ฮือฮา!! เปิดตำนานหลวงพ่อทบเกจิดังแห่งเมืองมะขามหวาน (มีคลิป)

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้สัมภาษณ์ ท่านอาจารย์ฤทธิ์หล่มสัก ประธานชมรมเปิดตำนานหลวงพ่อทบ ที่ตั้งอยู่ที่บริเวณศูนย์ห้างพันทิพย์บางกะปิชั้น3 ได้เปิดเผยถึงประวัติ และ คุณงามความดีของ พระเกจิอาจารย์อันดับต้นๆของประเทศไทย คือท่าน พระครูวิชิตพัชราจารย์ หรือ หลวงพ่อทบ ธัมมปัญโญ แห่ง วัดพระพุทธบาทชนแดน อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูณ์ โดยท่านอาจารย์ฤทธิ์ หล่มสัก ได้เล่าถึงประวัติความเป็นมาเบื้องต้นของ พระเกจิอาจารย์รูปดั่งกล่าวว่า หลวงพ่อทบ ที่เป็นที่สักการะบูชาของชาวจังหวัดเพชรบรูณ์ และจังหวัดอื่นๆของประเทศไทย

โดยหลวงพ่อทบ ธัมมปัญโญ ความจริงท่านเป็นพระเถระรุ่นเก่า แต่เป็นด้วยเหตุว่าท่านมีอายุ และพรรษาที่ยาวนาน ท่านได้มรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2519 สิริรวมอายุได้ 95 ปี จึงทำให้ท่านเป็นพระเถระที่ไม่เก่าเท่าไรนัก อาจจะเรียกว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ร่วมสมัยก็ได้ คือท่านเป็นพระเถระทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่รวมกัน ถึง แม้ว่าหลวงพ่อทบจะได้ละสังขารไปจากพวกเราแล้วก็ตาม แต่ท่านก็ได้สร้างสมคุณงามความดีเอาไว้ทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นอเนกอนันต์คุณให้ชนรุ่นหลังได้รำลึกถึงคุณงามความดีของท่านไปอีกนานแสน นาน หลวงพ่อทบได้ บรรพชาที่ วัดช้างเผือก โดยมี พระอาจารย์สี เจ้าอาวาสวัดช้างเผือกในขณะนั้น เป็นผู้บรรพชาให้ เมื่อได้บรรพชาเป็นสามเณรแล้ว ก็ได้ศึกษาหาความรู้ต่างๆ ในสำนักของพระอาจารย์สี จนเมื่อมีอายุครบ 21 ปี สามเณรทบไปทำการอุปสมบทที่ วัดศิลาโมง บ้านนายม ตำบลนายม อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมี ท่านพระครูเมือง เป็นพระอุปัชณาย์ พระอาจารย์ปาน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์สี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ธัมมปัญโญภิกขุ” หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านก็ได้กลับไปจำพรรษาที่วัดช้างเผือก 2 พรรษา ในระหว่างนี้หลวงพ่อทบก็ได้ใช้เวลาทั้งหมดศึกษาวิปัสสนากรรมฐานจาก พระอาจารย์สี ซึ่ง ในขณะนั้นพระอาจารย์สี เป็นพระอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณทางวิปัสสนากรรมฐาน เวทมนตร์คาถา หลวงพ่อทบได้ศึกษาและฝึกฝนจนแก่กล้าเป็นที่ยอมรับของพระอาจารย์สี ต่อมาท่านก็ได้เดินทางไปขอศึกษาวิชาเพิ่มเติมจาก พระอาจารย์ปาน เจ้าอาวาสวัดศิลาโมง ตำบลนายมในสมัยนั้น ซึ่งหลวงพ่อทบก็ได้เรียนวิชากับพระอาจารย์ปานจนสำเร็จสมกับความตั้งใจ พระอาจารย์สีและพระอาจารย์ปาน แท้จริงแล้วทั้งสองท่านนี้เป็นศิษย์ของ หลวงพ่อทรัพย์ตาพรรณ โดยหลวงพ่อทบนั้นท่านได้สร้างทำนุบำรุง และ บูรณะซ่อมแซมพระอุโบสถ ถึง 19 หลัง โดยตะกรุดที่ทำชื่อเสียงประกาศกิตติคุณให้กับ หลวงพ่อทบ โดยในปี2485 ท่านได้รับนิมนต์เข้าพิธีพุทธพิเษกใหญ่ที่วัดสุทัศน์ปลุกเสกยุคอินโดจีนซึ่งแจกสงครามอินโดจีน ปี2485 ซึ่งในครั้งนั้นหลวงพ่อทบได้สร้างปาฏิหารย์ โดยท่านภ่ายรูปไม่ติด ต่อมาปี2500 พิธีใหญ่พิธีกร25ศตวรรษ ที่วัดสุทัศน์เพื่อทำการหล่อพระโดยมีเกจิดังทั่วประเทศเข้าร่วมในพิธีครั้งนี้ด้วย และเกจิต่างๆได้นำของคลังของแต่ละรูปใส่ลงไปเบ่าหลอมเพื่อนำมวนสารมาหล่อโดย หลวงพ่อทบได้นำตะกรุด3ดอก เป็นตะกรุดลายธงชาติ ตะกรุดสามกษัตริย์ และตะกรุดโทนยุคต้น ใส่ลงไปในเบ่าหลอมแต่กลับปรากฏว่าตะกรุดทั้งสามดอกนั้นไม่ละลายจึงทำให้ผู้คนในพิธีต่างฮือหา และถามกันว่าตะกรุดดอกดังกล่าวนั้นเป็นของอาจารย์อะไร จึงได้มารู้ภายหลังว่าเป็นตะกรุดของหลวงพ่อทบจึงทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อโด่งดังมากโดยตะกรุดจะมีลักษณ์ และเอกลักษณ์ของตะกรุดดังนี้
โลหะ และล็อกหัวตะกรุดไม่ให้คลี่ออกจากกันก่อนการพันเชือก แต่แท้ที่จริงแล้วนั้นการเก็บหัวตะกรุดของหลวงพ่อทบนั้นมีการทำหลายแบบ ซึ่งจะแยกได้ดังนี้
1.การทุบหัว การทุบนั้นใช้วัสดุง่ายๆเช่น ค้อนเล็ก หรือหมวกเหล็กตีให้หัวตะกรุดบีบเข้าหากัน
2.การพับข้าง การพับข้างนั้นมีจุดประสงค์ 2 อย่างคือ เก็บความคมและ การพับเพื่อยึดวัสดุบางอย่างให้อยู่ตรงกลางในการม้วน ซึ่งเคยมีการผ่าพิสูจน์ตะกรุดพับข้างออกมาแล้วพบว่ามีผ้ายันต์และเส้นเกศาของหลวงพ่ออยู่ตรงกลาง
3.ทุบแป้น การทุบแป้นนั้นเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดซึ่งจะทุบกับแป้นไม้แข็งหรือเขียงก็ได้ ซึ่งส่วนมากจะเป็นตะกรุดทำมือ ม้วนไม่หนามาก ส่วนมากจะเป็นตะกรุดที่ใช้โลหะแผ่นเดียว
4.ตะกรุดไม่ทุบหัว ตะกรุดแบบนี้จะมีส่วนใหญ่จะพันเชือกเว้นระยะห่างจะหัวตะกรุดเพื่อป้องกันการร่นของเชือก

โลหะที่ใช้ทำตะกรุดนั้น ส่วนมากจะเป็นแผ่นทองแดง ทองเหลือง(ทองฝาบาตร) ตะกั่ว อลูมิเนียม เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีตะกรุดบางแบบของท่านที่ใช้วัสดุอื่นๆนอกเหนือจากแผ่นโลหะเช่น ไม้ไผ่ตัน ทองคำ เงิน นาค และดอกนี้เป็นตะกรุดเอกลักษณ์นิยมที่สุดของนักเล่นนักสะสมของหลวงพ่อทบและทั่วประเทศที่เป็นที่ต้องการรู้จักและเป็นทีรู้จักเป็นอย่างดีเพราะ เป็นตะกรุดมาตรฐานที1และเป็นที่สุดของหลวงพ่อทบเคยมีประสบการมานับไม่ถวนซึ่งตัวจิงหาได้พบเจอน้อยมากหรือเป็นตะกรุดทีทำออกมาเก้มากทีสุดของบันดาตะกรุดทุกรุ่นของหลวงพ่อเลยก็ว่าได้และเป็นที่ต้องการจากนักสะสมและคนรุ่นใหม่เป็นอย่างยิ่งตะกรุดนี้เป็นตะกรุดที่มีประสบการมากมายการศึกษาเอกลักษณ์ของตะกรุดหลวงพ่อทบยุกต้นๆเลยก็ว่าได้ เป็นตะกรุดโทน ขนาดความยาว 5 นิ้ว ทองแดงล้วนทุบหัวมาตรฐาน พันด้วยเชือกป่านเส้นใหญ่ทาด้วยรักดำ ลายพันมาตรฐาน เก่าด้วยอายุโลหะและเชือก สร้างก่อนปี2500ประมาณการสร้างปีพ.ศ2489หรือที่นักสะสมเรียกว่าตะกรุดยุคต้นต้นนั่นเอง📍เทพระเจ้ามะขามหวาน1ในตะกลุดทีดังทีส

โดยทางชมรมเปิดตำนานหลทบ โดยท่านอาจารย์ฤทธิ์ หล่มสัก ได้เล่าว่าได้จัดตั้งเว๊บไซต์หนึ่งชื่อชมรมเปิดตำนานหลวงพ่อทบ เมื่อปี2550 ซึ่งเป็นสายตรงสายแรกเกี่ยวกับชมรมเปิดตำนานหลวงพ่อทบ โดยจัดตั้งชมรมมาเป็นระยะเวลากว่า12ปี แล้ว ซึ่งทางชมรมได้เปิดให้ผู้ที่ศึกษาพระเครื่องเครื่องรางของยุคต่างๆ และคนรุ่นหลังได้รู้ถึงประวัติความเป็นมาของ หลวงพ่อทบ อย่างแท้จริง

ขอบขอบพระคุณท่านอาจารย์ฤทธิ์ หล่มสักประธานชมรมเปิดตำนานหลวงพ่อทบแห่งประเทศไทย และขอขอบคุณคุณพัฒนกลู บุญศักดิ์ คณะกรรมการการตัดสายสินหลวงทบ

ภาพ/ข่าว นายพงษ์ศักดิ์ ประทีป /โกอู๋ ผู้สื่อข่าวจังหวัดพังงา