กู้ภัยฮุก 31 เคลื่อนย้ายร่าง 11 ศพอุบัติเหตุรถตู้เสียหลักโคราช ส่งพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล รพ.ตร.
1 min readกู้ภัยเคลื่อนย้ายร่าง 11 ศพอุบัติเหตุรถตู้เสียหลักโคราชไหม้เกรียม ส่ง พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลนิติเวช รพ. ตร.แล้ว รอผลดีเอ็นเอ ประธานมูลนิธิเพชรเกษมพร้อมรับส่งศพให้ฟรีหากผลชันสูตรออก
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 23 ม.ค.ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทธธรรม 31(ฮุก31) นครราชสีมา เดินทางมาพร้อมรถตู้อาสาฯที่ใช้บรรจุร่างของผู้เสียชีวิต รวม 5 คัน จากเหตุการณ์อุบัติเหตุ รถตู้โดยสาร ยี่ห้อคอมิวเตอร์ หมายเลขทะเบียน 30-0078 อำนาจเจริญ เกิดเสียหลักพุ่งตกร่องกลางถนนบริเวณบนถนนมิตรภาพ ฝั่งขาเข้ากรุงเทพ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 99 อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เมื่อเวลา 21.00 น.ของวันที่ (21 ม.ค.) จนเกิดไฟลุกไหม้ท่วมทั้งคัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอกเกรียม รวม 11 ศพ จึงต้องเคลื่อนย้ายร่างผู้ตายมาเพื่อให้แพทย์นิติเวช ทำการผ่าพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันตัวบุคคล โดยมีกลุ่มญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ศพ เดินทางมาท่ามกลางบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศรกเศร้า
นายสุรเดช อ่อนคำ อายุ 41 ปี ช่างรับเหมาเฟอร์นิเจอร์ ญาติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุถูกไฟคลอก เดินทางมาจากจังหวัดอำนาจเจริญเพื่อมาดูศพภายหลังจากพบหลักฐานเป็นของใช้ส่วนตัวโทรศัพท์มือถือของภรรยามีร่องรอยไฟไหม้เคสเล็กน้อยและกระเป๋าตังค์ของลูกสาววัย7 ขวบ ในที่เกิดเหตุ โดยเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า ในวันเกิดเหตุที่บ้านพ่อตาได้โทรเข้ามาที่โทรศัพท์ของภรรยาตน แต่ปิดเครื่องแบตหมดไม่สามารถติดต่อได้ ตนจึงรีบไปดูที่สี่คิ้วสถานที่เกิดเหตุจนมาทราบว่าภรรยาและลูกสาววัย 7 ขวบนั่งมาจากอำนาจเจริญ ซึ่งแฟนทำงานรับเหมาด้วยกันกับตน ส่วนลูกสาววัย7 ขวบเรียนอยู่โดยมีป้าคอยดูแลรับส่งที่โรงเรียน หลังเกอดเหตุได้ 1 วันลูกสาวตนไปเข้าฝันเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทธธรรม 31 ว่า”ฝากมาบอกว่าใครเป็นพ่อของเด็กผู้หญิงชื่อน้องน้ำแข็ง อยากใส่ชุดนักเรียน” นายสุรเดช เผยด้วยว่า น้องน้ำแข็งเป็นเด็กเรียนเก่ง ชอบเรียนหนังสือเพราะบ่นจะไปแต่โรงเรียนอย่างเดียว โดยส่วนใหญ่ตนกับภรรยาและลูกจะใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทางไปไหนมาไหนจนมาเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้และที่ตนแปลกใจคือเอกสารสำคัญไม่ถูกไฟเผาไปด้วย
ด้าน นายสหชาติ ลิ้มเจริญภักดี (ประธานอู๊ด) มูลนิธิเพชรเกษม อำนาจเจริญ กล่าวว่า เบื้องต้นทางแพทย์นิติเวชแจ้งว่าจะเร่งรัดพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลให้เร็วที่สุด หลังจากทราบผลดีเอ็นเอ ของผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ศพ แล้วจะแจ้งให้ทราบภายหลัง สำหรับร่างผู้ตายที่นำมาพิสูจน์อัตลักษณ์นั้นส่วนใหญ่จะถูกไฟเผาเกรียมคล้ายกันทั้งหมดแต่ก็มีบางศพที่ยังบ่งบอกรูปร่างโดยเฉพาะมีเด็กจำนวน 2 รายที่เห็นได้ชัดเจน ส่วนการเคลื่อนย้ายศพครั้งนี้ นายสหชาติ ประธานมูลนิธิฯ กล่าวอีกว่า ได้แจ้งกับญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ศพไว้ว่าเมื่อผลดีเอ็นเอหรือการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลออกว่าเป็นบุคคลใดแล้วยินดีจะ ใช้รถบรรทุกห้องเย็นของตนมาเพื่อเคลื่อนย้ายศพให้กับญาติผู้เสียชีวิตเพื่อนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น รวมถึงได้ให้ญาติผู้เสียชีวิต ที่อยู่ห่างไกลได้ตั้งกลุ่มไลน์เพื่อรับข้อมูลข่าวสารหรือติดตามความคืบหน้าหลังจากยืนยันตัวบุคคลเสร็จสิ้นแล้ว ก็ พร้อมจะไปรับญาติผู้ตายมาเซ็นหนังสือเพื่อรับศพออกไปทำพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดอีกด้วย