สมุทรสาคร รถบรรทุกพ่วงเบรกไม่อยู่พุ่งชนรถที่จอดติดไฟแดงกว่า 10 คัน
1 min read
เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น.ของวันที่ 05 สิงหาคม 2565 ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ พุ่งชนรถยนต์ที่จอดติดไฟแดงหน้าปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ฝั่งขาเข้ากระทุ่มแบน ถนนพุทธสาคร ตำบลสวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยมีรถยนต์เสียหายหลายคัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน จึงแจ้งให้ ร.ต.อ.สมพิษ บุญลือ รองสารวัตรสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ไปตรวจสอบ พร้อมกับรีบประสานหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลวิชัยเวชอ้อมน้อย โรงพยาบาลมหาชัย 2 และ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รับผู้บาดเจ็บ อีกทั้งยังขอรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลตำบลสวนหลวง นำน้ำเข้ามาฉีดล้างพื้นที่มีคราบน้ำมันรั่วไหลอีกด้วย โดยในที่เกิดเหตุนั้น มีรถยนต์ถูกชนต่อๆ กันรวมกว่า 10 คัน และมีผู้บาดเจ็บรวม 7 คนยังไม่ทราบชื่อ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวิชัยเวชอ้อมน้อยทั้งหมด โดย 6 คนได้รับบาดเจ็บไม่สาหัส มีเพียงเด็กนักเรียนชาย 1 คน ที่เดินขายนมเปรี้ยวอยู่ตรงไฟแดง ถูกเฉี่ยวชนจนกระเด็นขึ้นไปอยู่บนฝากระโปรงของรถแท็กซี่ มีบาดแผลตามร่างกายและขาหัก ขณะที่รถคันก่อเหตุเป็นรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียนเลขหน้า 72- 8373 นครปฐม ทะเบียนตัวพ่วง 72 – 8374 นครปฐม ที่บรรทุกถ่านหินเต็มคัน มาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำลังจะนำมาส่งที่บริษัทแห่งหนึ่งย่านตัวอำเภอเมืองสมุทรสาคร
จากการสอบถามนายศักดิ์พงษ์ โตสุพรรณ อายุ 31 ปี คนขับรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ บอกว่า ตนเองกำลังจะนำถ่านหินมาส่งที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งก่อนถึงที่เกิดเหตุนั้นตนเองรู้แล้วว่ารถมีความผิดปกติเกิดขึ้น เพราะเบรกไม่อยู่ ซึ่งตนได้ผ่าไฟแดงมาแล้วไฟแดงหนึ่ง ทั้งนี้ก็ได้พยายามที่จะชะลอหยุดรถแต่ไม่สำเร็จ จนกระทั่งมาถึงไฟแดงที่เกิดเหตุก็พยายามจะเหยียบเบรกอีกแต่เหยียบเท่าไหร่ก็เบรกไม่อยู่ จึงเฉี่ยวชนกับเด็กขายนมเปรี้ยวที่กำลังเดินข้ามถนนและพุ่งชนเข้ากับรถที่จอดติดไฟแดง จนเกิดการชนต่อๆ กันระนาว
ขณะที่นายพุทธดำรงค์ คุณารักษ์ อดีตท้องถิ่นจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เล่าว่า ตนเองกลับจากไปทำธุระมา ช่วงที่รถจอดติดไฟแดงอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงรถชนกันดังสนั่นอยู่ด้านหลัง แต่ไม่คิดว่าจะมาถึงรถของตนเพราะคิดว่าอยู่ห่างหลายคัน แต่ก็ไม่พ้นรถของตนถูกชนท้ายไปด้วยก่อนที่จะพุ่งไปชนคันที่อยู่ข้างหน้าแล้วก็ชนต่อๆ กันไปอีกหลายคัน ส่วนรถคันที่เป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุหมู่ในครั้งนี้คือ รถบรรทุกพ่วงซึ่งก็ไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากเบรกไม่อยู่หรือไม่ได้เบรกเลย
ด้านนายศรุต จันทรักษณ์ อายุ 55 ปี คนขับแท็กซี่ ก็เล่าด้วยว่า ช่วงที่รถทุกคันจอดติดไฟแดงนั้น ตนเองได้ยินเสียงตู้มหลายครั้ง พอหันไปดูก็เห็นรถบรรทุกหันหัวไปขวางถนน แล้วก็มีรถยนต์ถูกชนต่อกันมาหลายคันรวมถึงคันของตนเองด้วย
นอกจากนี้นายพิชัย เรืองเดช อายุ 43 ปี คนขับรถยนต์กระบะบรรทุกตู้ทึบ ที่ถูกชนคันแรกก็เล่าว่า ตนเองจอดติดไฟแดงอยู่ แล้วรถบรรทุกพ่วงที่ไม่ได้เบรกเลยก็พุ่งชนท้ายอย่างแรง ก่อนที่จะไปพุ่งชนคันอื่น ซึ่งคนขับรถบรรทุกพ่วงบอกว่า เขาเบรกไม่อยู่เพราะเพิ่งไปทำเบรกมาพอกดลงไปแล้วไม่มีเบรกเลย จึงไม่สามารถเบรกรถได้ ส่วนน้องที่ขายนมซึ่งได้รับบาดเจ็บมากที่สุดนั้น ก็กำลังเดินข้ามถนนทำให้ถูกเฉี่ยวชนจนกระเด็นไปอยู่บนฝากระโปรงรถแท็กซี่
ทั้งนี้ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้ทั้งหมดแล้ว ก็ได้รีบแยกรถเข้าข้างทางก่อนนำไปเก็บรักษาไว้ที่อู่เก็บของกลาง เพื่อรอตรวจสอบอีกครั้ง พร้อมกันนี้ก็ได้ให้คนขับทุกคันไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.กระทุ่มแบน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับรถบรรทุกพ่วงต่อไป