กลุ่มคนงานเก็บเบอร์รี่ป่าฟินแลนด์ ปี2556 ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ “สุเทพ อู่อ้น” ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล
1 min readกลุ่มคนงานเก็บเบอร์รี่ป่าฟินแลนด์ ปี2556 ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ สุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร โดยธีรศักดิ์ ภักดีนพรัตน์ ตัวแทนกลุ่มเปิดเผยว่าตนและเพื่อนคนไทยรวม50ชีวิต ได้เดินทางไปเก็บเบอร์รี่ที่ประเทศฟินแลนด์ ให้กับบริษัทBer-Ex ในปี 2556 เมื่อไปถึงกลับต้องเผชิญกับสภาพการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม กฎหมายแรงงานไม่ให้ความคุ้มครองพวกเขา จึงเรียกร้องให้ทางรัฐบาลฟินแลนด์รับทราบปัญหาและขอความช่วยเหลือในระหว่างที่อยู่ในประเทศฟินแลนด์และมีการดำเนินการส่งตัวกลับประเทศไทยนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี2556 จากนั้นได้ดําเนินการขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี2557 แต่กลับถูกเพิกเฉยมาตลอด9ปี จนถึงบัดนี้ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆจากรัฐบาลไทย
ทั้งที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนงาน50ชีวิต สร้างความทุกข์และความเดือดร้อนให้พวกเขาและครอบครัวบางรายต้องขายบ้านขายที่ดิน บางคนหมดเนื้อหมดตัวดิ้นรนเพื่อหาเงินมาชดใช้หนี้
การเข้ายื่นหนังสือต่อกรรมาธิการแรงงานในวันนี้หวังว่าจะสามารถเปิดโปงขบวนการค้าแรงงานทาสมาทำงานที่ฟินแลนด์ซึ่งขบวนการนี้มีอิทธิพลสูงและมีการจ่ายรับสินบนเพื่อให้การขนแรงงานไปทำงานที่ประเทศฟินแลนด์ราบรื่นไม่ถูกสกัดกั้น
ด้านนาย ศิริบูรณ์ ชื่นชม ตัวแทนอีกราย กล่าวเพิ่มเติมว่าตลอดระยะเวลา 9ปีที่ผ่านมา สิ่งที่เห็นคือการร่วมมือของกระทรวงแรงงานในการส่งเสริมธุรกิจค้าแรงงานไทยไปเป็นแรงงานทาสเก็บเบอร์รี่ฟรีให้กับอุตสาหกรรมเบอร์รี่ป่าของฟินแลนด์มาโดยตลอด แรงงานไทยหลายร้อยชีวิตโดนหลอกไปทำงานร่วม3เดือน ทำงานเฉลี่ยวันละ14ชั่วโมงไม่มีวันหยุด
สุดท้ายกลับบ้านมือเปล่าแถมยังมีหนี้สินที่ต้องชดใช้ทั้งหมดนี้หากกระทรวงแรงงานไม่รับรองให้นายหน้าคนไทยและธุรกิจเบอร์รี่ฟินแลนด์สามารถนำแรงงานไปได้คนงานไทยหลายร้อยชีวิตก็ไม่ต้องมีชะตากรรมเช่นนี้
สุเทพ อู่อ้น ประธานกรรมาธิการแรงงานกล่าวว่าตนได้ทำหนังสือเตรียมไว้แล้วและจะนำหนังสือร้องเรียนที่ได้รับไปยื่นต่อรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานในวันนี้เวลา11:00น.เพื่อขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และขอให้กระทรวงแรงงาน อนุมัติเงินช่วยเหลือคนงานที่ประสบปัญหาในวงเงินคนละ30,000บาทให้กับคนงานทุก คนที่เสียหายจากฤดูกาลเก็บเบอร์รี่ปี2565โดยเร่งด่วน
แม้ว่าเงินจํานวนนี้ยังไม่พอที่จะจ่ายหนี้สินที่กู้ยืมไปทํางานก็ตาม แต่เชื่อว่าสามารถแบ่งเบาได้ไม่มากก็น้อยอีกทั้งจะให้กลไกกรรมาธิการเพื่อติดตามความเป็นธรรมในพี่น้องแรงงานจนถึงที่สุด