นนทบุรี แบงค์พันปลอมระบาดหนัก คราวนี้มาเป็นแก็ง หมู่บ้านเดียวโดนเกือบ30 ใบ
1 min readวันที่ 1 พ.ค.65 เวลา 14.00 น.ที่หมู่บ้านพฤกษา3 ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังมีผู้โพสต์เฟซบุ๊คผ่านเพจ “ของกินของใช้ส่งฟรีพฤกษา3″ ว่า เตือนภัยนะครับ แบงค์ปลอมโซนบ้านเรา เห็นว่าร้านทุเรียนโดนกันไปหลายร้าน เช็คกันดีๆนะครับ เจอแค่แบงค์พันตอนนี้” ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านพฤกษา3 เพื่อติดตามสอบถามถึงกรณีดังกล่าว พบ นาง สุดารัตน์ เพลโลว์ อายุ 48 ปี ลูกจ้างร้านขายไก่หมุนสะพาน1 ภายใน ม.พฤกษา3 นาง สุดารัตน์เล่าว่า เมื่อเช้าวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเวลประมาณ 09.00 น.ซึ่งเป็นเวลาที่ร้านเริ่มเปิดขายพอดี ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวสวมเสื้อสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ เดินเข้ามาสั่งไก่หมุนที่ร้านจำนวน 1 ตัว หลังจากนั้นก็ได้ให้แบงค์1,000 กับตนมา ด้วยความที่เป็นลูกค้าคนแรก ตนจึงไม่มีเงินถอนจึงได้เดินไปขอแลกเงินที่ร้านขายกล้วยทอดฝั่งตรงข้ามซึ่งตนแลกกันเป็นประจำอยู่แล้ว หลังจากนั้นก็เดินกลับเอาเงินมาทอนให้กับลูกค้าไป หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง ทางพี่ร้านขายกล้วยทอดก็ได้เดินเอาแบงค์พงพันที่เราเอาไปแลกมาคืนแล้วบอกว่าเป็นแบงค์ปลอมนะ ตอนนั้นตนตกใจมากทำอะไรไม่ถูก ก็เอาแบงค์พันดังกล่าวมาตรวจสอบดูก็พบว่าเป็นแบงค์ปลอมจริงๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะโดนกับตัว และที่คิดว่าเป็นผู้หญิงคนนี้ที่เอาแบงค์ปลอมมาซื้อกับเราเพราะว่า เมื่อวานนี้ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกค้าคนแรกและเป็นคนเดียวที่เอาแบงค์ 1,000 มาซื้อ แต่เราก็ไม่ได้ไปกล่าวหาว่าเขาเป็นคนร้ายนะแค่สงสัยว่าน่าจะเป็นเขาก็เท่านั้น ตอนนี้ตนต้องมารับผิดชอบเงินคืนให้เจ้าของร้านเพราะตนเป็นแค่ลูกจ้างค่าค่าแรงวันละ300เท่านั้นเอง โดนเอาแบงค์พันปลอมมาซื้อแถมได้ไก่ไปอีก1ตัว ไก่ตัวละ190บาท เหมือนตัวเองโดนเอาเงินไป1,200บาทเลย ต้องมานั่งชดใช้เงินให้กับเจ้าของร้านอีก ยอมรับว่าแค้นใจมากไม่น่ามาทำกันแบบนี้คนทำมาหากิน เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี ไม่รู้ว่าจะทำไปเพื่ออะไรก็ขอให้หยุดซะ และอยากฝากเตือนไปถึงบรรดาพ่อค้าแม่ค้าให้ตรวจสอบเวลารับเงินให้ดีๆ ดูดีๆว่าแบงค์จริงหรือปลอม หรือไม่ก็ปฏิเสธการรับแบงค์พันไปเลย อย่างตอนนี้ตนก็ปฏิเสธแบงค์พันหากใครจะมาซื้อของแล้วมช้แบงค์พันจ่ายตนก็ไม่รับ
ทางด้าน พี่ผึ้ง นาง พิมพ์ชนก สูงสุดเอื้อม อายุ 50 ปี ร้านกล้วยทอดสะพาน1 ซึ่งเปิดร้านอย฿่ฝั่งตรงข้ามกับร้านไก่หมุนสะพานหนึ่ง ที่ซึ่งนางสุดารัตน์นำแบงค์พันมาแลก กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนั้นหลังจากที่แลกแบงค์ให้นางสุดารัตน์ไปแล้ว ตนก็มานั่งนับเงิน พอมานับแบงค์พันรู้สึกว่าทำไมมันดูหนาๆกว่าปกติ จึงได้ตรวจสอบโดยการเอาแบงค์พันอีกใบขึ้นมาเปรียบเทียบกัน ก็พบจุดผิดสังเกตุหลายจุดมาก เช่น ความหนาของแบงค์ สี แบงค์ปลอมจะออกสีม่วงๆ ในขณะที่แบงค์จริงสีจะเป็นสีเทา ลายน้ำก็แปลกๆ ที่สำคัญตรงแถบที่เป็นแถบสะท้อนแสงและตรงที่คล้ายๆดอกไม้สีแฉกก็ไม่สะท้อนแสง ตนเห็นว่าผิดปกติจึงให้สามีเอาแบงค์ดังกล่าวไปเช็คการทางธนาคารที่อยู่หน้าหมู่บ้าน ทางเจ้าหน้าที่ของธนาคารก็บอกว่าเป็นแบงค์ปลอมพร้อมขีดคร่อมและเขียนทับบนแบงค์ดังกล่าวว่าเป็นแบงค์ปลอม ก่อนจะรีบนำกลับมาคืนให้ นางสุดารัตน์ในเวลาต่อมา หลังจากนั้นก็ได้มีน้องๆในหมู่บ้านขี่รถมาบอกกับตนว่าให้ระวังแบงค์พันปลอม ตอนนี้ภายในตลาดของหมู่บ้านโดนกันไปหลายร้านแล้ว จากการสอบถามแบงค์ 1,000 ปลอม ที่ระบาดภายในหมู่บ้านพฤกษา3 วันเดียวโดนแก็งดังกล่าวนำแบงค์พันปลอมมาใช้ จำนวนกว่า 30 ใบ