นนทบุรี โบว์เข้าขอโทษยายวัย 81ปี หลังเบิกเงิน 2 .7 ล้านบาทขอผ่อนจ่ายทั้งหมด
1 min read
จากกรณีน.ส.เที่ยง ประชุมสาร อายุ 81 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 5 ตำบลนายาว อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี อดีตพนักงาน ผลิตผ้าห่มไทยแห่งหนึ่งย่านบางเขน เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา หลังขายที่ดินที่เป็นมรดกตกทอดจากพ่อแม่จำนวน 11 ไร่ 2 งาน 10 ตารางวา อำเภอพุทธบาท จ.สระบุรี ในราคา 2,700,000 บาท (สองล้านเจ็ดแสนบาท)เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2563 และได้เรียก น.ส.รสสุคนธ์ หรือ โบว์ ซึ่งรู้จักกันและเคยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กให้มาทำธุรกรรมในการขายที่ดิน และช่วยนำเงินจำนวนดังกล่าวไปฝากธนาคาร ซึ่งน.ส.โบว์ ได้พายายเที่ยงไปเปิดบัญชี คือ 1.ธนาคารTMB สาขาพระพุทธบาท ชื่อบัญชี น.ส.เที่ยง ประชุมสาร จำนวนเงิน 2,200,000 บาท( สองล้านสองแสนบาท) และเปิดบัญชีธนาคารออมสินสาขาพระพุทธบาทชื่อน.ส.เที่ยง ประชุมสาร จำนวนเงิน 500,000บาท(ห้าแสนบาท) หลังจากนั้นปรากฎว่า น.ส.โบว์ ได้สมัครแอพลิเคชั่น กับบัญชีทั้งสองแล้วทำการถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารTMB จำนวน 2195,000 บาทและทำการถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารออมสิน จำนวน 500,000 บาทโดยยายเที่ยงไม่ทราบว่ายอดเงินถูกเบิกจนหมดนอนกอดสมุดบัญชีว่างเปล่ามานานกว่า2 ปี ยายเที่ยงได้สอบถาม น.ส.โบว์ยอมรับว่า เป็นผู้ถอนเงินออกไปจากบัญชีจริง และจะทยอยคืนเงินให้ แต่ก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา จึงได้มาร้องทุกข์กับทนายโป้งเพื่อให้ช่วยเหลืออยากได้เงินคืน เหตุเกิดหมู่บ้านป่าแหน ม.10 ต.หนองโดน อ.หนองโดน จ.สระบุรี
ล่าสุดวันนี้( 22มี.ค.65)เวลา 18.00 น.ที่สำนักงานทนายความชมรมจิตอาสา ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา พร้อมด้วยน.ส.เที่ยง ประชุมสาร อายุ 81 ปี และน.ส.รสสุคนธ์ หรือ โบว์ ได้นัดเจรจาพูดคุยกันเพื่อจะผ่อนชำระเงินที่ทางน.ส.โบว์แอบเบิกเงินของคุณยายเที่ยงที่ขายที่ดินได้ผ่านแอพพลิเคชั่นทั้งหมด 3 บัญชีไปเป็นจำนวนเงิน 2700,000บาท( สองล้าน 7 แสนบาท ) จนหมดบัญชี โดยมีการเจรจาพูดคุยกันนานกว่า 2ชั่วโมงผลสรุปว่าทางนส.โบว์ จะชดใช้เงินเต็มจำนวนคือ 2 ล้าน 7 แสนบาทโดยขอผ่อนจ่าย 4 เดือนแรกเดือนละ 5 หมื่นบาท โดยเริ่มจ่ายตั้งแต่สิ้นเดือนเม.ย.65 จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม รวมเป็นเงิน 2 แสนบาท ส่วนที่เหลืออีก 2 ล้าน 5 แสนบาท จะผ่อนจ่ายให้ครบภายใน 3 ปี ถ้าไม่ทำตามข้อตกลงยายเที่ยงสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ทันที หลังการเจรจาตกลงกันทางทนายโป้งได้พาน.ส.เที่ยง ประชุมสาร อายุ 81 ปี และน.ส.รสสุคนธ์ หรือ โบว์ เดินทางไปลงบันทึกประจำวันต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ชัยพฤกษ์เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน
น.ส.โบว์ เล่าว่ายายขายที่ประมาณ 2.7ล้าน ได้บอกว่าจะแบ่งเงินให้ตนจำนวน 1.5 ล้านบาท ตอนไปทำธุรกรรมทางการเงินก็ไปด้วยกันตลอดซึ่งยายเที่ยงรับรู้ทุกครั้ง และยายก็แบ่งเก็บไว้ในธนาคาร ส่วนเงินที่แบ่งให้ตนเพราะว่ายายเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กและจะให้เงินตนไปซื้อบ้าน ซึ่งตนก็มีหนี้สินในส่วนที่ให้มาก็จะเอามาใช้หนี้ เวลาตนจะขอเงินยายจะโทรหาและตนจะไปรับเพื่อให้ยายเบิกให้ตนเบิกเองไม่ได้ต้องให้ยายเซ็นชื่อเบิกเงิน ต่อมาเพื่อความสะดวกในการเบิกเงินตนได้ทำแอปในโทรศัพท์มือถือจึงเอาโทรศัพท์ตนในการติดตั้งแอปธนาคาร ยายก็ตกลงเพราะว่าจะสะดวกในการกดหรือโอนเงินเพราะตนยอมรับว่าขอตังยายบ่อยครั้งและไม่สะดวกไปเบิกที่ธนาคาร ปีที่แล้วยายมีปัญหาเรื่องที่อยู่เก่าตนจึงรับยายมาอยู่กับตนที่บ้านพ่อ ส่วนเงินที่เอามาคือตนนำมาใช้หนี้ ลงทุน จะเอาเงินตรงนี้มาหมุนใช้ เพราะยายก็รับทราบดี ซึ่งตอนแรกยายไม่อยากให้พี่น้องยายรู้ว่าเงินไม่เหลือในบัญชีแล้วเพราะให้ตนมา ตนก็คอยปิดบังมาตลอด ตนจึงบอกให้ยายบอกทางบ้านไปว่าตนเอาเงินมาแล้ว ตอนนี้ตนก็จะผ่อนจ่ายให้ในส่วนที่ตนเอาเงินมาคือ 2.7 ล้าน ซึ่งยายก็รู้ว่าตนเอาเงินมาใช้ และให้ตนเก็บสมุดบัญชีธนาคารไว้ ซึ่งหลังๆทำแอปมาตนจะใช้เงินก็จะโทรบอกยายตลอด และยายก็ไม่ได้ไปอัฟสมุดเลย ตนจึงมีการคุยกันกับทางญาติยายมาโดยตลอดว่าตนเบิกเงินมาใช้