หนองคาย ศุลกากรคุมเข้มแก๊สปิโตรเลียมเหลว
1 min read เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2565 ในสถานการณ์ที่ราคาน้ำมันและแก๊ส ปิโตรเลียมเหลว ของโลกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และภาครัฐจำเป็นต้องใช้เงินอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อตรึงราคา ก๊าซ หุงต้ม ไว้ไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน ส่งผลให้เกิดช่องว่างของราคา แก๊ส แอล พี จีในประเทศ ที่ต่ำกว่าราคาขายของประเทศเพื่อนบ้านมาก ได้มีกลุ่มทุนที่ฉวยโอกาส ลักลอบส่งออก แก๊ส แอล พี จี
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร จึงได้มอบหมายให้นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ รองอธิบดีกรมศุลกากร และนายพร้อมชาย สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 เพิ่มมาตรการในการตรวจสอบ การลักลอบส่งออก แก๊ส ปิโตเลียมเหลว (LPG) อย่างเข้มงวด
กระทั่งวันที่ 18 มีนาคม 2565 เจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายสืบสวนและปราบปราม สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 นำโดยนายณัฐภูมิ ดอกพุฒ นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ ร่วมกับสำนักงานพลังงานจังหวัดหนองคาย นำโดยนางรัตนา สังข์เจริญ พลังงานจังหวัดหนองคาย หน่วยสืบสวนปราบปรามประจำพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฝปป.2 สปป.1 กสป. และเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรหนองคาย ได้ร่วมกันวางแผนตรวจสอบสินค้า ตามใบขนสินค้าขาออก ซึ่งสำแดงสินค้าเป็น “แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์” (Liquid Carbondioxide) จำนวน 2 แทงค์ ผลการตรวจสอบ พบสินค้าไม่ตรงสำแดง โดยพบเป็น “ก๊าซปิโตรเลียมเหลว” (LPG) ทั้ง 2 แทงค์ น้ำหนักรวม 30,000 กก. โดยผู้ส่งออกต้องได้รับอนุญาตการส่งออกจากกรมธุรกิจพลังงาน
การกระทำดังกล่าวจึง มีความผิด เป็นการสำแดงชนิด รายละเอียด ประเภทพิกัดเป็นเท็จ และส่งของต้องจำกัดออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดตามมาตรา 202, 244 ประกอบมาตรา 252 และ 166-167 แห่งพ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 และ พ.ร.บ. การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543 มูลค่าของกลางประมาณ 1,000,000 บาท
Loading…