รายงานข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกรณีฝนที่ได้ตกลงมาอย่างหนัก ติดต่อกันเป็นเวลา 2 วัน จากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ล่าสุดบรรยากาศบนท้องฟ้ายังคงมีเมฆฝนมืดครึ้มแพร่กระจายปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ และมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องเป็นช่วงๆแต่ไม่หนักมากนักเหมือนกับ 2 วันที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสมท่วมขังพื้นที่ทางเกษตรและบ้านเรือนของประชาชน ที่ปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ราบลุ่ม 5 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมืองนราธิวาส, ระแงะ, บาเจาะ, ยี่งอ และอำเภอเจาะไอร้อง รวม 25 ตำบล 124 หมู่บ้าน มีราษฎรได้รับความเดือดร้อน 4,995 ครัวเรือน จำนวน 19,574 คน มีบ้านเรือนที่ปลูกสร้างอยู่บริเวณทางน้ำไหลผ่านเสียหายบางส่วน โรงเรียน 2 แห่งและ มัสยิด 1 แห่ง มีปริมาณน้ำท่วมขัง โยภาพรวมสูงโดยเฉลี่ย 30 ถึง 50 ซ.ม. ชาวบ้านยังคงสามารถดำรงชีวิตประจำวันได้
ซึ่งล่าสุด พ.อ.ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผบ.ฉก.นราธิวาส 45 ได้ระดมเจ้าหน้าที่ทหาร ออกให้การช่วยเหลือประชาชน ในการอพยพสิ่งของที่จำเป็นหนีระดับน้ำ รวมทั้งขนย้ายยานพาหนะซึ่งเป็นรถ จยย.หนีระดับน้ำท่วมขัง มาจอดไว้ชั่วคราวบนถนน เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบในแต่ละอำเภอ ก็ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน ด้วยการนำถุงยังชีพแจกจ่ายให้กับประชาชน ที่มีปริมาณน้ำท่วมขังหนักที่สุดของแต่ละหมู่บ้าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ที่ไม่สามารถเดินทางไปมาหาสู่โลกภายนอกได้สะดวก
ส่วนปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำสายบุรี มีปริมาณน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 2 เมตร แม่น้ำโก-ลก มีปริมาณต่ำกว่าตลิ่ง 0.55 เมตร ซึ่งอยู่ในช่วงเฝ้าระวัง และแม่น้ำบางนรา มีปริมาณต่ำกว่าตลิ่ง 1.26 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนที่ตกลงมาในระยะนี้ และหากเกิดภาวะฉุกเฉินสามารถแจ้งตรงไปขอความช่วยเหลือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ตลอด 24 ช.ม. เนื่องจากยังมีแนวโน้มของสภาวะฝนยังคงตกลงมาต่อเนื่องในระยะนี้ ที่อาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และมีน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เชิงเขา โดยเฉพาะอำเภอสุคิริน ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของน้ำป่าจากเทือกเขาสันกาลาคีรี