เสี่ยเจ้าของโรงงานผลิตเครื่องปั้มน้ำ ปั่นจักรยานออกกำลังกายก่อนวูบรถล้มเสียชีวิตคาที่

เมื่อช่วงเช้า วันที่ 27 ก.พ 65 ร.ต.อ.ศุภกร ต่อไมตรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากหน่วยแพทย์กู้ชีพ รพ.ปทุมธานี ว่ามีอุบัติเหตุคนปั่นจักรยานรถล้มเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณถนน 347 ม.4 ต.บ้านกระแชง อ.เมือง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญูญู แพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม

ในที่เกิดเหตุริมถนนเลยปากซอยบ้านกระแชง13(ซอยผู้การโสมมนัส) ไปประมาณ 20 เมตร พบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือนายสอ้าน กิตตินภากรณ์ อายุ 73 ปี ชาว กรุงเทพมหานคร สภาพศพสวมเสื้อชุดนักปั่นจักรยานสีเหลือง กางเกงสีดำ โดยมีจักรยานสีขาวแดงล้มอยู่ข้างทาง พร้อมหมวกกันน็อก 1 ใบ ชันสูตรเบื้องต้นไม่มีบาดแผลตามร่างกาย แพทย์ระบุอาจเกิดจากโรคประจำตัวหรือหัวใจวายเฉียบพลัน ก่อนมอบศพให้มูลนิธิฯ นำส่ง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ. ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง

จากการสอบถามเพื่อนๆนายสุทธิ ฯ เพื่อนนักปั่นในวัยเดียวกัน กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุ ผู้ตายได้ขับรถยนต์ส่วนตัวบรรทุกรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาหาตน ที่บ้าน ภายในหมู่บ้านเมททาวน์ปทุม-ติวานนท์ จากนั้น จึงได้ นัดรวมตัวกับพรรคพวก อีกร่วม 10 คัน เสื้อปั่นจักรยาน จากปทุมธานีไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในขณะที่ ปั่นมาถึงบริเวณ ก่อนถึงจุดเกิดเหตุ ขณะที่ลงจากสะพานรถของตนอยู่ข้างหน้าส่วนผู้เสียชีวิตอยู่ข้างๆและมี เพื่อนนักปั่นอีกคัน อยู่ด้านหลังซึ่งกำลังปั่นตามกับกลุ่มใหญ่อยู่ อันใดนั้นเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุอยู่ๆผู้ตาย ได้เกิดอาการวูบแล้วมือกำเบรคก่อนที่รถจะเสียหลักล้มแล้วศีรษะลงฟาดพื้นอย่างแรง พวกตนจึงรีบจอดรถ และมาทำการช่วยปั๊มหัวใจ พร้อมกับโทรแจ้งรถกู้ชีพฯมาช่วยเหลือแต่ก็ไม่ทัน และได้เสียชีวิตดังกล่าว

ต่อมาได้มี น.ส.นก ลูกสาวผู้ตาย พร้อมสามีได้ขับรถยนต์มาจากกรุงเทพฯ พร้อมกล่าวยืนยันว่าผู้เสียชีวิตคือ นายสอ้าน กิตตินภากรณ์ อายุ 73 ปี เป็นเจ้าของบริษัทและโรงงานผลิตและจำหน่ายเครื่องปั๊มน้ำ อยู่แถวย่านพระราม 2 กรุงเทพมหานคร โดยพ่อเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายและชอบปั่นจักรยานอยู่เป็นประจำ โดยก่อนเกิดเหตุไม่นานพ่อได้ซื้อรถจักรยานคันดังกล่าว มาราคาเป็นแสนบาท และก่อนหน้านี้พ่อมีโรคประจำตัวคือน้ำในหูไม่เท่ากันแต่ก็กินยามาโดยตลอด และวันนี้ตนไม่คิดว่าจะมาเกิดการสูญเสียพ่อในครั้งนี้

ภาพ/ข่าว สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม รายงาน