นนทบุรี ผู้ประกอบการเครื่องปั้นดินเผาแทบสลายหลังฝ่าพิษโควิด 19 มาเจอน้ำท่วมเศษฐกิจตกต่ำรายจ่ายมากว่ารายรับ
1 min readเมื่อวันที่ 23 ต.ค.2565 หลังจากน้ำเหนือน้ำหนุนสูงน้ำเจ้าพระยาทะลักเข้าท่วมสองริมฝั่งเจ้าพระยาหรือที่รุ่มต่ำได้รับผลกระทบหนัก ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ถ.วุขาประชาสรรค์ 1 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีชื่อ ร้านกัลยา ซึ่งเป็นร้านขายส่งเครื่องปั้นดินเผาแทบทุกชนิด ที่ขึ้นชื่อของเกาะเกร็ด ซึ่งในร้านเต็มไปด้วยเครื่องปั้นดินเผาทุกชนิดจากชิ้นเล็กไปถึงชิ้นใหญ่กระถางบางส่วนที่เก็บไม่ทันน้ำท่วมได้รับความเสียหายมากพอสมควรบางส่วนก็เก็บขึ้นที่สูงทันสวนที่เก็บไม่ทันก็จมน้ำเวลาน้ำทะเลหนุนสูงซึ่งคนงานในร้านได้ยกของขึ้นรถเพื่อย้ายไปอยู่อีกฝั่งทางเพื่อหนีน้ำ
นางกัลยา รนขาว อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเล่าว่า ตนได้มาเช่าที่เปิดร้านประกอบอาชีพขายเครื่องปั้นดินเผา มานานถึง 17-18 ปี ได้เพราะตนเป็นคนเกาะเกร็ด ซึ่งในเมื่อก่อนร้านของตนจะขายของดีมากลูกค้าเยอะเพราะร้านของตนขายเครื่องปั้นดินเผาหลายชนิดมากจากชิ้นเล็กไปถึงชิ้นใหญ่เพราะร้านของตนเป็นร้านขายส่งและราคาก็ถูกขายปลีกก็มีแล้วแต่ลูกค้าจะสั่งซื้อตามใจชอบส่วนราคาก็แตกต่างกันไปจากหลักบาทหลักสิบถึงหลักร้อยก็ถือว่าราคาไม่แพง ส่วนรายจ่ายแต่ละเดือนก็แสนกว่าบาทค้าเช่าที่ค้าลูกน้องหรือค่าใช้จ่ายต่างๆ ส่วนรายรับก็พออยู่ได้จ่ายไปแล้วก็ยังพอเหลือกำไรมีเงินหมุนมีเงินเก็บบ้างก็อยู่ได้พอมาพักหลังเจอโควิด 19ช่วงแรกก็ยังพอขายดีและขายได้บ้างพอพักหลังมาเศษฐกิจเริ่มแย่งเพราะโควิด 19 ร้านค้าปิดกันเยอะมากตลาดต้นไม้ก็ขายไม่ได้เพราะพิษโควิด 19 ทำให้เศษฐกิจตกต่ำผลพวงมาในเมื่อต้นไม้ขายไม่ได้กระถางต้นไม้ของตนก็ขายไม้ได้เหมือนกันลูกค้าหายไปเยอะมากบางวันลูกค้าแทบไม่มีเข้าร้านรายรับไม่มีถึงมีก็น้อยมากรายจ่ายแต่ละเดือนเยอะรายรับน้อยลงขายขาดทุนทุกเดือนตนต้องควักเงินที่เก็บเอาไว้ออกมาใช้จ่ายในแต่ละเดือนแต่ก็ต้องสู้ไม่เคยคิดที่จะเลิกกิจการขายเครื่องปั้นดินเผา พอโควิดเบาลงร้านต้นไม้เปิดขายได้ตนก็เริ่มมีลูกค้าเข้ามาซื้อของในร้านบ้างพออยู่ได้สู้ชีวิตไปไม่ยอมถอยและมาช่วงเกือบเดือนที่ผ่านมาช่วงน้ำเหนือและน้ำทะเลหนุนสูงร้านของตนชึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาน้ำได้ทะลักเข้าท่วมร้านของเครื่องปั้นดินเผาของตนในแต่ละวันระดับน้ำสูงในร้านกระถางบางส่วนก็ยกขึ้นที่สูงทันบางสาวนยกไม่ทั้นก็ปล่อยจมน้ำซึ่งในทุกวันนี้ให้ลูกน้องในร้านขนของขึ้นรถย้ายไปอีกร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามกันเพื่อหนีน้ำก็ยอมรับว่ากระถางพังเสียหายมากแทบพูดไม่ออกทุนจมขายของขาดทุกวันส่วนกระถางที่จมน้ำถ้ามีเวลาก็ต้องนำมาล้างใหม่หรือถ้ามีคนมาชื้อก็ขายไปในราคาถูก ต้องยอมขาดทุนขายออกไปดีกว่าเก็บเอาไว้ยังพอมีเงินมาหมุนค้าใช้จ่ายในร้านไม่มากก็น้อย
ส่วนทางด้านเกาะเกร็ดน้ำยังคงท่วมสูงเงียบไปทั้งเกาะนักท่องเที่ยวไม่มี ส่วนร้านค้าหรือร้านขายของฝากหรือร้านขายอาหารปิดเงียบทุกร้านพ่อค้าแม่ค้าแต่ละร้านต้องเก็บของเพื่อหนีน้ำ