ทราบชื่อคนก่อเหตุคือ นายธนัท จ้อยร่อย หรือเอ็ม อายุ 40 ปี โดยหลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้สีเทา หลบหนีออกไปจากที่เกิดเหตุ และเจ้าหน้าที่ได้ติดตรมจับกุมตัวได้ ในที่สุด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้นายพิพัฒน์ แก้วพิณ อายุ 54 ปี ถึงแก่ความตายในที่เกิดเหตุ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ประกอบด้วย นายสมร ศรีสุข นายศิริศักดิ์ แจ้งธรรมมา และนายจรูญ คล้ายเมือง ทั้งหมดถูกลูกหลงจากคมกระสุนของนายธนัทหรือเอ็ม

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า สำหรับมูลเหตุในการก่อเหตุ ในการสอบสวนเบื้องต้น นายธนัทให้การว่า ในวันเกิดเหตุได้เข้ามาร่วมในงานบวชตั้งแต่ช่วงเวลา 10.00 น.และได้นั่งดื่มเหล้าในงาน แต่ก็ได้เห็นนายพิพัฒน์ มีปัญหากับนายปลั๊ก (ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้อง) ของตนเอง เรื่องจากที่นายปลั๊กได้เอาเหล้าของผู้ตายไปดื่ม หลังจากนั้นผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปดื่มเหล้าต่อที่อื่น กระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น. ได้ทราบว่าผู้ตายจะกลับเข้ามาที่งานเลี้ยงฉลองงานบวช จึงได้ไปหยิบอาวุธปืนมาจากรถที่จอดเอาไว้ และได้เห็นผู้ตายมีปากเสียงกับนายปลั๊กอีก จึงได้ยิงปืนขึ้นฟ้า 3 นัด และเห็นผู้ตายทำท่าจะชักอาวุธปืนจึงได้ใช้อาวุธยืนใส่ผู้ตายและหลบหนีก่อนจะถูกจับกุมในที่สุด

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวอีกว่า สำหรับในคดีดังกล่าวตนเองได้ทำการสอบสวนด้วยตัวเองแล้วพบว่าประเด็นในการก่อดเหตุนั้นเกิดจากความรุนแรงที่เกิดจากอาวุธปืนและก่อเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ในงานปประเพณี โดยสามารถเก็บแม็กกาซีนได้ 4 แม็กกาซีนและปลอกได้กว่า 40 ปลอก ซึ่งคนก่อเหตุมีความช่ำชองในการใช้อาวุธปืนเพราะมีการฝึกซ้อมบ่อยถือว่าอันตรายมาที่มาก่อเหตุในงาน ซึ่งตอนนี้ได้สั่งการให้ผู้บังคับการฯนครปฐม ดำเนินการอย่างเต็มที่ตรงไปตรงมา นอกจากนี้ยังพบว่า ในวันเกิดเหตุในงานมีการจัดงานที่มีการให้ดื่มสุรา ซึ่งตามคำสั่ง สบค.จังหวัดนครปฐม ได้มีคำสั่งห้ามดื่มสุราตรงนี้ก็จะเอาความผิดด้วย

สำหรับมูลเหตุก็พบว่า มีความบาดหมางกันมาก่อนในช่วงเช้าและกลับมาพบกันที่งานจึงได้มีการก่อเหตุ แต่ก็ต้องมีการสืบสวนด้วยพยานหลักฐานว่ามีการยิงกันอย่างไร มีใครยิงก่อน เพราะผู้ต่ายก็ได้พกอาวุธปืน Glock 19 ซึ่งเป็นขนาด 9 มม. โดยมือยิงก็พบปืนขนาด 9 CZ ที่มีการพกแม๊กกาซีนมาถึง 4 แม๊กกาซีน ซึ่งปกตินายทะเบียนจะอนุญาตให้พกได้แค่ 12 นัด และยังพบว่าหัวกระสุนเป็นหัวระเบิดซึ่งหวังผลแก่ชีวิตด้วย โดยตอนนี้ได้ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 8 จังหวัดว่าหากอาวุธปืนกระบอกใดที่มีการก่อเหตุ ก็จะให้นายทะเบียนเพิกถอนใบอนุญาตและปกติก็ไม่สามารถพกพาปืนได้ แต่ครั้งนี้มือยิงพกมาเยอะกว่าปกติ

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวอีกว่า ในพื้นที่ภาค 7 ได้มีการกวดขันในการกวดขันอาวุธปืนมา 4 ครั้งและแต่ละครั้งก็จับกุมมาได้ครั้งละ 2 พันกว่ากระบอกโดยครั้งล่าสุดก็มีการจับกุมได้พันกว่ากระบอก ซึ่งจากนี้กระบอกไหนถูกจับจะขออนุมัติให้นายทะเบียนเพิกถอนใบอนุญาตทั้งหมด และนอกจากนี้จะขอความร่วมมือกับประชาชนที่ถ่ายภาพและคลิบในวันเกิดเหตุให้มาพบผู้กำกับการ สภ.กำแพงแสน และผู้การฯจังหวัดนครปฐมได้ เพื่อตำรวจได้เก็บหลักฐานพยานได้รวดเร็วขึ้น

โดยหลังการแถลงข่าว นายสุนทร สมัยนิยม อายุ 44 ปี เพื่อนผู้ตาย ซึ่งมาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนราว 50 คน บอกว่าวันนี้เพื่อนๆทุกคนพยายามที่จะขอเข้ามาดูว่าทางตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาอะไรบ้าง ส่วนหน้ามือยิงก็ไม่ได้อยากมาดูเพราะเคยรู้จักกันหมดอยู่แล้ว สิ่งที่สำคัญคือมูลเหตุในการก่อเหตุที่นายธนัท หรือเอ็มได้ทำลงไปนั้นคืออะไรเพราะพฤติกรรมเหี้ยมโหดเกินไปและอยากให้ตำรวจดำเนินคดีขั้นสูงสุดไม่อยากให้มีการมาวิ่งเต้นหรือล้มคดีเพราะชาวบ้านหลายคนรับไม่ได้ และอยากทราบถึงคนที่มีการมาตามตัวผู้ตายและถ่ายคลิบในช่วงเกิดการณ์ที่เกิดขึ้น ว่ามีการวางแผนไว้ด้วยหรือไม่ เพราะมีการถ่ายคลิบในช่วงการเจรจาและบันทึกภาพนาทีที่มีการยิงหลายนัดไว้ได้

ภาพ/ข่าว ปนิทัศน์ มามีสุข / นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม