หนุ่มน้อยใจ ควงปืนจ่อหัวตัวเองสะพานพระราม 4 เหตุแม่ไม่พาเที่ยวต่างประเทศ
1 min read
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 16 ก.ค.2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด รับแจ้งเหตุหนุ่มเอาปืนจ่อหัวตัวเองบนสะพานพระราม4 จึงพร้อมด้วย พันตำรวจโทสุเนตย์ ศรีชำนาญ รองผู้กำกับปราบปราม สภ. ปากเกร็ด และเจ้าหน้าที่สายตรวจรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุ พบชายหนุ่มทราบชื่อต่อมาคือนายอิศราสว่างวงศ์ อายุราว 20 ปี อยู่บนกลางสะพานในสภาพถือปืนเจาะขมับตัวเองเจ้าหน้าที่พยายามพูดคุยและเจรจาเกลี้ยกล่อมอยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมง จึงนำตัวลงมาได้อย่างปลอดภัย เบื้องต้นเท่าที่สอบถามสาเหตุคาดว่าหนุ่มน้อยรายนี้ น้อยใจที่บ้านไม่พาไปเที่ยวต่างประเทศ พลเมืองดีพบเห็นจึงเเจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเกลี้ยกล่อมก่อน อาศัยจังหวะเผลอ เข้ารวบตัวจนสำเร็จ
ด้าน น.ส. หนึ่งฤทัย สีม่วง อายุ 38 เสื้อแขนยาว เล่าว่า ตนเห็นมีคนไลฟ์สดและเอาปืนจ่อหัว แฟนตนจึงให้ตนเข้าไปช่วยแต่ตนไม่กล้า เพราะเขามีปืน แฟนตนจึงเป็นคนเข้าไปเอง พอเดินเข้าไปใกล้ๆเขาหันปืนมาหาตนตนจึงกระโดนข้ามฝั่งไปที่ถนน ตนจึงสังเกตุว่าอาจจะไม่ใช่ปืนจริง และคาดว่าเป็นปืนบีบีกัน จึงข้ามฝั่งกลับมาและค่อยๆขยับเข้าตัวเขาเรื่อยๆ และให้แฟนโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ และค่อยๆกล่อมเขาว่ามีปัญหาหรือสาเหตุอะไรที่จะคิดฆ่าตัวตาย เขาจึงตัดสินใจเดินมาคุยกับตนว่าน้อยใจพ่อแม่ แม่นัดจะพาไปเมืองนอกเมื่อปีที่แล้ว แต่แม่ไม่พาไป ปีที่แล้วแม่ไปประเทศจีนได้แต่ทำไมพาเขาไปไม่ได้ ตั้งแต่เเม่กลับมาจากประเทศจีนก็ยังไม่พาเขาไป ตนจึงบอกให้คิดให้ดีๆ เพราะบ้านมีฐานะ คงไปเที่ยวเมืองนอกได้อีกไม่นาน ตนจึงดูสถานการณ์และส่งสัญญานให้เจ้าหน้าที่ว่าเป็นปืนปลอม ซึ่งตนมั่นใจมาก เพราะตนคอยมองที่ปืนตลอด ทางเจ้าหน้าที่จึงค่อยๆขยับเข้ามาเรื่อยๆและชาจเข้าที่ตัว
น.ส.นัทฐา ปิ่นแก้ว อายุ43 ปี (แดงอมชมพู) เล่าว่า ตนโทรไปแจ้ง 191 ว่ามีคนเอาปืนจ่อหัวตัวเอง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบมา แต่แฟนตนเข้าไปกล่อมก่อน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมา ซึ่งใช้เวลาประมาณ 15 นาทีกว่าจะเกลี้ยกล่อมได้
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุมารับตัวกลับบ้านในเวลาต่อมา
