นนทบุรี ตำรวจรวบสาวอ้วนซื้อสร้อยข้อมือทองคำหนัก 3 บาท ก่อนปลอมสลิปเงินจ่ายพนักงานนำทองไปขายไถ่โทรศัพท์มือถือจ่ายค่างวดรถค่าเช่าห้อง
1 min readเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 65 พันตำรวจโท สัมพันธ์ ทิมเจริญ รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.ปากเกร็ด พันตำรวจโทจักรพรรดิ ปะถะปะตา สว.สส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัวนางสาวจุฑามาศ หรือนิว พรมดี อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์ Honda รุ่น Click 125 i สีขาวดำทะเบียน 1กภ-9971 ชลบุรี โดยกล่าวหาว่า “ฉ้อโกงทรัพย์” จับกุมตัวผู้ต้องหาได้ บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาอุตสาหกรรมบางกะดีตำบลบางกะดี อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี จากนั้นนำตัวไปตรวจค้นยังห้องพักแห่งหนึ่ง ในตำบลบ้านใหม่อำเภอปากเกร็ดจังหวัดนนทบุรี พร้อมยึดของกลางอีกหลายรายการ อาทิ เสื้อผ้าที่ใช้ในการก่อเหตุ โทรศัพท์มือถือ
โดยก่อนถูกทำการ จับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้ก่อเหตุเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 65 โดยทำทีเข้าไปที่ห้างทอง หวังโต๊ะกัง (เยาวราช) ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้า Robinson ถนนศรีสมาน ตำบลบ้านใหม่อำเภอปากเกร็ดจังหวัดนนทบุรี จากนั้นได้ขอดูสร้อยข้อมือทองคำหนัก 3 บาท มูลค่า 88,000 บาทจากพนักงานขาย ก่อนที่จะทำการโอนเงินผ่านมือถือโดยปลอมสลิ และโชว์หลักฐานว่าได้จ่ายเงิน ให้กับทางร้านเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วและมีการถ่ายรูป sleep รวมทั้งสร้อยข้อมือทองคำไว้เป็นหลักฐานให้แก่ทางร้าน เมื่อผู้ต้องหาได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยข้อมือทองคำหนัก 3 บาท จึงรีบออกจากร้านไปและได้ขี่ จยย.หลบหนีออกจากห้าง
ต่อมาทางร้านตรวจสอบพบว่าสลิปที่โอนเงินเข้ามาเป็นสลิปปลอม จึงให้พนักงานขายของทางร้านเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ. ปากเกร็ด เพื่อให้ติดตามตัวนางสาว จุฑามาศ มาดำเนินคดี จนกระทั่งต่อมาชุดสืบสวนไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ รวมทั้งเส้นทางหลบหนีหลังก่อเหตุของนางสาวจุฑามาศ จึงได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาพักอยู่ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ในซอย 28 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ดจังหวัดนนทบุรี จึงเฝ้าประกบและติดตามตัว จนในวันนี้นางสาวจุฑามาศขี่จยย. มาจอดที่หน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาอุตสาหกรรมบางกะดี จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวโดยผู้ต้องหารับว่า เป็นคนก่อเหตุปลอมสลิปหลอกซื้อทองที่ร้านดังกล่าวจริง
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นางสาวจุฑามาศ รับว่าหลังก่อเหตุได้สร้อยข้อมือทองคำหนัก 3 บาทมาแล้วตนเองได้นำสร้อยเส้นดังกล่าวไปขายที่ห้างทองไทยมิตร (ทองเยาวราช) ภายในตลาดฐานเพชรได้เงินสดมา 79,200 บาท โดยใช้บัตรประชาชนของมารดา ในการขายทอง เมื่อได้เงินมาแล้ว จึงนำเงินที่ได้ไปจึงนำเงินไปจ่ายค่างวดรถยนต์ 3 งวด เป็นเงิน 32,195 บาท ไถ่ถอนโทรศัพท์ iPhone 11 ที่จำนำไว้ 18,500 บาท และไถ่ถอนโทรศัพท์ยี่ห้อ Oppo รุ่น a 12 ราคา 11,000 บาท จ่ายค่าเช่าห้องอีก 4,000 บาท ที่ค้างไว้ นอกนั้นส่วนที่เหลือตนเองก็ได้ใช้จ่ายไปจนหมดสิ้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สอบสวนปากคำเสร็จ สิ้นแล้วจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ดเจ้าของคดี และนำตัวเข้าห้องขัง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป