ปราจีนบุรี ตลึง!พบจระเข้ยาว 2เมตรนอนขวางกลางป่า
1 min readเมื่อเวลา 12.00น.วันนี้ที่ 8 กค.65 ตำรวจสภ.ประจันตคามรับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบจระเข้นอนขวางทางไปไร่ของชาวบ้านบ้านหนองแคน หมู่ที่ 2 ต.หนองแสง อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรีขอให้ตำรวจแจ้งกู้ภัยมาจับจระเข้ตัวดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านด้วย หลังจากรับแจ้งได้ให้สายตรวจรถจักรยานยนต์ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุตามที่รับแจ้งเป็นเส้นทางระหว่างหมู่บ้านและพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านการตรวจสอบ ไม่พบตัวผู้แจ้งแต่ได้ถ่ายรูปส่งให้ทางกู้ภัยว่าได้พบจระเข้ตัวดังกล่าวอยู่บริเวณป่านี้จริง
จากการตรวจสอบในเวลาต่อมาอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูได้พบเห็นจระเข้ตัวดังกล่าวได้หลบเข้าไปนอนอยู่ในชายป่าเบญจพรรณ4เมตร จากนั้นได้เฝ้าดูจระเข้ตัวดังกล่าวไว้เพื่อรออาสาสมัครที่กำลังนำเชือกมาจับจระเข้ ว่างั้นจระเข้ตัวดังกล่าวได้เคลื่อนตัวออกจากจุดเดิมเดินเข้าไปกลางป่าประมาณ 20 เมตร จระเข้ตัวดังกล่าวรู้ว่ามีคนเดินตามจึงขู่และเฝ้าดูจระเข้ตัวดังกล่าวไว้
ต่อมาชาวบ้านทราบข่าวว่ามีการพบจระเข้จึงเข้ามาดูและตัดสินใจไอ้เชือกคล้องกับไม้ไผ่ เพื่อที่จะจับจระเข้ตัวดังกล่าวออกจากพื้นที่ความปลอดภัยและสามารถจระเข้ตัวดังกล่าวได้เป็นผลสำเร็จจระเข้ยาวราว2 เมตรน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 35 กก.
นายอนุชิด คำชมภู อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญูกล่าวว่า หลังจากรับแจ้งได้ออกมาจรวจสอบแต่ไม่พบตัว คิดว่าจระเข้ได้หนีลงทุ่งไปแล้วและคนที่พบคนแรกกลับบ้านไปแล้ว ไม่สะดวกให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เพราะต้องไปทำงาน ขณะที่พากันเดินหาจระเข้อยู่ริมทางเดินในป่าพบขระเข้นอนอยู่ข้างต้นไม้จึงบอกนักข่าวให้รู้
ต่อมานายสมพร นะตาปา อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 ม.10 ต.หนองแสง อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ทราบว่าพบจระเข้บริเวณนี้จึงมาดูและตัดสินใจจะจับจระเข้ด้วยตัวเอง และได้ขอแรงนักข่าวและตำรวจและอาสาสมัครฯที่อยู่ในป่า 3 คน นายสมพรกล่าวว่าก่อนหน้านี้สมัยหนุ่มๆเคยจับจระเข้มาแล้วครั้งนี้จึงอยากจับดูและก็จับได้โดยใช้เชือกคล้องกับไม้ไผ่คล้องคอจระเข้แล้วขอแรงนักข่าวตำรวจช่วยจับอีกแรง ใช้เวลาจับจระเข้ 10 นาที จึงขระเข้ไปไว้ที่ศูนย์เพราะพันธ์ประมงอำเภอกบินทร์บุรีดเพื่อรอส่งไปยังศูนย์ประมงน้ำจืดบึงบรเพชรต่อไป พื้นที่ดังกล่าวเมื่อก่อนเคยมีฟาร์มจระเข้แต่ได้เลิกไปแล้วคาดว่าจระเข้ตัวดังกล่าวอาจจะมากับน้ำซึ่งเคยมีน้ำหลากใหญ่เมื่อหลายปีก่อน และได้อาศัยอยู่ในบ่อน้ำของชาวบ้านในกระแวกนี้
ภาพ/ข่าว ทองสุข สิงห์พิมพ์ ปราจีนบุรี