ศรีสะเกษ คณะสงฆ์-สำนักพุทธฯ สั่งห้ามพระพ่นไฟไล่ผี-รักษาคน หวั่นอันตรายกระจายโควิด
1 min readเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ก.พ. 65 ที่วัดป่าพลาญเพชร ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พระครูโกศลสิกขกิจ เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ) พร้อมด้วยเจ้าคณะตำบลไพรพัฒนา ร่วมกับ นายเอกสิทธิ์ ดวงแก้ว นักวิชาการศาสนาชำนาญการพิเศษ ผอ.กลุ่มงานอำนวยการและกิจการคณะสงฆ์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจังหวัดศรีสะเกษ ปลัดอำเภอภูสิงห์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอภูสิงห์ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีชาวบ้านคนหนึ่งร้องเรียนเกี่ยวกับเหตุพระพ่นไฟ ไล่คุณไสย์มนต์ดำ รักษาผู้ป่วย ซึ่งชาวบ้านคนดังกล่าวอ้างว่า หลังทำพิธีแล้วมีอาการผิดปกติ หวาดกลัว หูแว่ว หวาดระแวง อาละวาดโวยวาย และไม่ยอมกลับบ้าน โดยจากการตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้ร้องเป็นผู้ป่วยจิตเวช ที่ยังคงรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล จ.อุบลราชธานี และรับประทานยาจิตเวช เป็นประจำ แต่เนื่องจากหลังทำพิธีแล้ว ไม่ยอมกลับบ้าน จึงมีอาการขาดยา และโวยวาย เป็นที่มาของการร้องเรียนดังกล่าว
พระครูวัชรชยาภินันท์ เจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร (ธ) กล่าวชี้แจงว่า อาตมาต้องขออภัยกับทุกหน่วยงานที่ทำให้เกิดปัญหา ที่อาจทำไปโดยพลกาล แล้วทำให้เกิดปัญหาเสื่อมเสียศรัทธา ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ยืนยันว่าเป็นการช่วยเหลือญาติโยมที่มาหวังพึ่ง เมื่อเขามาขอความช่วยเหลือแล้วไม่ช่วยเหลือเขามันก็จะขาดคุณธรรมขาดความเมตตา เป็นการช่วยเหลือตามศาสตร์ที่อาตมาได้ร่ำเรียนมา ไม่ได้อวดอุตริ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งพิธีดังกล่าวเป็นการนำผู้ป่วยที่โดนคุณไสย์มนต์ดำ หรือคนที่เชื่อศรัทธา บางคนไปหาหมอที่โรงพยาบาลแล้วรักษาไม่หาย มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง พอมาทำพิธีปัดเป่ารักษาที่วัดแล้ว กลับกลายเป็นว่าอาการที่เจ็บป่วยเริ่มดีขึ้น ทั้งนี้พิธีดังกล่าว ได้สืบทอดมาจากหลวงปู่สรวง เทวเดินดิน เกจิอาจารย์ชื่อดังที่มรณภาพไปแล้วประมาณ 17 ปี แต่ร่างไม่เน่าเปื่อย เป็นที่เคารพศรัทธาของทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชา โดยไม่เรียกเก็บเงินจากชาวบ้านแต่อย่างใด มีเพียงค่าครู 199 บาท และพร้อมยินดีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ
ด้าน พระครูโกศลสิกขกิจ เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ยุติการพ่นไฟถอนพิษรักษาตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เนื่องจากอาจเปิดอันตรายกับญาติโยมผู้ศรัทธา และเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วย ส่วนพิธีการรดน้ำมนต์นั้น ถือว่าเป็นพิธีกรรมที่ดำเนินสืบทอดกันมาแต่โบราณแล้ว ยังคงสามารถทำได้ ส่วนคนป่วยที่เป็นจิตเวชก็ต้องฝากญาติรีบนำตัวไปพบแพทย์เพื่อรักษา เพื่อไม่ให้เกิดการสร้างปัญหากับสังคมต่อไป.
ข่าว/ภาพ บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ