พบครูสอนวิชาภาษาไทย ขี่จยย.จากในเมืองเข้าป่า เดินเท้าขึ้นควนสู่ทับไปสอนหนังสือกับเด็กชาวมานิ ทุกเสาร์ – อาทิตย์ มานานถึง 4 ปี
1 min read สตูล -พบครูสอนวิชาภาษาไทย ขี่จยย.จากในเมืองเข้าป่า เดินเท้าขึ้นควนสู่ทับไปสอนหนังสือกับเด็กชาวมานิ ทุกเสาร์ – อาทิตย์ มานานถึง 4 ปี
วันที่ 25 พ.ค. 2565 พบคลิปในโลกโซเชียลที่น้องๆชาวมานินั่งกันเป็นกลุ่ม และท่องอ่านอักษร พยัญชนะ คำภาษาไทย ก ข ฃ ค ส่งเสียงท่องแบบชัดทุกๆคำ โดยมีผู้หญิงคนหนึ่ง สวมใส่เสื้อสีเหลือง และสวมหมวกสีเหลือง คอยชี้ให้คำแนะนำ สอนสั่งด้วยนำเสียงไพเราะ ซึ่งคลิปนี้ถูกนำลงในเฟสบุ๊คที่ชื่อว่า ครูณัฐ จิตอาสาทำดีด้วยหัวใจ และคลิปดังกล่าวถูกกดไลน์กดแชร์ ส่งหัวใจ และกล่าวชื่นชม ครูที่สอนน้องมานิ ด้วยความน่ารัก
.
ทั้งนี้นางณัฐนันท์ โอมเพียร อายุ 57 ปี หรือครูณัฐ เป็นครูอาจารย์สอนวิชาภาษาไทย อยู่ที่โรงเรียนอนุบาลเพชรกาณจน์ อำเภอละงู จังหวัดสตูล ครูณัฐ ครูคนนี้ไปสอนน้องๆมานิถึงทับ สิ่งหนึ่งที่รู้สึกปลื้มครูณัฐคนนี้มาก คือทุกอย่าง ครูทำดีด้วยหัวใจจริงๆ นอกจากจะสอนที่โรงเรียนทั่วไป ครูยังมีจิตใจ ที่อาสาโดยครูณัฐ จะเอาอุปกรณ์การเรียนที่ตนเองมีอยู่ เช่น สมุดหนังสือ และ กระดาษตัวพัยชนะภาษาไทย ก-ฮ และ กระดาษ เลข 1-100 พร้อมหนังสือ สมุดเรียน มีเล่นคำ เช่น ตา มานี ปิติ ชูใจ งู ไก่ ปาก ยา อักษรสระคำที่อ่านง่ายๆพกใส่กระเป๋าผ้า แขวนหน้ารถจักยานยนต์ ของตนเอง ครูณัฐ ขี่รถจักยานยนต์ ส่วนตัวออกจากบ้านที่อยู่ในตัวอำเภอละงู ไปถึงพื้นที่ในป่าทับของชาวมานิ ในพื้นที่บ้านวังนาใน หมู่ที่ 10 ตำบลน้ำผุด อำเภอละงู ในระยะทาง 50 กว่ากิโลเมตร แม้ว่าฝนจะตก แดดจะออก หรือร้อน หนาวขนาดไหน ครูณัฐ ก็ต้องไป เพราะลูกหลานเด็กๆชาวมานิ รอคอยในทุกๆวันของวันเสาร์ – อาทิตย์ครูณัฐ ขี่รถจักยานยนต์มาถึง จะจอดรถจยย. ริมถนน จากนั้นก็เดินเท้า ขึ้นบนเนินควนที่สูง ผ่านสวนยางของชาวบ้าน เข้าไปถึงทับของชาวมานิ กว่าจะถึง ต้องหยุดพักหายเหนื่อย เป็นระยะ ด้วยวัยอายุที่มาก แต่หัวใจที่เข็มแข็ง ยังต้องเดินเท้าไปให้ถึงเมื่อถึงทับมานิแล้ว ครูณัฐจะส่งเสียงเรียก เด็กนักเรียนชาวมานิ ที่อยู่ในทับ ด้วยคำว่านักเรียน ครูมาแล้ว ออกมาเรียนได้แล้ว เมื่อเสียงดังจนเด็กในทับมานิได้ยิน ก็วิ่งออกมา ด้วยความดีใจ โดยครูณัฐ ก็จะให้ทุกคนยืนเรียงแถว ร้องเพลงชาติ จากนั้นก็เรียนหนังสือซึ่งครูณัฐ จะใช้ต้นไม้ และเสาทำเป็นกระดานติดตัวอักษรพยัญชนะภาษาไทย ทุกคำชัดเจน ภายใต้เสียงหัวเราะ และเสียงชาวมานิ ที่ดูลูกหลานของตนเอง เรียนหนังสือ กับครูผู้ใจดี เสียสละเวลาส่วนตัวในวันเสาร์ – อาทิตย์ แทนที่จะพักผ่อนกลับมาใช้เวลามาสอนหนังสือชาวมานิเหล่านี้ให้มีความรู้ ซึ่ง การศึกษาสามารถเข้าไปถึง ทุกคน และชนเผ่าได้ ถ้ามีความรู้ ถือว่าเป็นเกราะคุ้มภัยปกป้องได้ ในด้านความรู้ แยกแยะ สื่อสาร กับชาวบ้านทั่วไปได้ โดยไม่ต้องถูกหลอกจากคนในสังคมปัจจุบันที่น่ากลัว
ด้านนางณัฐนันท์ โอมเพียร หรือ ครูณัฐ กล่าวว่า ทำมาแบบนี้ 4 ปีแล้ว ขอใช้ชีวิตอาชีพความเป็นครู ที่ยังมีแรง ของเอาความรู้นำมาสอนเด็กๆชาวมานิที่กำลังเจริญเติบโต ให้พวกเขาได้อ่านออกเขียนได้ สะกดคำได้ และฟังคำพูดภาษาไทยได้อย่างชัดเจน หรือไม่มากก็น้อยให้เขาได้เข้าใจโลกปัจจุบันมีความเจริญเข้ามา และเทคโนโลยีเข้ามาถึงหมู่บ้าน ของทับมานิ มานิที่นี่กลายเป็นหนึ่ง จุดท่องเที่ยวของคนในสังคมที่เข้ามาดู และบางครั้ง เขาอาจจะได้เงินหรือออกไปทำงานรับจ้างในตัวเมือง พวกเขาเหล่านี้ ที่ขึ้นชื่อว่า มนุษย์ เขาจะได้มีความรู้ มีความคิด เข้าใจภาษาและความคิดของคนในยุคปัจจุบัน จะได้ไม่ถูกโกง เช่นเมื่อเขามีความรู้ จากที่ครูสอนสั่ง ส่วนครูเองจะเข้ามาสอนเข้า จนกว่า จะหมดแรงเดินไปในที่สุด
ด้านนางสาวกัญญพัชร รัตนพันธ์ ประธานกรรมการ (CEO) บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีสตูล (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด เป็นหนึ่งคนที่ติดตาม กดถูกใจ ครูณัฐทางเฟสบุ๊คมาตลอด กล่าวว่า ชื่นชอบครูมากค่ะ ครูทำดีด้วยใจจริง และที่สำคัญครูไม่เหนื่อยเลย บางครั้งตนเองว่างๆก็จะขอตามมาดู และร่วมนำสิ่งของ เช่นสนับสนุน ขนม น้ำ ผลไม้ มาฝากชาวมานิ และสับสนุนอุปกรณ์การเรียนกับครูด้วย เช่นเดียวกับนายคะนึง จันทร์แดง อายุ 71 ปีชาวบ้านในพื้นที่มานิ อาศัยอยู่ กล่าวว่า ครูณัฐเป็นครูที่แกมาในช่วงเช้า เสาร์ อาทิตย์จริงๆขี่จยย.มาบางทีฝนตก สวมใส่ชุดเสื้อกันฝนมาทั้งฝนตกหนัก แถมทางเดินลำบากครูยังไปถึง นับถือน้ำใจ ความเป็นครูจริงๆ
ภาพ/ข่าว นิตยา แสงมณี ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดสตูล