เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2565 สภ.เมืองศรีสะเกษ นายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายคมป์ สังข์วงษ์ นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ พ.ต.อ.หัสพงศ์ เติมศิริตังคโณบล รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.ณัฐกิตติ์ เจริญเกษสุวรรณ์ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมแนวทางแก้ไขปัญหาและเข้าให้ความช่วยเหลือแม่ขโมยนม 3 กล่องให้ดื่มลูก จากร้านสะดวกซื้อ จำนวน 3 กล่อง มูลค่ารวม 39 บาท แล้วถูกผู้จัดการร้านควบคุมตัวไว้ได้และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไปดำเนินคดี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน นำตัวเข้าห้องควบคุม
ต่อมา พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้มีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่า คดีนี้ ตนตรวจสอบแล้วเห็นว่า แม้คดีนี้จะเป็นคดีอาญาแผ่นดินต้องหาว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ซึ่งมีโทษจำคุกสูงถึง 5 ปี และบุคคลอื่นไม่ควรเอาเป็นแบบอย่าง แต่เนื่องจากผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีบุตรที่จะต้องดูแล ไม่น่าจะหลบหนี และทรัพย์ที่ลักเอาไปมีมูลค่าเล็กน้อย ซึ่งเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนขโมยนมจริง เพื่อจะนำไปให้ลูกสาวอายุ 15 ปีดื่ม เนื่องจากลูกสาวบอกว่าหิว ตนไม่มีเงินแต่ก็ต้องการที่จะดูแลลูกสาวให้ได้อยู่ดีกินอิ่ม และอยากดูแลเขาให้ดี ไม่มีเงินก็ต้องหาทางหาของที่ลูกต้องการมาให้ได้ ซึ่งตนเคยก่อเหตุลักทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อแบบนี้มาแล้ว 3 ครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 หลังจากที่ตำรวจมารับตัวตน ตำรวจสงสารได้จ่ายเงินค่านมให้เพื่อไม่ให้ตนถูกจับกุม แต่ผู้จัดการร้านไม่ยอมยืนยันให้ดำเนินคดี ตนได้รับปากกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะจ่ายค่านมให้ว่าต่อไปจะไม่ทำอีก
ในการนี้ นายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ และส่วนราชการเกี่ยวข้อง ได้ไห้การช่วยเหลือผู้ต้องหาและครอบครัว ในเบื้องต้นมอบสิ่งของอุปโภค-บริโภค พร้อมกับเงินสดจำนวนหนึ่ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนต่อไป
นายสำรวย รอง ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ในส่วนของคดีเบื้องต้นทางตำรวจก็ได้ดำเนินการปล่อยตัวชั่วคราวไปแล้ว และเจ้าหน้าที่จะได้เร่งส่งสำนวนให้อัยการเพื่อส่งฟ้องศาลตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ซึ่งผลการตัดสินคดีจะเป็นเช่นไรนั้นขึ้นอยู่กับผู้พิพากษาศาลท่านจะพิจารณา ส่วนในเรื่องของความทุกข์ยากลำบากนั้น ทั้งในเรื่องของที่อยู่อาศัยที่ชำรุดทรุดโทรม ภายในบ้านมีผู้อยู่อาศัยรวมทั้งหมด 10 คน ทั้งชายและหญิงอยู่รวมกันนั้น เบื้องต้นได้มอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในแต่ละด้านเข้าให้ความช่วยเหลือดูแล ทั้งในเรื่องของการปรับปรุงบ้านที่อยู่อาศัย การส่งเสริมให้มีอาชีพ ให้มีรายได้ ส่วนปัญหาเรื่องสุขภาพความเจ็บป่วย ก็ได้มีแพทย์ พยาบาล จากทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขดูแลอยู่แล้ว จึงขอฝากไปถึงพี่น้องประชาชนด้วยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่อยากให้เป็นตัวอย่าง โดยเฉพาะประเด็นที่ว่ากระทำความผิดลักษณะนี้แล้ว จะได้รับความช่วยเหลือ เราก็ต้องดูปัจจัยหลายอย่างประกอบกันในการให้ความช่วยเหลือ การกระทำแบบนี้ไม่สมควรนำไปเป็นแบบอย่าง ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกกฎหมาย ไม่สมควรทำ และจะต้องมีคดีติดตัวไปตลอดชีวิตอีกด้วย
น.ส.ภัทรนันท์ ผู้ต้องหา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนรู้สึกผิดมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และที่ทำไปเพราะความจน ตนขอสัญญาว่าจะไม่ทำเรื่องแบบนี้อีกต่อไป และขอบคุณทุกภาคส่วนที่เมตตาและให้โอกาส และรู้สึกดีใจมากที่ผู้หลักผู้ใหญ่ให้การเมตตาช่วยเหลือดูแล ต้องขอขอบคุณทุกท่านทุกฝ่ายที่ช่วยให้ตนออกจากห้องขัง และจะไม่ทำให้แม่และญาติพี่น้องต้องเป็นทุกข์ใจอีกต่อไป
ข่าว/ภาพ บุญทัน ธุศรีวรรณ จ.ศรีสะเกษ