นนทบุรี รวบแล้วหนุ่มกร่างใช้สากกระเบือตีหน้าสาวเทคนิคการแพทย์และต่อยเด็ก 18 คิ้วแตก
1 min read
จากกรณี น.ส. ทศพร โชคสมบุรณ์กุล อายุ 34 ปี นักเทคนิคการแพทย์ที่ได้รับบาดเจ็บถูกคนร้ายเป็นชายไม่ทราบชื่อวัยกลางคนใช้สากกระเบือตีบริเวณใบหน้าได้รับบาดเจ็บขณะเดินสวนกันบนสะพานลอย ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.64 เวลาประมาณ 06.40 น.
ต่อมาคนร้ายคนเดิมได้ก่อเหตุซ้ำใช้หมัดต่อยนาย จุลจักร หมวดหยู อายุ18 ปี คิ้วเแตกเบ้าตาบวมปูด บริเวณบนสะพานลอยหน้าห้างโลตัสสาขา แคราย ถ.ติวานนท์ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 4 ม.ค.65 เวลาประมาณ 11.41 น. ก่อนจะรีบวิ่งหลบหนีไปผู้เสียหายได้ไปแจ้งความไว้ที่สภ.รัตนาธิเบศน์
ล่าสุดวันที่ 8 ม.ค.65 ที่สภ.รัตนาธิเบศร์ พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.รัตนาธิเบศร์ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายเพชรน้ำหนึ่ง สุวรรณพิพัฒน์ อายุ 31 ปี ที่อยู่ 88/4ถ.รัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง กทม.โดยจับกุมตัวได้ที่ป้ายรถประจำทางหน้าหมู่บ้านอินโดไทย ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี
จากการสอบถามนายเพชรน้ำหนึ่ง กล่าวว่าก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งใช้มือชกต่อยส่วนใหญ่ทำเด็กนักเรียนเดินผ่านมาท่าทางกวนๆตนคุมสติตัวเองไม่ได้ ล่าสุดเมื่อเช้าตนเดินผ่านผู้หญิงแล้วเขามาเฉี่ยวตน เขาทำท่าทางไม่พอใจแล้วมาว่าตน ตนโกรธเลยทำร้าย เด็ก 18 ที่บนสะพานลอยเขามาถามว่าทำไมเดินแกว่งแกว่ง ตนเลยชกหน้า ส่วนน้องผู้หญิงบนสะพานลอยที่ Pantip ตนใช้สักกะเบือไม้อันเล็กๆ ตีเนื่องจากตนเมาเหล้า เดินไปชนเขาเขาเลยมาด่า ก็เลยทำร้ายใช้สักกะเบือตี ตอนนี้ไม่ได้ทำงานอะไรน้องสาวแม่ให้เงินใช้ ก่อนหน้านี้เรียนหนังสือ เรียนจบไม่มีงานทำ ก็เลยขอเงินญาติใช้ไปเรื่อยๆ
พ.ต.อ.เมษนนท์ กล่าวว่า หลัง หลังเกิดเหตุการณ์ขึ้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ออกสืบหาลงพื้นที่ ประชาสัมพันธ์แจ้งเบาะแสให้กับชาวบ้าน เพื่อให้ทราบถึงตำหนิรูปพรรณของคนร้าย จนกระทั่งก่อนถูกจับกุม พลเมืองดีแจ้งว่าพบเห็นคนร้าย ภายในซอยเรวดี เมื่อนำกำลังเข้าไป จึงพบว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุทำร้ายหญิงสาวและชาวบ้านหลายรายในเขตพื้นที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ และนครบาล ทางเจ้าหน้าที่อยากจะแจ้งเตือนถึงผู้เสียหายที่เเคยถูกคนร้ายทำร้ายร่างกาย สามารถมาดูตัวและชี้ตัวได้ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้รับอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ
