ลูกเขยออกไปดูน้ำจะท่วมนาข้าว แม่ยายไปเจอพบกลายเป็นศพคาทุ่ง
1 min readบุรีรัมย์ หนุ่มวัย 46 ปี ชาว อ.บ้านด่าน บุรีรัมย์ ตื่นแต่เช้าออกไปดูสถานการณ์น้ำ เกรงว่าน้ำจะท่วมนาข้าว แล้วเงียบหายไป แม่ยายตามหา แต่เห็นแค่เสื้อลอยน้ำ ไปตามลูกสาวมาดูอีกที ที่แท้เป็นศพลูกเขย ภรรยาเผยไม่เคยให้สามีไปหาปลาคนเดียวเพราะป่วยเป็นโรคลมชัก สุดท้ายพลาดจนได้
วันที่ 30 ก.ย.65 เมื่อเวลา 14.00 น. ร.ต.อ ปรีชาศักดิ์ ศักดิ์ยปรีชา รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีคนจมน้ำเสียชีวิตอยู่กลางทุ่งนา บ้านโสน ต.วังเหนือ อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ จึงรุดตรวจสอบ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านด่าน อ.บ้านด่าน ที่เกิดเหตุเป็นทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน พบศพนายมานะ โพธิ์ไทร อายุ 46 ปี อยู่เลขที่ 49 หมู่ 3 ต.วังเหนือ อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เสียชีวิตอยู่ริมคันนา คาดเสียชีวิตมาประมาณ 8 ชม. สอบถามนางบัวสอน ชารัมย์ อายุ74ปี บ้านเลขที่7 ม.3 บ้านโสน ต.วังเหนือ อ.บ้านด่าน แม่ยายของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ลูกเขยออกจากบ้านมาตั้งแต่ 06.00 น.เพื่อจะไปดูนาข้าว เกรงว่าน้ำจะท่วมนา เพราะฝนตกตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ประมาณ 09.00 น.เห็นไม่กลับบ้าน จึงเดินออกไปที่นา เห็นเสื้อสีแดงลอยอยู่เหนือน้ำ คิดว่าเสื้อผ้าเก่า จึงไม่สนใจแล้วเดินกลับบ้าน จนกระทั่งบ่ายก็ยังไม่เห็นลูกเขยกลับบ้าน จึงพาลูกสาวไปดู จึงมารู้ว่าที่เห็นครั้งแรกคือศพลูกเขยของตัวเอง
นางน้ำอ้อย ชารัมย์ อายุ56ปี ภรรยาผู้ตาย ให้การกับตำรวจว่า ปกติสามีจะป่วยเป็นโรคลมชัก จะไม่ให้ไปหาปลาตามลำพัง แต่วันนี้สามีเร่งไปดูน้ำนาข้าว เพราะกลัวน้ำจะท่วมนา หลังจากแม่มาบอกว่าไม่เห็น จึงออกไปตาม เห็นเสื้อสีแดงรู้ทันทีว่าเป็นสามี จึงกระโดดลากขึ้นมาจากน้ำที่ลึกประมาณ 50 ซ.ม.มาเข้าฝั่งคันนา แต่เสียชีวิตแล้ว ไม่ติดใจการตายของสามี เพราะคิดว่าน่าจะเกิดอาการกำเริบ ระหว่างไปดูน้ำ แล้วล้มนอนคว่ำหน้าจมน้ำโดยที่ไม่มีใครมาช่วยเหลือ
ภาพ/ข่าว วาทิตย์ แสนธุปี
Loading…