มทภ.4 รุดตรวจสอบเหตุคนร้ายป่วน ฐานปฏิบัติการ ชคต. 3 จุด เจ้าหน้าที่เจ็บ 4 พื้นที่ อ.บันนังสตา

จากเหตุการณ์คนร้าย ก่อเหตุป่วนในพื้นที่ อ.บันนังสตา 3 จุด ขว้างระเบิดชนิดไปร์บอม ใส่ฐานจุดตรวจตลาดล่าง ของ ร้อย.ทพ.3009 จำนวน 1 ลูก เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ อส.ทพ.พร้อมรบ ใฝ่ฝากจรรยา ,อส.ทพ.กรวิชญ์ ฝีปากเพราะ และ พลทหารนิพนธ์ เภรีประยูรพ ขณะที่อีกจุด ยิง M 79 ยิงใส่ ชคต.บันนังสตา ทำให้ อส.ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ อส.สราวุธ แก้วศรี รถยนต์เจ้าหน้าที่ได้รับความเสียหาย 2 คัน และ ขว้างระเบิดชนิดไปร์บอม ใส่ ชคต.บันนังสตา หมู่ที่ 3 บ้านเงาะกาโป บริเวณสามแยกเข้าบ้านบือซู ต.บันนังสตา ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำเวลา 19.00 น. ของวันที่ 14 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา

ล่าสุด วันนี้ 15 ธ.ค.65 พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค มทภ.4/ผอ.รมน.ภาค 4 พร้อมด้วย รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตุระเบิด และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จุดแรกที่บริเวณฐานปฏิบัติการ ชคต.ล่าง หมู่ที่ 2 บ้านตลาดล่าง ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ พบความเสียหายบริเวณภายในฐาน เป็นเพิงที่พักรับ-ส่งเวร ของเจ้าหน้าที่ สิ่งของกระจัดกระจาย พื้นด้านล่าง พบคราบเลือดของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ บริเวณด้านหน้าฐาน เจ้าหน้าที่พบกระเดื่องทำจากท่อ PVC ตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมพยานหลักฐานที่เกิดเหตุโดยละเอียด จุดที่สอง ชคต.บันนังสตา เจ้าหน้าที่พบความเสียหายภายในฐาน เป็นรถยนต์ ซูซูกิ สวิทซ์ สีแดง ได้รับความเสียหาย และรถกระบะ สีบรอนเงิน ของเจ้าหน้าที่ได้ความเสียหาย และจุดที่สาม ที่ ชคต.บันนังสตา หมู่ที่ 3 บ้านเงาะกาโป ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

ต่อมา พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค มทภ.4/ผอ.รมน.ภาค 4 ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลาเพื่อเยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งยังนำความห่วงใยจาก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. มามอบให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 รายขอให้มีขวัญและกำลังใจที่ดีพร้อมในการปฏิบัติภารกิจเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค กล่าวว่า “เมื่อทราบเหตุได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุโดยละเอียด คาดคนร้ายต้องการป่วนพื้นที่แสดงศักยภาพ สร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ต่อจากนี้ให้ทบทวนแก้ไขเหตุบกพร่อง เวรยามต้องไม่หย่อนกำลัง ไม่หละหลวม ด่านประจำต้องเฝ้าระวังเหตุ 24 ชม. ต้องทำความเข้าใจ ยุทธวิธีของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงซึ่งให้เข้าใจเสมอว่า กลุ่มเหล่านี้จะทำทุกวิถีทางเพื่อก่อเหตุสร้างความวุ่นวายเสียหายให้เกิดขึ้น
เจ้าหน้าที่ต้องมีการป้องกัน เนื่องจากจุดนี้ถือเป็นยุทธศาสตร์ทางคมนาคมที่สำคัญมีรถประชาชนวิ่งผ่านและอาศัยโดยรอบ เวรยามต้องมีการตรวจดูตลอด 24 ชม. ละเลยไม่ได้ ให้ถือว่าเป็นข้อบกพร่องที่ต้องเอามาเป็นบทเรียน เรียนรู้ และปรับยุทธวิธีให้รู้เท่าทันการก่อเหตุจากกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงให้ได้ ส่วนพยานหลักฐานต้องรอฝ่ายพิสูจน์หลักฐานดำเนินการ ชาวบ้านเองก็ขอให้มีส่วนร่วมเป็นหูเป็นตาแก่เจ้าหน้าที่รัฐด้วยเช่นกัน ช่วยเหลืออะไรได้ช่วยกัน ยิ่งใกล้เวลาเทศกาลแห่งความสุขเราต้องร่วมมือกัน หากพบสิ่งผิดสังเกตหรือบุคคลต้องสงสัยให้แจ้งที่หมายเลขแม่ทัพภาคที่ 4 โดยตรงหรือหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง”