สวนส้มโอไทยทวี ชี้โอกาสส้มโอนครปฐม โอสดใส แน้วโน้มผลิตไม่ทันขาย หลังมะกันไฟเขียวนำเข้าทุกสายพันธุ์

ลูกชายนายกสมาคมส้มโอไทย เจ้าของสวมส้มโอไทยทวี นครชัยศรี เผยเกษตรกร ผู้ประกอบการต้องเตรียมความพร้อมทางด้านวิชาการและเทคโนโลยี หลังสหรัฐอเมริกา ปลดล๊อครับส้มโอไทยทุกสายพันธุ์เข้า ยอมรับพื้นที่เกษตรนครชัยศรี แหล่งผลิตส้มโอชื่อดังระดับโลกขยายไม่ออกส่งผลทำให้ผลิตส่งออกไม่พอ ต้องขยายพื้นที่ในจังหวัดใหญ่ ซึ่งหน่วยงานรัฐต้องประชาสัมพันธ์และให้ความรู้ จะนำเงินเข้าประเทศได้อีกมหาศาล

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานการเตรียมความพร้อมของเกษตรกร หลังจากกรมวิชาการเกษตร เผยกรณีสหรัฐไฟเขียวเปิดตลาดนำเข้าส้มโอไทยแบบไม่จำกัดพันธุ์ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี โดยส้มโอต้องผ่านการฉายรังสี 400 เกรย์ แหล่งผลิตและโรงคัดบรรจุต้องได้รับการรับรอง พร้อมลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการตรวจสอบผลไม้ฉายรังสีก่อนส่งออก โดยมีสถิติตัวเลขการส่งออกในปี 64 มีมูลค่ากว่า 900 ล้านบาท

นายธนกฤต ไทยทวี ผู้บริหารสวนส้มโอไทยทวี ในพื้นที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เผยว่าสำหรับข่าวดีในเรื่องดังกล่าวนับว่าเป็นข่าวดีของเกษตรกรผู้ปลูกส้มโอ ซึ่งที่สวนส้มโอไทยทวี นั้นได้ก่อตั้งโดย ดร.ทิม ไทยทวี บิดา นายกสมาคมส้มโอไทย โดยตนเองได้สานต่องานโดยเปิดให้เป็นแหล่งเรียนรู้ในการนำเคล็ดลับและเทคโนโลยีมาถ่ายทอดให้กับเกษตรกร และเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศอย่างสร้างสรรค์ (Agritourism) และยังมีกิ่งพันธุ์ส้มโอสายดั้งเดิมจำหน่ายมานานกว่า 50 ปี โดยตอนนี้ได้มีการเพาะปลูกและจำหน่าย ส้มโอ 5 สายพันธุ์หลักในพื้นที่คือ สายพันธุ์ขาวน้ำผึ้ง สายพันธุ์ทองดี สายพันธุ์ขาวพวง สายพันธุ์ขาวแป้น สายพันธุ์ขาวหอม และยังมีการนำสายพันธุ์ทับทิม ที่นำมาจากภาคใต้ มาปลูกอีกด้วย ซึ่งเรื่องที่กรมวิชาการเกษตรได้มีการนำเสนอข้อมูลไปทำให้เกษตรกรมีความตื่นตัวมากเพราะเกิดวิกฤติกับส้มโอนครชัยศรีมาหลายครั้งนี่เป็นโอกาสที่จำสร้างรายให้กับเกษตรกรและประเทศไม่น้อย

นายธนกฤติ กล่าวว่าเรื่องนี้อาจจะมีปัญหาซ่อนอยู่ นั่นคือการเจริญเติบโตของเมืองที่ทำให้พื้นที่ในเขตอำเภอนครชัยศรี มีพื้นที่ทางการเกษตรนั้นลดน้อยลงและไม่สามารถขยายเพิ่มขึ้นได้อีกแล้วและคนรุ่นใหม่ได้ลดความสนใจในการประกอบอาชีพทางการเกษตร ซึ่งเราเคยประสบปัญหาวิกฤติใหญ่ในช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมาเมื่อปี 54 ทำให้สวนส้มโอในเขตอำเภอนคชัยศรี สามพรานและพุทธมณฑลนั้นเกิดความเสียหายและเกือบจะสูญพันธุ์ไปครั้งหนึ่งแต่ก็มีการรวบรวมการช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐและเกษตรกรเองในการอนุรักษ์สายพันธุ์เอาไวได้สำเร็จและช่วงนั้นได้รับการชดเชยไร่ละ 3,000 บาท ทำให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากมาจนถึงตอนนี้

“เรื่องที่สหรัฐอเมริกา พร้อมรับส้มโอไทยทุกสายพันธุ์นั้นผมว่าเป็นข่าวดี จากที่ปัญหาส้มโอเคยราคาตกต่ำเหลือเพียงลูกละ 50 บาท มาจนถึงวันนี้มาราคาลูกละ 100-150 บาท เป็นเครื่องยืนยันว่าส้มโอนั้นเป็นผลไม้ที่ดี ยิ่งส้มโอของจังหวัดนครปฐมนั้นสร้างชื่อไประดับโลก และถูกบรรจุเอาไว้ในคำขวัญประจำจังหวัด นี่คือสิ่งที่มีค่าของจังหวัดนครปฐม ที่จะสร้างรายได้ อาชีพได้อีกในอนาคนตระยะยาว” นายธนกฤติ กล่าว

นายธนกฤติ กล่าวอีกว่า ตอนนี้การเตรียมตัวของเกษตรกร คือเรื่องสำคัญเพราะเราทำเรื่องนี้กันมาตั้งแต่ปี 2549 ถึงวันนี้ก็ 15 ปีแล้ว แต่ผู้ส่งออกจะต้องการปรับตัวหลายเรื่องทั้งในเรื่องของล้งรับซื้อ การเตรียมโรงบรรจุ และต้องมีการผ่านมาตรฐาน GMP รวมถึงการไปขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร และที่สำคัญคือการต้องฉายรังสีมากกว่า 400 เกรย์ เพราะต้องมีการกำจัดเรื่องของแมลงวันผลไม้ ซึ่งโอกาสในพื้นที่จังหวัดนครปฐมนั้นแทบจะเต็มแล้ว แต่ต้องไปขยายกับจังหวัดที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่และให้ความรู้ที่ชัดเจน ซึ่งเราก็มีหลายตลาดต่างประเทศที่หลากหลายอยู่แล้วทั้ง จีน ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ และยังมีญี่ปุ่นที่มีการนำสายพันธุ์ทองดีเข้า แต่ต้องมีการอบไอน้ำ เพื่อฆ่าเชื้อแมลงวันผลไม้ เช่นกัน และวันนี้รับว่าการผลิตไม่น่าจะพอ

ซึ่งสิ่งที่หน่วยงานรัฐจะต้องมามาช่วยคือ การรณรงค์ส่งเสริมในเรื่องนี้เพื่อให้เกิดการตื่นตัวเพราะปลูกครั้งหนึ่งได้ 40 ปี อย่างน้อยก็ 25 ปี และต้องทำให้ผิวสวย เนื้อดี รสชาตดี รับรองส่งออกไม่ทันเพราะในประเทศก็มีความต้องการบริโภคกันมากโดยมีการรอรับกันหน้าสวนตั้งแต่แรกแล้ว

นายธนกฤติ บอกว่าส้มโอ มีคุณภาพดีคือเมื่อสุกแล้วสามารถทิ้งไว้คาต้นได้นาน และเมื่อตัดออกมาแล้วก็ยังเก็บได้อีกนาน ทำให้เรื่องการกลัวว่าจะเกิดการเน่าสูญเสียมีน้อย ซึ่งหากเกษตรและผู้ส่งออกมีการจับมือกันและมีหน่วยงานรัฐมาช่วยสนับสนุนก็จะมีทิศทางที่ดี ซึ่งในจังหวัดนครปฐม สำนักงานเกษตรจังหวัดนครปฐม ได้มีการหารือและทำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้แล้ว โดยรวมถือว่าโอกาสดีแต่ติดตรงที่จะผลิตไม่ทันส่งออก นี่คือเรื่องดีที่คิดว่าจะเกิดกับเกษตรผู้ปลูกส้มโอในประเทศ

ขณะที่ นายศิริชัย เลี้ยงอำนวย เกษตรจังหวัดนครปฐม ได้ให้ข้อมูลว่า จังหวัดนครปฐม มีเนื้อที่ทางการเกษตรที่เกี่ยวกับการปลูกส้มโอ โดยมีเกษตรกร จำนวน 1,730 ครัวเรือน พื้นเก็บเกี่ยวผลการผลิตจำนวน 7,122.67 ไร่ เนื้อที่ในการเก็บเกี่ยวผลผลิต 4,258.50 ไร่ ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ 14,727,071.00 กิโลกรัม ซึ่งอำเภอสามพรานเป็นพื้นที่ผลิตอันดับ 1 ตามด้วยอำเภอนครชัยศรี

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสอบถาม ได้ที่ คุณธนกฤต ไทยทวี โทร 083-626-5499 Line:tanakitthaithawee เฟซบุ๊ก สวมส้มโอไทยทวี

อีเมล์ tanakit220317@gmail.com

ปนิทัศน์ มามีสุข / นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม