รอง ผอ.ร.ร.ดังเผยไม่ได้นิ่งนอนใจหลังน.ร.ทำร้ายเด็กสมาธิสั้นชั้น ม.3
1 min read
จากกรณีผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนขอความเป็นธรรมจาก นางสาวณัฐกาญจน์ หรือทราย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี แม่ค้าขายข้าวหมกไก่ภายในซอยสามัคคี ต.ท่าทราย อ. เมือง จ. นนทบุรี ว่าบุตรชายซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนชลประทานสงเคราะห์และเป็นเด็กพิการสมาธิสั้น ได้ถูกกลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมโรงเรียนโพธินิมิตรวิทยา ภายในซอยวัดกู้ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ดจ.นนทบุรี รุมทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ม้ามฉีก เบ้าตาขวา ถูกด้ามปืนตีจนบวมเป่ง เกรงคดีจะไม่มีความคืบหน้าจึงร้องเรียนผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรม
เมื่อเวลา 09.00 น วันที่ 24 มกราคม 66 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังโรงเรียนโพธิ์นิมิตรวิทยา ภายในซอยวัดกู้ อำเภอปากเกร็ดจังหวัดนนทบุรี โดยได้รับการเปิดเผยจากนายปวริศร์ โตน้ำ รองผอ. กลุ่มการบริหารงานกิจการโรงเรียนว่าเบื้องต้นตนได้ดำเนินการเรียกเด็กและผู้ปกครองมาพูดคุย ตอนนี้รอทางผู้เสียหายไปแจ้งความและมาติดต่อทางเรามั้ย ซึ่งทางโรงเรียนจะได้ประสานและดำเนินการแก้ไขให้ซึ่งมันก็เงียบไป เราไม่ได้เห็นเหตุการณ์ การสืบเด็กเขาก็ให้แค่ข้อมูลเบื้องต้นเท่าที่ให้ได้ ทางโรงเรียนต้องรอดูว่าเด็กที่เจ็บว่าแจ้งความแล้วการสืบสวนต่อว่าผู้ที่กระทำคือใคร ต้องรอเจ้าหน้าที่จัดการ เมื่อเรื่องมาถึงโรงเรียนเรายินดีให้ความร่วมมือไม่ได้ปกป้อง ผิดว่าไปตามผิด ทางเราไม่ได้นิ่งนอนใจ เหตุเกิดวันพฤหัสบดี ตนเรียกเด็กกับผู้ปกครองมาพูดคุยวันศุกร์ แต่ตนได้บอกกับผู้ปกครองไหว่าตนไม่รู้ว่าเด็กที่ถูกกระทำเจ็บมากน้อยแค่ไหน เพราะเราไม่มีข้อมูลต้องรอฟังว่าเรื่องจะดำเนินการยังไง ถ้าเรื่องมาถึงทางโรงเรียนตั้งแต่วันศุกร์ทางโรงเรียนจะได้นำส่งรายชื่อให้ เด็กเขาก็ยอมรับเพราะมันมีภาพที่เกิดเหตุ ทางโรงเรียนมีมาตรการการลงโทษอยู่แล้ว คือว่ากล่าวตักเตือน สุดท้ายคือปรับพฤติกรรม ระเบียบนักเรียนมีเท่านี้ จะไล่ออกมันไม่มีในระเบียบอยู่แล้ว เรื่องทำร้ายเป็นคดีก็อีกเรื่อง ถ้าทำผิดจริงเด็กก็ต้องเข้าสู่กระบวนการทางโรงเรียนจะไม่ก้าวล่วง ถ้าเสร็จสิ้นกระบวนการเด็กก็ต้องกลับมาที่เรา มันทำได้เพียงเท่านี้ คือถ้าเด็กจะย้ายไปที่ไหนเราก็ต้องให้เขาไป โรงเรียนต้องทำความเข้าใจกับผู้ปกครองหากอยู่ที่นี่แล้วไม่เหมาะสมและมีปัจจัยอื่นเพื่อทำความเข้าใจ