ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ทล. จับกุมขบวนลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวโรฮินจากว่า ๔๘ ราย
1 min readตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต. เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล., พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท. สมพงษ์ เอกวัฒ รอง ผกก.5 ปฎิบัติราชการ กก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.อารัติ พายทอง สว.สทล.2 กก.2 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย ร.ต.ต.วรพงศ์ จั่นปาน รอง สว.ป. สทล.2 กก.2 บก.ทล., ด.ต.ไพศาล เจริญเรืองทรัพย์, ด.ต.มนู เผ่าจันทร์, ส.ต.อ.ประเสริฐ พูลศิริ ผบ.หมู่ สทล.2 กก.2 บก.ทล.ได้ร่วมกันจับกุม ๓ ผู้ต้องหาชาวไทย
นายสมศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี
นายพงศ์ภัค (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี
นางมณฑา (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี
พร้อมแรงงานต่างด้าว (สัญชาติพม่า/โรฮินจา) รวม ๔๘ คน โดยได้แจ้งข้อกล่าวหา ๓ ผูู้ต้องหา ดังนี้
ร่วมกันนำ หรือพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรหรือทำด้วยประการใดๆ อันเป็นอุปการะหรือช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่ต่างด้าว (มาตรา 63 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522)
ร่วมกันให้การช่วยเหลือซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการถูกจับ (มาตรา 64 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522)
และแจ้งขอกล่าวหาแก่บุคคลต่างด้าวในข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” (มาตรา 81 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522)
สถานที่จับกุม ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) 124 – 125 ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล. (เพชรบุรี) ได้รับเเจ้งเบาะเเสว่าจะมีการลักลอบขนเเรงงานต่างด้าวผ่านมาในพื้นที่ จ.ราชบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เร่งดำเนินการตรวจสอบ จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.30 น. ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมขบวนการขนแรงงานต่างด้าวได้บริเวณถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ กม.ที่ 124-125 ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี โดยภายในรถบรรทุกคันดังกล่าวพบผู้ต้องหาชาวไทย จำนวน 3 คน และแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า (ชาวโรฮิงญา) จำนวน 48 คน แยกเป็นหญิง 30 คน เป็นชาย 18 คน ในจำนวนนี้มีเเรงงานต่างด้าวอายุน้อยกว่า 13 ปี จำนวน 5 ราย
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายสมศักดิ์ฯ (ผู้ขับขี่) ให้การว่า ตนเองและผู้ต้องหาชาวไทยอีก 2 คน เดินทางไปรับแรงงานต่างด้าวมาจาก อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี โดยได้รับค่าจ้างเป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท โดยตนเองและชาวไทยอีก 2 คน จะพาแรงงานต่างด้าวดังกล่าวไปส่งที่ปลายทาง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งหลังจากนั้นจะมีผู้มารับแรงงานต่างด้าวไปต่ออีกทอดหนึ่ง
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ให้ล่ามสอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับกลุ่มเเรงงานต่างด้าวดังกล่าวทราบว่า กลุ่มเเรงงานต่างด้าวเดินทางมาจากรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมาร์ โดยเดินเท้าผ่านเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก หลังจากนั้นได้มีกลุ่มคนไทยขับรถกระบะใส่หลังคามารับ พากลุ่มเเรงงานต่างด้าวมาส่งยังจุดนัดหมาย ซึ่งเเรงงานเหล่านี้จะต้องเสียค่านายหน้าให้กลุ่มชาวไทยที่จุดปลายทาง โดยกลุ่มเเรงงานส่วนใหญ่ที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายกลุ่มนี้ จะเดินทางไปเพื่อศึกษาต่อที่ประเทศมาเลเซีย และบางส่วนจะไปทำงานลงเรือเป็นลูกจ้างงานก่อสร้าง
ทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงขบวนการค้ามนุษย์และการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย มีโทษทางอาญา โดยในส่วนของเเรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองมานั้น มีความเสี่ยงที่จะถูกลวงมาเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์อีกด้วย
ในส่วนของเเรงงานชาวโรฮิงญาที่จับกุมมาได้นั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้การช่วยเหลือ โดยให้รับประทานอาหารและปฐมพยาบาลเบื้องต้น หลังจากนั้นได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากท่อ เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป