ลูกชายนายกอบต.ห้วยขวาง ป่วยโรคซึมเศร้า ยิงตัวตายในห้องนอนบ้านพ่อ

เศร้าหนุ่ม 18 ปี บุตรชายนายกอบต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน ยิงตัวตายในห้องพักบ้านพ่อ โดยมีอาวุธปืนของแม่ตกอยู่ข้างตัว สอบถามทราบว่าผู้ตายมีอาการเครียด ไม่พูดอาการซึมเศร้า ก่อนตายไม่ไปเรียนและมานอนบ้านพ่อตั้งแต่เมื่อวานและนอนในห้องลำพัง ก่อนช่วงหัวค่ำเคาะเรียกไม่ตอบรับงัดเข้าไปพบเป็นศพแล้ว เบื้องต้นคาดผู้ตายป่วยซึมเศร้า โดยพ่อกับแม่เพิ่งแยกทางกันได้สักพัก

วันนี้ 17 มิ.ย. 65 เวลา 20.00 น. ร.ต.อ.นิรุตย์ แดนเดช พนักงานสอบสวนเวร สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม รับแจ้งเหตุมีคนเสียชิวิต ในบ้านพักเลขที่ 333 ม.11 บ้านกระถินแดง ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่รพ.นครปฐม เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม

ในที่เกิดเหตุ เป็นของนายเกรียงไกร สัตยกุล อายุ 54 ปี นายก อบต.ห้วยขวาง ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในห้องนอน พบศพนายพัทธนันท์ สัตย์กุล อายุ 18 ปี หรือน้องน๊อต บุตรชาย ของเสียชีวิตบนเตียง โดยสวมชุดนอนลายสีดำ ที่ศรีษะขมับขวามีรอยถูกยิง 1 นัด ที่มีขวาลักษณะยกขึ้นอยู่ข้างศรีษะพบอาวุธปืน Glock สีดำตกอยู่บ้านกำมือ โดยไม่พบร่องรอยการต่อสู้ เจ้าหน้าพิสูจน์หลักฐาน 7 และแพทย์เวรได้เก็บหลักฐานเพื่อตรวจสอบการตาย ก่อนจะส่งศพไปชันสูตรการตายที่แน่ชัด ซี่งนายเกรียงไกร นายกอบต.ห้วยขวาง บิดาและนางสาวสุชาดา คำใหญ่ มารดา มาดูศพของบุตรชายโดยยังอยู่ในความเสียใจและไม่พูดอะไรในเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นเนื่องจากยังตกใจกับเหตุการณ์

สอบถามนาย มานพ แก้วประเสริฐ อายุ 59 ปี คนดูแลบ้าน บอกว่า บ้านหลังดังกล่าวเปิดกิจการทำโต๊ะจีน โดยน้องน๊อตปกติจะไปอยู่กับแม่ ที่บ้านอีกหลังเนื่องจากทั้งคู่ได้แยกทางกัน โดยเมื่อวานนี้น้องน๊อตก็ไม่ได้ไปเรียนตามปกติและมาที่บ้านพ่อ โดยได้มานอนเล่นประจำซึ่งคนทั้งบ้านก็ไม่ได้แปลกใจเพราะมาเป็นปกติ แต่เมื่อช่วงประมาณ 19.00 น. ตนเองและนายเกรียงไกร ได้ออกไปนอกบ้านและได้ซื้อไก่ทอดมาให้โดยได้เคาะประตูห้องแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงได้ทำการงัดประตูเข้าไปแต่ก็มาพบว่าน้องน๊อตนอนเสียชีวิตโดยยิงตัวตายไปแล้ว ซึ่งปืนกระบอกดังกล่าวเป็นของแม่ ซึ่งคาดว่าจะแอบนำปืนแม่มาที่บ้านดังกล่าว ซึ่งปกติน้องน๊อตจะเป็นคนเงียบขรึมไม่พูดจาและมีอาการเป็นโรคซึมเศร้า โดยเมื่อสอบถามไปทั้งพ่อและแม่ ไม่ได้ติดใจการตาย เพราะทราบดีว่าน้องเป็นคนเครียดมานานแล้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญทั้งสองสามีภรรยาไปสอบปากคำโดยทั้งคู่ก็รับว่าไม่ติดใจการตายเพราะทราบปัญหาของลูกชาย ซึ่งหลังจากผ่าชันสูตรไม่พบสิ่งผิดปกติจะนำร่างของบุตรชายกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ภาพ/ข่าว ปนิทัศน์ มามีสุข / นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม