“สุรินทร์”‘ชาวนาเมืองช้างเร่งตัดต้นข้าวเตรียมหว่านปุ๋ยหลังฝนตกมีน้ำขังในแปลงนา
1 min readสุรินทร์-ชาวนาเมืองช้างเร่งตัดต้นข้าวเตรียมหว่านปุ๋ยหลังฝนตกมีน้ำขังในแปลงนา เผยปัจจุบันชาวนาหันมาทำนาแบบเกษตรอินทรีย์กันมากขึ้น เพื่อสร้างระบบนิเวศให้กับสัตว์น้ำได้อยู่อาศัย
วันที่ 23 ส.ค. 65 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.รายงานว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วง ส่งผลทำให้มีน้ำท่วมขังในแปลงนา เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ที่ปลูกข้าวหอมมะลิเป็นหลัก ต่างเร่งตัดต้นข้าวเพื่อเตรียมหว่านปุ๋ย เร่งการเจริญเติบโตของต้นข้าว และลดการเติบโตของต้นหญ้าที่อยู่ในแปลงนา สามารถเพิ่มผลผลิตเมล็ดข้าวให้กับเกษตรกรได้เป็นจำนวนมากขึ้น ส่วนปลายข้าวที่ถูกตัดออกก็ปล่อยทิ้งให้เน่าเพื่อเป็นปุ๋ยให้กับต้นข้าวในนาต่อไป หรือบางรายก็เก็บนำไปให้วัว-ควาย ที่เลี้ยงไว้กิน
ซึ่งปัจจุบันชาวนาได้หันมาใช้ปุ๋ยแบบเกษตรอินทรีย์ ลดการใช้ปุ๋ยเคมี เพื่อให้ได้ข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพ รวมถึงเป็นการสร้างระบบนิเวศให้กับสัตว์ที่อาศัยอยู่ตามทุ่งนา โดยเฉพาะกุ้ง หอย ปู ปลา ที่ทุกวันนี้เริ่มมีให้เห็นมากขึ้นในแปลงนาข้าว
นายพิรุณ อุ่นศรี เกษตรกรและนักจัดรายการวิทยุ ที่มีที่อยู่ที่บ้านหลักวอ ม.11 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ บอกว่า ตนมีที่อยู่ประมาณ 6 ไร่ แบ่งทำกระท่อมและปลูกพืชผัก 1 ไร่ เหลือไว้ทำนา 5 ไร่ หลังจากช่วงนี้ฝนตกลงมาติดต่อกันหลายวัน ทำให้ใบข้าวเริ่มเยอะ จึงกลัวว่าตนข้าวจะล้มตอนช่วงออกร่วง ก็เลยต้องตัดใบออกแต่ไม่ได้ตัดจนถึงคอข้าว ตัดเฉพาะใบและต้องให้ต้นข้าวโผล่พ้นน้ำ การตัดต้นข้าวยังป้องกันแมลงที่แอบอยู่ตามใบข้าวได้อีกด้วย เมื่อตัดแล้วก็จะปล่อยไว้ให้เป็นปุ๋ยตามธรรมชาติ และจะใช้ปุ๋ยซึ่งเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่เราทำไว้เองมาฉีดพ้น ปัจจุบันคนหันใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนปุ๋ยเคมีกันเยอะ เพื่อลดต้นทุนการทำนาและเพื่อสุขภาพของเราด้วย ผลที่ได้ยังรวมไปถึงในเรื่องระบบนิเวศด้วย ตอนนี้ในนาตนมีทุกอย่าง กุ้ง หอย ปู ปลา กลับมากันครบ เมื่อก่อนหาไม่มีแต่ตอนนี้ปูเจาะรูอยู่ตามคันนากันเต็มและรวมถึงพวกไส้เดือนด้วย ส่วนประโยชน์ของการตัดต้นข้าวอีกอย่างก็คือทำให้พวกต้นหญ้าลดลงด้วย เพราะต้นข้าวเมื่อถูกตัดแล้วจะเจริญเติบโตไวกว่าหญ้า