อาทิตย์. พ.ย. 24th, 2024

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

“ปวีณา” บุกสภ.เมืองพิจิตร พาเด็ก13ปีแจ้งความปู่ข่มขืนมาราธอนนาน7ปี

1 min read

เด็กหญิงวัย13ปีสุดทนญาติผู้ใหญ่นับถือเหมือนปู่ที่ดูแลมาตั้งแต่เด็ก แต่เป็นโรคจิตวิตถารตอนอายุ 6 ขวบ เปิดหนังโป๊ให้ดูและข่มขืนยาวนานถึง 7 ปี ด้วยความไร้เดียงสาเด็กมีรู้ว่าการถูกล่วงละเมิดทางเพศคือการข่มขืน จนกระทั่งเริ่มโตเป็นสาวเข้าสู่วัย 13 ปี จึงรู้และเข้าใจนำเรื่องไปบอกย่าแท้ๆแต่ไม่เชื่อ จนสุดท้ายได้เล่นและใช้โทรศัพท์ของคนที่ตนเองเรียกว่าปู่ พบคลิปลามก อนาจาร ที่มีภาพตนเองถูกละเมิดทางเพศเหมือนหนังX จึงไปแจ้งความและร้องไปยังมูลนิธิปวีณา เฒ่าลามกก็ตามรังควานขู่ฆ่าด้วยการฆ่าแมวของเด็กหญิงรายนี้แล้วส่งภาพและข้อความข่มขู่ ล่าสุดตำรวจสภ.เมืองพิจิตรรวบรวมหลักฐานออกหมายจับเฒ่าลามกโรคจิตแล้ว แต่ยังให้การปฏิเสธ

วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2565 เมื่อเวลา 17.00 น. นางปวีณา หงสกุล มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองพิจิตร พร้อมกับ เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี และนางต้อย (นามสมมุติ) อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นย่าแท้ๆของ เด็กหญิงเอ เป็นชาวบ้านอยู่ ต.หัวดง อ.เมืองพิจิตร เข้าพบกับ พล.ต.ต.กำธร จันที ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร โดยได้พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ โดยเล่าเหตุการณ์ว่า นางต้อย ซึ่งเป็นย่าแท้ๆของ เด็กหญิงเอ มีลูกชาย ซึ่งเป็นพ่อของเด็กหญิงเอ แต่ป่วยด้วยโรคจิตเวช และได้แยกทางกับภรรยาซึ่งภรรยาหรือแม่ของเด็กหญิงเอก็ทิ้งลูกสาวไว้ให้อยู่กับพ่อที่เป็นผู้ป่วยจิตเวช ซึ่งก็ไม่มีความสามารถในการดูแลเด็กหญิงเอ ซึ่งตอนนั้นอายุเพียง 6 ขวบ จึงทำให้ เด็กหญิงเอ ต้องมาอยู่ในความดูแลของ นางต้อย ผู้เป็นย่าแท้ๆ แต่ตอนนั้นผู้เป็นย่า คือ นางต้อยก็ต้องไปทำงานหาเงินที่เกาะล้านไม่สามารถนำหลานไปอยู่ด้วยได้ จึงนำเด็กหญิงเอ ไปอยู่กับพี่สาวของตนเอง คือ นางบุญมา(นามสมุติ)อายุ 67 ปี ซึ่งมีสามีชื่อ นายประเดิม(นามสมมุติ) อายุ 52 ปี ซึ่งทั้งสองคนนี้ถ้านับญาติแล้วก็เป็นเหมือนเป็นปู่กับย่าของเด็กหญิงเอด้วยเช่นกัน

เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเด็กหญิงเอ ที่อายุ 6 ขวบ ซึ่งตนฝากให้คนทั้งสองช่วยเลี้ยงหลานกลับถูกนายประเดิม อายุ 52 ปี ซึ่งเด็กหญิงเอ เรียกว่า “ปู่” เลี้ยงดูด้วยวิธีให้เล่นโทรศัพท์มือถือโดยให้ดูคลิปหนังโป๊หนังXเพื่อปลุกกระตุ้นให้เด็กมีอารมณ์ทางเพศ แต่ด้วยความไร้เดียงสา เด็กหญิงเอ ก็ไม่รู้เรื่องเพศ แต่ นายประเดิม อายุ 52 ปี ซึ่งเด็กหญิงเอ เรียกว่า “ปู่” กลับข่มขืนกระทำชำเราเรื่อยมายาวนานถึง 7 ปี

โดย นางต้อย ซึ่งเป็นย่าแท้ๆของ เด็กหญิงเอ เล่าว่า ตอนที่หลานมาเล่าให้ฟังก็เมื่อตอนอายุ 13 ปีนี่แหล่ะ ตนเองไม่เชื่อจนกระทั่งอยู่มาช่วงหนึ่งโทรศัพท์ของ เด็กหญิงเอ เสียใช้งานไม่ได้ นายประเดิม ซึ่งเด็กหญิงเอ เรียกว่า “ปู่” ก็เอาโทรศัพท์มือถือของตนให้ เด็กหญิงเอ ใช้เล่นเกมส์หรือดูหนัง แต่ปรากฎว่า เด็กหญิงเอ เข้าไปเห็นคลิปในมือถือจึงได้นำภาพเหล่านั้นส่งไปให้ นางต้อย ซึ่งเป็นย่าแท้ๆ ได้ดู เมื่อเห็นคลิปถึงกับตกใจ จากนั้นจึงเริ่มดำเนินการหาวิธีจะเอาเรื่องและดำเนินคดีกับ นายประเดิม ซึ่งเด็กหญิงเอ เรียกว่า “ปู่” จึงได้ไปร้องกับ นางปวีณา หงสกุล มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อขอความเป็นธรรมและขอให้ช่วยทางมาตรการทางกฏหมาย

โดยก่อนหน้านี้ 2-3 วัน ที่ผ่านมา นางต้อย ซึ่งเป็นย่าแท้ๆ และ เด็กหญิงเอ ได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาเล่าเรื่องข้างต้นให้ นางปวีณา หงสกุล มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ช่วยเหลือ และได้ไปพักอาศัยกับเพื่อนในหมู่บ้านแถวบางบัวทอง ก็ปรากฎว่า นายประเดิม ซึ่งเด็กหญิงเอ เรียกว่า “ปู่” ก็แชทไลน์ ส่งข้อความมาคุยกับ เด็กหญิงเอ ในลักษณะง้อขอคืนดี บอกว่ารัก บอกว่าคิดถึงให้กลับมาพิจิตรได้แล้ว ปู่คิดถึง ถ้าหนูมีแฟนแล้ว ปู่ไม่ยุ่งหรอก แต่กลับมาได้แล้ว ซึ่ง เด็กหญิงเอ ได้แต่อ่านข้อความ และไม่ตอบแชทกลับใดๆ นายประเดิม ซึ่งเด็กหญิงเอ เรียกว่า “ปู่” ก็ส่งข้อความไปว่า ปู่จะฆ่าตัวตายแล้วนะ ปู่จะมาบอกลา-รอมาดูศพปู่นะ-ไม่รักปู่มั่งหรอ-ปู่อยากเจอ-ใจปู่จะขาดแล้ว-ให้ปู่ไปรับไหม และข้อความอื่นๆ อีกมากมายที่ นางต้อย ซึ่งเป็นย่าแท้ๆ และ เด็กหญิงเอ นำมาแสดงและใช้เป็นหลักฐานในการเข้าแจ้งความ

แต่ที่มีมากกว่านั้นเมื่อ เด็กหญิงเอ ไม่ตอบไม่คุยกับ นายประเดิม ซึ่งเด็กหญิงเอ เรียกว่า “ปู่” ก็ส่งข้อความแชทไลน์มาขู่จะฆ่าและส่งภาพฆ่าแมว ที่ เด็กหญิงเอ เลี้ยงไว้มาให้ดูเป็นการข่มขู่ข่มขวัญ ทำให้ทั้ง เด็กหญิงเอ และ นางต้อย ผู้เป็นย่าแท้ๆ หวาดกลัว จน นางปวีณา หงสกุล ต้องขอให้ตำรวจ สน.บางบัวทอง ช่วยคุ้มกันทั้งสองคนในช่วงที่อยู่กรุงเทพฯ

และล่าสุด นางปวีณา หงสกุล มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี จึงได้ส่งหลักญานทั้งหมดไปยัง พล.ต.ท. อัครเดช พิมลศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 6 และสั่งการมายัง พล.ต.ต.กำธร จันที ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร และ พ.ต.อ.อนุพันธุ์ สุสม ผู้กับกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพิจิตร เพื่อติดตามคดีและนำหลักฐานไปขออำนาจศาลจังหวัดพิจิตร ออกหมายจับ กระทำความผิดฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม , กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ซึ่งเป็นหมายจับในคดีอาญาลงวันที่ 29 ตุลาคม 2565 เมื่อตำรวจ สภ.เมืองพิจิตร ได้หมายจับจึงไปควบคุมตัว นายประเดิม”นามสมมุติ” ซึ่ง เด็กหญิงเอ เรียกว่า “ปู่” ได้ในที่ทำงาน ซึ่งผู้ถูกกล่าวหารายนี้ทำงานเป็นลูกจ้างหน่วยกูชีพกู้ภัยอยู่ที่ อบต.แห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองพิจิตร แต่เบื้องต้นนำตัวมาสอบสวนผู้ถูกล่าวหายังให้การปฎิเสธ

พล.ต.ต.กำธร จันที ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า นอกจากข้อกล่าวหาตามหมายจับแล้ว ผู้เสียหายได้แจ้งให้ดำเนินคดีข้อหาทารุณกรรมสัตว์ จากการที่ผู้ถูกกล่าวหาได้ฆ่าแมวของ เด็กหญิงเอ พ่วงไปด้วยอีกหนึ่งข้อหา รวมถึงผู้เสียหายก็จะยื่นขอคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเกรงว่าผู้ถูกกล่าวหาจะมาทำอันตรายถึงกับชีวิตอีกด้วย

สิทธิพจน์ พิจิตร รายงาน

Loading…

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.