ยังไม่ไปไหน!ช้างป่าอ่างฤาในยังอยู่ข้างสำนักสงฆ์

วันที่ 21 มค 66ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรีได้รับแจ้งว่าชาวบ้านคลองยางหมู่ที่ 11 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พบเห็นช้างป่าจากเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเขาอ่างฤาไน1ตัวเมื่อตี5 ครึ่งที่ผ่านมาช้างป่าตัวดังกล่าวได้หักต้นไม้ภายในสำนักสงฆ์หลายต้น เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นเสียงช้างกำลังหักต้นไม้ภายในสำนักสงฆ์จริงจึงปีนกำแพงรั้วดู พบช้างป่ายืนกินยอดต้นหมากที่หักลง 2 ต้นจากนั้นรีบปีนลงมาหลบอยู่ในบ้าน

ป้าบุญยืน หงษ์มัง กล่าวว่าช่วงเวลาตี 5 กว่าที่ผ่านมาได้ยินเสียงต้นไม้หักเสียงดังโครมครามอยู่ข้างกำแพงรั้วที่อยู่ติดกับสำนักสงฆ์ ในใจคิดว่าต้องเป็นช้างป่าเพราะว่าที่ผ่านมามีช้างป่าตัวใหญ่มาหากินในไร่อ้อยข้างสำนักสงฆ์ และได้ทำลายเจดีย์ที่เก็บอัฐิของญาติชาวบ้านที่เสียชีวิตตั้งไว้ที่สำนักสงฆ์พังเสียหายหลายสิบอัน เมื่อเอาบันไดปีนขึ้นดูก็พบช้างป่าตัวใหญ่กำลังยืนกินยอดต้นหมากที่หักลง

จากการสำรวจภายในบริเวณที่พักสงฆ์พบว่ามีร่องรอยช้างป่าที่หักต้นหมากและต้นปาล์มอีก 3 ต้น และพบร่องรอยช้างป่าใช้ตัวเองถูกับต้นสะไม้มีความสูงประมาณ 3.50 เมตรนอกจากนี้ยังพบรอยช้างป่าตัวดังกล่าวเดินไปยังป่าอ้อยที่ติดกับที่ตั้งเจดีย์เก็บกระดูกของผู้เสียชีวิตภายในสำนักสงฆ์ รอยช้างมายืนดูอยู่ข้างๆและเดินเข้าป่าอ้อยที่อยู่ติดกัน คาดว่าช้างป่าตัวดังกล่าวน่าจะหลบอยู่ในป่ายูคาที่ติดกับป่าอ้อยซึ่งมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่อาศัย เจ้าหน้าที่อบต.เขาไม้แก้วและชุดผลักดันช้างป่าได้ใช้โดรนกับความร้อนบินสำรวจป่าอ้อยที่พักสงฆ์พบว่า ช้างป่าเกือบ 10 ตัวหากินอยู่ในป่าอ้อยคาดว่าช้างป่าตัวใหญ่ที่ออกมาหากินและทำลายที่เก็บกระดูกภายในสำนักสงฆ์เสียหายอาจจะติดตามฝูงช้างฝูงนี้มา

ขณะที่ป้าสิน มะลิกลาง ชาวบ้านคลองยางหนึ่งในชาวบ้านที่นำกระดูกของญาติๆที่เสียชีวิตมาตั้งไว้ที่สำนักสงฆ์ พากันออกมาดูความเสียหายที่ถูกช้างป่าทำลายเจดีย์เก็บกระดูกพัง เห็นแล้วรู้สึกเศร้าเสียใจพูดอะไรไม่ออกคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น อยากให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ ชดใช้ค่าเสียหายกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยากให้ทำการผลักดันช้างป่าออกจากหมู่บ้าน เมื่อคืนก็พบเห็นช้างตัวใหญ่หากินอยู่ข้างหมู่บ้าน และจะไปปรึกษากับญาติๆอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรเพราะยังไม่ได้มาเก็บกระดูกของญาติที่ถูกช้างป่ามาพังที่เก็บกระดูกรับความเสียหาย

ภาพ/ข่าว ทองสุข สิงห์พิมพ์ ทีมข่าวปราจีนบุรีรายงาน