คอลเซ็นเตอร์โทรเย้ยหนุ่มคลังไข่ ให้ข่าวผิดให้ตรวจดูได้ไปแสนเก้า
1 min readเจ้าของร้านคลังไข่ อ.นางรอง บุรีรัมย์ แค้นซ้ำถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาเยาะเย้ย เหมือนไม่สมศักดิ์ศรี หลังให้ข่าวว่าเงินในบัญชีหายไป 1.4 หมื่น ระบุพี่ลองไปเช็คดูบัตรเครดิตพี่ดู ผมกู้ให้พี่แล้ว อีก 1.9 แสน ผมเอามาหมดแล้ว อย่าให้ข่าวผิด”ตรวจสอบพบบัตรเครดิตถูกกู้ไปอีก วอนหน่วยงานรัฐพัฒนาความสามารถให้เท่าทันมิจฉาชีพ
วันที่ 28 พ.ย.65 กรณีนายณัฐพล ปะขิโต อายุ 31 ปี เจ้าของร้านคลังไข่ ตลาดเทศบาลนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ร้องสื่อว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรมาอ้างว่าเป็นสรรพกร แล้วให้โหลดโปรแกรมติดตั้งในโทรศัพท์เพื่อจะทำการยกเลิกโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ ก่อนจะถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เข้าไปควบคุมการทำงานของโทรศัพท์มือถือ แล้วทำการโอนเงินในบัญชีออกไป
โดยนายณัฐพล ได้ให้ข่าวไปกับสื่อว่าโชคดีที่เงินในบัญชีหายไปประมาณ 14,000 บาท เพราะได้โอนเงินค่าไข่ให้กับฟาร์มไก่ไปแล้วกว่า 350,000 ก่อนหน้านี้ กระทั่งสำนักข่าวหลายช่องนำไปเสนอเพื่อเตือนภัยไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุดนายณัฐพล ได้ออกมาร้องต่อสื่ออีกครั้งว่า วันนี้เวลาประมาณ 10.00 น.ได้มีโทรศัพท์หมายเลข 083-1296135 โทรเข้ามาอีกจำได้เป็นเสียงคนเดิม แต่ตอนแรกใช้เบอร์ 099-3340462 โทรเข้ามา แล้วพูดว่า “คุณพี่ที่ออกข่าววันนี้ ว่าคุณพี่โชคดีที่ได้โอนเงินไปให้ค่าไข่ก่อน 350,000 ใช่ไหมครับ”นายณัฐพล ตอบว่าใช่ครับ
จากนั้นปลายสายถามว่าตอนนี้พี่ได้ไปดูบัตรเครดง บัตรเครดิตของพี่หรือยังครับ ตนตอบว่า ยังไม่ได้ดู แก๊งฯบอกว่าผมเอาบัตรเครดิตของพี่ไปกู้เงินให้พี่แล้วนะ ได้อีก 150,000 บาท เงิน โอดี อีก 27,000 บาท พี่บอกรายละเอียดไม่หมดนะคุณพี่ อันนี้ผมยังรู้นะเนี้ย เงินคุณพี่ไม่ใช่หายไปหมื่นเก้า ตอนนี้พี่มีหนี้เพิ่มอีกแสนกว่าบาท พี่ต้องไปแก้ข่าวเดี๋ยวนี้เลย
นายณัฐพล บอกด้วยว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยังถามอีกว่า อยากได้เงินคืนไหม จะเอาคืนหมื่นเก้า หรือแสนเก้า เพราะพี่แค่หมื่นเก้าอย่างเดียว ไปให้ข่าวใหม่นะ ก่อนจะวางสายไป คาดว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์น่าจะเจ็บใจที่ตนให้ข่าวได้เงินไปแค่ 14,000 บาท อาจจะไม่สมศักดิ์ศรี ที่หลอกเงินได้น้อยจึงให้มาแก้ข่าวให้ ตอนนี้ตนเป็นห่วงประชาชนทั่วไป ที่อาจจะมีโอกาสโดนแก๊งนี้หลอกได้อีก เพราะมีการพัฒนาการหลอกไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่แก๊งนี้ มีความสามารถเหนือกว่ารัฐบาล ก่อนหน้านี้จะปิดเครื่องได้ ตอนนี้ปิดเครื่องไม่ได้ตอนที่รู้ว่าตัวว่าโดนหลอก แถมโทรศัพท์มาเยาะเย้ยได้อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงอยากจะให้รัฐบาลพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อไม่ให้แก๊งนี้หลอกคนได้อีก รวมถึงการแจ้งอายัดบัญชีของธนาคาร ที่ต้องรวดเร็ว ทันใจ เพราะในอนาคตคนร้ายอาจจะพัฒนาเจาะข้อมูลได้ลึกมากกว่านี้ ถึงเวลานั้นแล้วจะอยู่กันอย่างไร นายณัฐพล ….กล่าว
ภาพ/ข่าว วาทิตย์ แสนธุปี
Loading…