เปิดประวัติ! “พล.อ.ต.ทูตปรีชา เลิศสันทัดวาที” ขออาสาเป็นผู้ว่าฯ พลิกโฉม กทม. ( มีคลิป)
1 min read
เปิดประวัติ “พล.อ.ต.ทูตปรีชา เลิศสันทัดวาที” อดีตผู้ให้คำปรึกษาทีม พล.อ.สุรยุทธ์ ขออาสาเป็นผู้ว่าฯ พลิกโฉมกรุงเทพฯ ชูนโยบายตั๋วโดยสารใบเดียว 20 บาทตลอดสาย
พลอากาศตรีฑูตปรีชา เลิศสันทัดวาที นับเป็นอีกหนึ่งนักการเมืองรุ่นใหญ่ ในนาม “กลุ่มกรุงเทพฯก้าวหน้า ประชาสุขใจ” ที่จะขออาสาเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เพื่อพลิกโฉมกรุงเทพมหานคร โดยยืนยันว่านโยบายที่จะใช้นั้น เป็นธรรม และจับต้องได้
แน่นอนว่าผู้ที่มาสมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. ย่อมมีโปรไฟล์ไม่ธรรมดา โดย พล.อ.ต.ฑูตปรีชา เคยเป็นถึงผู้ให้คำปรึกษาทีมของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ครั้งดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 24 ของประเทศไทย ในเรื่องต่าง ๆ มากมาย โดยมีประวัติ ผลงาน และนโยบาย ที่น่าสนใจ ดังนี้
ประวัติ “พล.อ.ต.ทูตปรีชา เลิศสันทัดวาที” ขออาสาเป็นผู้ว่าฯ พลิกโฉม กทม.
การศึกษา
2523 โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช รุ่น 24 (เตรียมทหารรุ่น 17)
2530 สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี และปริญญาโท คณะวิทยากาคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเวสต์โคสต์ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และจบหลักสูตร AI รุ่น 1 จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน
2536 ศึกษาและดูงาน หลักสูตร GPS ทุนการศึกษา กองทัพอากาศ
2538 ศึกษาและดูฝานการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ สร้างเครื่องบินฝึกจำลอง F-18 ประเทศอังกฤษ
2550 ศึกษาและดูงานการซ่อมเครื่องบินลำเลียง ประเทศอินโดนีเซีย
ผลงาน
ได้รับรางวัลฮิกาชิคูนิโนมิย่า จากประเทศญี่ปุ่น
ให้คำแนะนำการแก้ปัญหาน้ำท่วมกับทีม พล.อ.สุรยุทธ์ จนสวนดุสิตโพลเผยผลสำรวจว่า พล.อ.สุรยุทธ์ สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ดี
ให้คำปรึกษาทีม พล.อ.สุรยุทธ์ แก้ไขปัญหาการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่สนามหลวง โดยจัดให้มีการดีเบตกันผ่านโทรทัศน์เป็นเวลา 5 วัน
ให้คำแนะนำคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จนทำหลักสูตร “หน้าที่พลเมือง” ให้กระทรวงศึกษา เพื่อสอนเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิหน้าที่ให้กับนักเรียน ให้คำแนะนำในการจำกัดฝุ่นบนถนนบริเวณการเคหะแห่งชาติที่ปริมาณมาก จนปริมาณฝุ่นลดไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อยู่อาศัย
ให้คำแนะนำไปยังสถานฑูตอังกฤษถึงวิธีการแก้ไขปัญหาจราจลเเผาลอนดอน
ให้คำแนะนำไปยังฑูตทหารจีนในไทยถึงวิธีการแก้ไขปัญหาโควิด โดยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน
ใช้ตั๋วโดยสารใบเดียว 20 บาทตลอดท้ังสาย ทั้งรถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าใต้ดิน, รถเมล์, เรือโดยสารด้วยระบบสัมปทานที่เป็นธรรมโปร่งใส
แก้ปัญหาน้ำท่วมโดยระบบสัมปทานไม่ต้องใช้เงินรัฐ โดยจ้างวิศวกรเนเธอร์แลนด์มาทำเขื่อนป้องกันน้ำท่วมแบบเนเธอร์แลนด์ ทำคลองใน กทม. 1,600 คลองให้สวยใส โดยทีมงานเกาหลีที่ทำให้คลองน้ำดำกลางกรุงโซลใสมาแล้ว โดยไม่ต้องใข้เงินรัฐ ใช้ระบบสัมปทาน แก้ปัญหา PM 2.5 ด้วยการใช้เครื่องบินทำฝนเทียมพ่นละอองน้ำเหมือนประเทศจีน แต่จะใช้น้ำที่ผ่านเส้นแรงแม่เหล็กเพื่อใช้จับฝุ่นให้ดีขึ้น และติดตั้งอุปกรณ์ที่ทำให้รถยนต์ลดฝุ่น PM 2.5 ได้ 40% และติดตั้งเครื่องผลิตไอออนลบดักจับฝุ่น PM 2.5 จากท่อไอเสีย
แก้ปัญหาอาชญากรรม ด้วยการติดตั้งไฟส่องสว่าง/โซลาเซลล์ ทุกถนนทุกซอย, ติดตั้งกล้อง CCTV ให้ครบในกรุงเทพมหานคร และทำเครือข่าย ตำรวจชุมชนสัมพันธ์
แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจช่วงโควิด จัดสถานที่ราชการของ กทม. ให้ขายของฟรี, ส่งเสริมการซื้อขายออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ, ส่งเสริมการค้าขายออนไลน์ของ SME ใน กทม. ไปต่างประเทศ, จัดหากองทุนให้ SME รีไฟแนนซ์ และจัดทีมพิเศษให้ความช่วยเหลือ SME ที่มีปัญหา
ตั้งกองทุนเสริมสุขเพื่อปลดเปลื้อภาระหนี้สินให้ข้าราชการทุกกระทรวงในกรุงเทพมหานคร และประชาชนทั่วไป
กระจายอำนาจ และงบให้ผู้อำนวยการเขต 50 เขต การบริหารแบบล่างขึ้นบน โดยจัดประชุมผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กับผู้นำชุมชนทุกเดือน
ตั้งจุด One Stop Service ในทุกหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร เพื่อแก้ปัญหาให้ทุกคนได้ภายในที่เดียว