สาวนักธุรกิจ กระจกกันกระสุน สำเร็จธุรกิจปัง มาแปลกถวายต้นไม้ 1,000 ต้น ปุ๋ย 1 ตัน แก้บนหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม

สาวนักธุรกิจค้ากระจก มาแปลกจัดต้นทองอุไร 1,000 ต้น ปุ๋ย 1,000 กิโลกรัม ถวายแก้บนหลวงพ่อพูลวัดไผ่ล้อม หลังประสบความสำเร็จในธุรกิจ ย้ำเชื่อสนิทใจบารมีหลวงพ่อพูลดลบันดาลธุรกิจก้าวหน้า เผยเคล็ดเหตุบนด้วยต้นไม้และปุ๋ย หวังเห็นชีวิตเติบโตก้าวหน้าเหมือนต้นไม้สีสดใส ต้นอึดสู้แดดฝน หลวงพี่น้ำฝน บอกต่อยอดจากการกรวดน้ำโยมคิดดีย่อมได้ดี โดยเตรียมนำต้นไม้ปลูกในพื้นที่วัดและแจกแก่วัดอื่นสร้างพื้นที่สีเขียวสร้างสมดุลในสิ่งแวดล้อม โดยพร้อมแจกแก่วัดอื่นๆ ช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีด้วย

วันนี้ 9 มีนาคม 65 ที่ศาลาหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม นางสาวภัทร์นรินทร์ ไกรอนุรักษ์ หรือเจ๊อัญ อายุ 43 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร กรรมการผู้จัดการ บริษัทนิวแบงกอกเทรดดิ้งพาณิชย์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายกระจกรถยนต์ ได้นำต้นทองอุไร จำนวน 1,000 ต้น และปุ๋ยดินอินทรีย์ ชีวภาพ จำนวน 1,000 กิโลกรัม (1ตัน) มาถวายให้กับสรีระสังขารของพระมงคลสิทธิการ หลวงพ่อพูล อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม โดยพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นผู้รับมอบ จากนั้นได้ถวายอาหารเพลให้กับคณะสงฆ์และเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ได้เข้ามาทำบุญที่วัดไผ่ล้อม

นางสาวภัทร์นรินทร์ ไกรอนุรักษ์ อายุ 43 ปี หรือเจ๊อัญ บอกว่า ตนเองได้นำต้นไม้ชื่อว่าทองอุไร พร้อมกับปุ๋ย มาถวายแก้บนให้กับหลวงพ่อพูลในวันนี้เนื่องจาก ได้ยินชื่อเสียงของหลวงพี่น้ำฝน ในการลงนะหน้าทองเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการประกอบอาชีพมานาน จึงได้ตัดสินใจที่เข้ามาลงนะหน้าทองและได้เข้ามาพบกับสังขารหลวงพ่อพูลซึ่งตั้งอยู่ในศาลาจึงได้เข้าไปกราบขอพรให้มีโชคลาภในการทำการค้า ซึ่งที่ผ่านมาก็ประสบความสำเร็จ ประกอบกับทุกครั้งที่จะลงทุนอะไรก็จะมาลงนะหน้าทองเพื่อให้เป็นสิ่งมงคล ที่ผ่านมาก็มีอะไรมาผลักดันได้สำเร็จทุกครั้งกระทั่งถึงตอนนี้ได้มาลงนะหน้าทองไปแล้ว 45 ครั้ง

นางสาวภัทร์นรินทร์ หรือเจ๊อัญอายุ 43 ปี บอกว่า ล่าสุดเมื่อ 10 กว่าวันก่อนได้มีการมากราบขอพรจากหลวงพ่อพูลและมาลงนะหน้าทองกับหลวงพี่น้ำฝน โดยมาขอเรื่องงานให้ผ่านโปรเจ๊ตสำคัญ โดยได้บนว่าถ้าสำเร็จจะนำต้นทองอุไร 1,000 ต้นและปุ๋ย 1,000 กิโลกรัมมาถวาย เพราะเห็นว่าคนที่มาทำบุญที่วัดไผ่ล้อมและวัดอื่น ๆ เมื่อทำบุญเสร็จก็จะมีการกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้กับเทวดาอารักษ์ บรรพบุรุษและเจ้ากรรมนายเวร ซึ่งหากเปลี่ยนมาเป็นการถวายปุ๋ยกับต้นไม้ด้วย น่าจะได้ความมงคลและส่งผลให้ต้นไม้ออกผลออกดอกแตกกิ่งก้านเติบโตเหมือนกับชีวิตที่จะดีขึ้นจึงได้บอกหลวงพ่อพูลท่านไว้ ปรากฏว่าไม่กี่วันก็สำเร็จในงานอีกครั้งหนึ่งจึงได้นำปุ๋ยและต้นไม้มาแก้บนถวายท่าน รวมถึงทำบุญถวายเพลให้กับคณะสงฆ์และลูกศิษย์ที่มาในวัดไผ่ล้อมในวันนี้

“เราทดลองมาหลายครั้งแล้วว่าการบนขอพรจากหลวงพ่อพูลสำเร็จจริงเพราะเราขอในสิ่งที่เป็นประโยชน์ในธุรกิจ ตอนแรกก็ยังคิดว่าฟลุ๊คแต่หลายๆครั้งเข้าก็ชักแน่ใจว่าใช่แน่ ซึ่งมีหลายช่วงที่ธุรกิจประสบปัญหาก็ได้มาบอกกับ หลวงพี่น้ำฝน ซึ่งท่านก็สอนหลักง่ายๆ คือให้คิด วิเคราะห์ แยกแยก อย่างมีเหตุผล และชี้ทางออกจนผ่านวิกฤติมาได้เสมอ ส่วนตัวเชื่อว่าได้บารมีจากที่นี่และถือว่าเป็นของจริงในเรื่องการประกอบการค้า การทำธุรกิจ ส่วนเรื่องโชคอื่น ๆ ยังไม่ได้ขอเพราะตนเองเน้นการทำงานเป็นหลัก ซึ่งถือว่ามีประตูทางออกให้เราจนสำเร็จ และตอนนี้ก็ได้มาบนขอพรจากหลวงพ่อพูล เรื่องการขายที่ดินอีกก้อนใหญ่หากสำเร็จก็จะมีการมาทำบุญอีกแน่นอน” นางสาวภัทร์นรินทร์ หรือเจ๊อัญอายุ 43 ปี กล่าวปิดท้าย

ส่วนหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม บอกว่า เพิ่งทราบเรื่องว่ามีโยมมาถวายต้นไม้วันนี้ ซึ่งปกติโยมจะทำบุญในการมาถวายภัตตาหารเพล ซึ่งถือว่าเป็นการทำบุญอีกรูปแบบ โดยสอบถามแล้วโยมบอกว่าที่ถวายต้นไม้เพราะอยากให้นำมาปลูกในวัดไผ่ล้อม ให้เกิดความร่มรื่นและเมื่อถวายต้นไม้แล้วก็ได้ถวายปุ๋ยให้ด้วย ซึ่งเป็นการต่อยอดจากการทำบุญแบบดั้งเดิมที่มีการกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลเป็นการปลูกต้นไม้ ใส่ปุ๋ยให้งอกงาม ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่วัดไผ่ล้อมได้รับการถวาย ส่วนบารมีที่ได้จากพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูลนั้นก็เกิดจากศรัทธาที่ได้เข้ามาทำบุญ เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่เขาได้รับแต่ก็ต้องมีจิตใจที่ดีและหมั่นขยันทำกินด้วย

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวอีกว่า สำหรับต้นไม้ที่ได้ก็จะนำไปปลูกในวัด ส่วนปุ๋ยก็จะนำไปใส่บำรุงรักษาให้เกิดความร่มรื่น หากใครจะมาทำบุญเช่นนี้ก็จะมีการนำไปถวายให้วัดอื่นได้ช่วยกันปลูกให้เกิดความร่มรื่น ซึ่งต้นทองอุไร ที่ได้มาในรอบนี้ถือว่าชื่อไพเราะ สีสด และทนแดดทนฝนได้ดี ส่วนอนาคตหากมีคนมาทำบุญด้วยต้นไม้อีก ก็จะนำไปแจกจ่ายให้กับวัดอื่น ๆต่อไป และที่วัดไผ่ล้อมได้ไปสร้างสำนักปฏิบัติธรรมที่อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ก็จะได้นำไปช่วยปลูกป่าให้เกิดความร่มรื่นและช่วยการสร้างพื้นที่สีเขียวปรับสมดุลให้กับสิ่งแวดล้อมต่อไป

ภาพ/ข่าว ปนิทัศน์ มามีสุข / นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม