“อนุทิน” หัวเราะร่าถูกยกคนบุรีรัมย์จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนถัดไป
1 min readนครราชสีมา-“อนุทิน” หัวเราะร่าถูกยกคนบุรีรัมย์จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนถัดไป พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งหากชิงยุบสภาปลายปี ลั่นล็อกกัญชากลับมาเป็นยาเสพติดไม่ได้
วันที่ 3 พ.ย.2565 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดงานสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ ประจำปี 2565 “วัดใจ เติมพลัง สังคมมีสุข” จ.นครราชสีมา
ก่อนให้สัมภาษณ์ประเด็นการเมือง โดยระบุว่า รัฐบาลจะหมดวาระลงในเดือนมีนาคม 2566 แต่ถ้าหากมีการประกาศยุบสภาช่วงปลายปีนี้ พรรคภูมิใจไทยรวมถึงทุกพรรคการเมือง มีความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล ตอนนี้อยู่ในช่วงเวลา “แปะเอีย” ภาษาก๋งผมเขาเรียกว่า “แปะเอีย” (แปะยาแก้ปวด)
ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสจาก นายเนวิน ชิดชอบ ผู้ใหญ่ในวงการการเมืองมั่นใจว่า นายกรัฐมนตรีคนถัดไปจะต้องเป็น “คนบุรีรัมย์” นายอนุทิน ส่งเสียงหัวเราะร่าด้วยใบหน้ายิ้มแก้มปริ พร้อมบอกว่า “ผมเป็นคนกรุงเทพฯ”
ขณะเดียวกัน นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีพรรคร่วมรัฐบาลตีตก พ.ร.บ.กัญชา ถือเป็นเกมการเมือง ที่อาจส่งผลกระทบต่อการร่วมงานทางการเมืองสมัยหน้า โดยระบุว่า การเดินหน้าทางการเมืองในสมัยหน้า พรรคภูมิใจไทยพร้อมร่วมงานกับพรรคการเมืองที่รับฟังประชาชนแบะเห็นประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก เรื่องนี้ยังตอบอะไรตรงไปตรงมาหรือฟันธงไปเลยยังไม่ได้ เป็นเรื่องของคนบางคน หากเขายังไม่เข้าใจหรือขาดความมั่นใจ เราก็ต้องอธิบายชี้แจง แต่ถ้าอธิบายชี้แจงแล้วยังไม่เข้าใจ ยังหาเรื่องอยู่ อันนี้ก็ค่อยว่ากัน
ทั้งนี้ หากจะล็อคกัญชากลับมาเป็นยาเสพติดเหมือนเดิมนั้น ยืนยันว่า รมว.สาธารณสุข ไม่มีอำนาจ เรื่องการปลดล็อคกัญชาเป็นอำนาจของคณะกรรมการ ปปส. ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้เวลากว่า 3 ปีกว่าจะปลดล็อคกัญชาได้ ต้องมั่นใจว่ากัญชามีประโยชน์อย่างมหาศาล มั่นใจว่าจะไม่มีผู้เดือดร้อนจากการใช้กัญชาในทางที่ผิด ต้องมั่นใจว่าใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์เท่านั้น ไม่มีเรื่องอื่นเลย ไม่มีคำว่าสันทนาการหรือนันทนาการ และมีการควบคุมที่เข้มข้นมาก
เพราะฉะนั้นการคัดค้าน พ.ร.บ.กัญชา มันคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากการขัดกันทางการเมือง ซึ่งตนก็ไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกของพรรคการเมืองอื่นได้ แต่พรรคภูมิใจไทย เราไม่เคยคิดเล่นเกมการเมือง โดยเอาประชาชนเป็นตัวประกัน และทำให้ประชาชนเกิดความเสียหาย.