เปิดใจ เพื่อนผู้ตายอยู่ในเหตุการณ์โดนยิงดับ 1 สาหัส 2 สาเหตุแค่ถาม รู้จักกันไหม
1 min read
จากกรณีที่มีเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณหน้าโรงเรียนเทศบาลวัดละหาร ถนนบางกรวย-ไทรน้อย หมู่ 2 ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ทราบชื่อคือนายสุนัย สุวรรณวารี อายุ 27 ปี (อ๊อฟลาย)อาชีพไลน์แมน ถูกยิงที่ไหปลาร้าข้างซ้าย 1 นัด นายมงคล มหิกุล อายุ 20 ปี อาชีพช่างแอร์ (ปอ)ถูกยิงที่บริเวณแขนข้างขวา 2 นัด ต้นขาซ้าย 2 นัด หน้าท้อง 1 นัด และคนสุดท้าย นายวีระพัช สระน้อย อายุ 17 ปี (ต้นหรือผู้ตาย) อาชีพพนักงานปั๊ม ถูกยิงที่ชายโครงขวา 1 นัด ข้อมือขวา 1 นัด
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.30น. วันที่ 6 พ.ค.65 ที่ สภ.บางบัวทอง ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจ.นนทบุรี เข้ามาตรวจสอบรอบกระสุนบริเวณหน้ากระจกรถ และแถบประตูข้างของรถแท๊กซี่ที่โดนลูกหลงหมายเลขทะเบียน ทห9410 โดยมีนายสมพงษ์ ทูลธรรม อายุ65ปี เป็นผู้ขับ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัว โอ๊ต(สวมเสื้อคลุมสีดำ)อายุ17ปี และฟลุ๊ค(เสื้อสีขาว)อายุ19ปี เพื่อนร่วมแก๊งค์ที่อยู่ในเหตุการณ์ มาสอบปากคำ ทราบว่าขณะเกิดเหตุขับรถไปกับเพื่อนจำนวน 2 คัน 5 คน คันแรกฮอนด้าคลิ๊กอัดซ้อน3คน โดยมี นายปอขับ ต้นซ้อนกลาง และฟลุ๊คนั่งข้างหลัง ถัดมาเป็นรถยี่ห้อฮอนด้าเวฟ110 ซ้อนมา2คน โดยมีผู้ขับคือ อ๊อฟลายขี่ โอ๊ตซ้อนหลัง หลังจากนั้นทางคนร้ายมาขับเอ็นแม๊คสีดำด้าน มา2-3คน ส่วนคันที่เหลือไม่ทราบรุ่นรถซ้อนมาประมาณ 3 คน และมีการขับวนมาหากันโดยสาเหตุคืออ๊อฟลาย เข้าไปทักกลุ่มคนร้ายว่ารู้จักกันไหมทำให้คนร้ายใช้อาวุธปืนขนาดลูก12 ยิงเข้ามา 1 นัด ทำให้มีผู้เสียชีวิต1 ราย และได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย
จากการสอบถามนายสมพงษ์ คนขับแท๊กซี่ เล่าว่า นายสมพงษ์ ทูลธรรม อายุ 65 ปี ผู้เสียหายโชเฟอร์แท็กซี่ กล่าวว่า ตนได้จอดรถที่หน้า รร.วัดละหาร แล้วจอดรถเพื่อนจะเดินลงมาสั่งก๋วยเตี๋ยว จากนั้นก็ได้ยินเสียงวัยรุ่นจับกลุ่มคุยกันแบบไม่น่าไว้วางใจ ตนจึงจะตัดสินใจขับรถหนีแต่พอหันกลับไปก็ได้ยินเสียงปืนรัวดังสนั่นประมาณ 10 นัด จนกระทั่งโดนรถตน 3 นัด ซึ่งตนตกใจมากแต่โชคดีที่ตนไม่โดนลูกหลงไปด้วย จาก
การสอบถามนายโอ๊ต อายุ17ปี (สวมเสื้อคลุมสีดำ) เมื่อคืนตนออกไปหาของกินกำลังขับรถกลับไปเอื้ออาทร แต่ดันไปเจอกลุ่มวัยรุ่นและถูกเรียกพี่อ๊อฟจนเข้าไปถามว่ารู้จักกันไหม แต่กลุ่มคนร้ายใช้ปืนจ่อยิงมา 1 นัด ซึ่งเพื่อนๆในกลุ่มไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน ซึ่งตนไปประมาณ 5 คน แต่กลุ่มคนร้ายมาประมาณ 7-8 คนวันนี้มา สภ.บางบังทองเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม โดยกลุ่มตนบาดเจ็บ2คน ตาย 1 คน ซึ่งอ๊อฟลายเป็นคนไปถามกลุ่มคนร้ายว่ารู้จักกันหรือไม่แต่กลับโดนยิง เพราะคนร้ายมาเรียกกลุ่มพวกตนก่อน ซึ่งไม่มีการตะโกนท้าทายกันมาก่อน ซึ่งพี่อ๊อฟเป็นพี่ที่โตสุดและรักน้องแต่เขาสักลาย จึงมีฉายาว่าอ๊อฟลาย ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าเพื่อนจะเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมไหม แต่อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว เพราะเพื่อนตายไปแล้ว และตนก็ไม่คิดที่จะล้างแค้น
นายฟลุ๊ค อายุ19ปี (สวมเสื้อสีขาว) เล่าว่า ฝั่งตนถูกเรียก และคนร้ายวนมา ตนก็วนกลับไป และเดินลงมาพี่อ๊อฟก็ถามว่ารู้จักกันไหม แต่เขายิงใส่ระยะประชิด ซึ่งกลุ่มตนพูดจาดีไม่ได้ไปหาเรื่อง ไม่มีการท้าทายกัน คนร้ายยิงมาประมาณ 10 นัด เป็นการกราดยิง เพราะเพื่อนที่ตายไปหลบหลังเสาร์แต่โดนยิงซ้ำ ซึ่งพี่ปอเป็นคนข้บรถ คนตายเป็นผู้ซ้อนที่วิ่งไปแอบหลังเสาร์ แต่ก็โดนยิงซ้ำ ซึ่งตนเห็นตำรวจขี่ผ่านมาจึงเรียกให้เข้ามาช่วยและให้ชาวบ้านเรียกรถพยาบาลให้ ที่จำได้คนร้ายขับรถจยย.เอ็นแม๊คสีดำด้าน ซ้อนมา 2-3 คน แต่อีก2คันตนจำไม่ได้ แต่อัดมาคันละ3 คน ทุกคนจะใส่หมวกกันน๊อคเต็มใบไม่เห็นใบหน้าของกลุ่มคนร้าย
ด้านความคืบหน้าของคดี พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง, เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บทราบว่าก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้ตายและผู้ได้รับบาดเจ็บได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกันสองคันรวมทั้งหมด 5 คน และเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์สวนทางกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งไม่รู้จักกันมาก่อน จากนั้นนายสุนัย หรืออ๊อฟ ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ซึ่งชอบทำตัวเป็นขาใหญ่ในพื้นที่ เปิดหมวกกันน็อคพร้อมกับตะโกนถามกลุ่มผู้ก่อเหตุ ที่มีประมาณ 7-8 คน ขี่จักรยานยนต์และ นั่งซ้อนท้ายกันมาจำนวน 3 คัน ว่า” มึงรู้จักกูไหม ” ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุจึงได้ชักอาวุธปืน จำนวนสองกระบอกเป็นปูนชนิดแมกกาซีนและลูกซองไทยประดิษฐ์ยิงใส่ทำให้กระสุนไปถูกฝั่งผู้เสียหายจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
โดยจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของชุดสืบสวนพบว่า หลังก่อเหตุกลุ่มของคนร้ายได้ขับรถมุ่งหน้าไปทางแยกบางพลู ก่อนจะเลี้ยวซ้ายมาตามถนนรัตนาธิเบศร์ และมาเลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชพฤกษ์คาดว่าอาจจะมาเลี้ยวซ้ายเข้าถนนชัยพฤกษ์ขับขึ่รถมุ่งหน้ากลับไปทางอำเภอไทรน้อย ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนรู้เบาะแสกลุ่มแล้วอยู่ระหว่างการแกะรอยและตรวจสอบชื่อยืนยันตัวตน นำมาประกอบกับพยานหลักฐานอย่างอื่นที่ตำรวจไม่อยู่
ก่อนที่จะให้พนักงานสอบสวนเตรียมขอศาลอนุมัติออกหมายจับ และนำตัวมาดำเนินคดีในข้อหาร่วมกัน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข้อหาพยายามฆ่า รวมถึงข้อหาพรบ.อาวุธปืน ต่อไป คาดว่าไม่เกินสองถึงสามวันนี้จะมีความชัดเจน
( หมายเหตุ ยิงดับ1 สาหัส1 หน้าโรงเรียนวัดละหาร เป็นคนละเคทกันกับ กลุ่ม วัยรุ่นปาระเบิดและยิงปืน ที่หมู่บ้านศรีประจักษ์ 7 ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย )