บุรีรัมย์ เอกชนหนุนตั้งค่ายต้านยาเสพติด ตั้งเป้าเมืองท่องเที่ยวปลอดยา
1 min read
มูลนิธิเอกชน ยอมควักกองทุนนำร่องตั้งศูนย์ฟื้นฟูยาเสพติด หวังกระจายทุกตำบล ให้ตำรวจเป็นพี่เลี้ยง ผู้ว่าฯสาธาฯเป็นฝ่ายสนับสนุน ผู้นำท้องถิ่นเป็นตัวชี้เป้า นำเอาผู้ติดยาเสพติดมาบำบัดพัฒนาให้เป็นจังหวัดนำร่องปลอดยาเสพติด ยอมรับรัฐบาลฝ่ายเดียวทำไม่สำเร็จ ฝากถึงเอกชนที่มีกำลังร่วมเดินโครงการ งบไม่มาก ใช้สถานที่วัด ยืมที่นอนเตียงสนาม
วันที่ 7 ธ.ค.65 ที่วัดจันทราวาส ต.ลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ นายไชยวัฒน์ จุนถิรพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ นายโสภณ ซารัมย์ ประธานมูลนิธิ “อานัตพลซารัมย์”ร่วมด้วยกับสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ สาธารณสุขอำเภอ และผู้นำชุมชนอีกกว่า 60 ตำบล
ร่วมกันเปิดศูนย์”ฟื้นฟูสภาพทางสังคมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด”เพื่อนำผู้ที่ติดยาเสพติดมาบำบัดรักษาให้เลิกเสพ พร้อมส่งเสริมอาชีพหลังจบหลักสูตรฟื้นฟู 5 วัน เบื้องต้นมีผู้สมัครเข้ามาบำบัดรักษาจำนวนทั้งหมด 50 คน อายุตั้งแต่ 12 – 65 ปี
พล.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ กล่าวว่าเจตนากฎหมายยาเสพติดได้เปลี่ยนไป ผู้เสพจะเป็นผู้ป่วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี โครงการนี้เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดระดับชุมชนได้เลย เพราะเจ้าหน้าที่ระดับตำบลสามารถคัดกรองผู้เสพได้ทันที ตำรวจมีหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงและติดตามผู้ค้ารายใหญ่ต่อไป
นายโสภณ ซารัมย์ ประธานมูลนิธิ”อาณัตพณซารัมย์”กล่าวว่าเรื่องราวร้ายๆที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ล้วนมาจากยาเสพติดแทบทั้งสิ้น หากจะอาศัยหน่วยงานราชการเพียงอย่างเดียวไม่ได้
จึงคิดนำร่องที่ อำเภอลำปลายมาศ มีภาคเอกชนคือมูลนิธิ เป็นหัวจักรสำคัญก่อน มีท้องถิ่น สาธารณสุข เป็นหลัก ส่วนตำรวจ ฝ่ายปกครอง และสถานศึกษาจะเป็นตัวสนับสนุน โดยพื้นที่ อ.ลำปลายมาศ หรือจังหวัดบุรีรัมย์ จะประกาศเป็นพื้นที่ปลอดยาเสพติดให้เร็วที่สุด จึงอยากจะเชิญชวนภาคเอกชน หรือมูลนิธิใด ที่มีความพร้อม จัดทำโครงการนี้ไปพร้อมๆกัน ซึ่งไม่ต้องใช้งบประมาณมากนัก ตอนนี้มูลนิธิ ใช้สถานที่ของวัด ที่นอนขอยืมใช้ที่นอนของเตียงสนามโควิด-19
นายไชยวัฒน์ จุนถิรพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ได้กำชับไปทุกอำเภอ ทุกตำบล จะต้องเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ ตามนโยบายของรัฐบาล แต่หากรอฝ่ายรัฐบาลขับเคลื่อนเพียงฝ่ายเดียว คาดว่าจะสำเร็จยาก การดำเนินโครงการของมูลนิธิ”อาณัตพณซารัมย์”ในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะสามารถขับเคลื่อนได้ทันที ไม่ต้องรองบประมาณจากรัฐ สิ่งต่างๆที่สามารถเบิกได้ ทาง อปท.ก็พร้อมที่จะสนับสนุน กรณีไม่สามารถใช้เงินของทางราชการได้ มูลนิธิซึ่งเป็นภาคเอกชนก็ทำได้ทันที
ภาพ/ข่าว วาทิตย์ แสนธุปี ทีมข่าวบุรีรัมย์