สืบจังหวัดรวบ 2 นักค้ายาบ้าได้ของกลางเกือบ 5 แสนเม็ด ตีเนียนใส่กระสอบปุ๋ยธรรมดาหวังตบตาตำรวจ
1 min read
เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันที่ 27 มกราคม 2566 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธํารงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรายุทธสุขวัฒน์รอง ผบช.ภ.7, พ.ต.อ.พัฒน์ปกรณ์ ชั้นประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.)ภาค 7 ผู้แทนฝ่ายปกครองจังหวัดสมุทรสาคร หน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพ กองทัพภาคที่ 1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ได้ทำการแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดจำนวน 2 ราย คือ นายพรชัย หรือโบ้ วงศ์ยะรา อายุ 38 ปี (ผู้ต้องหาที่1) และ น ายสุวัฒน์ หรือจุ่น ดาวละลม อายุ 43 ปี(ผู้ต้องหาที่2) พร้อมด้วยของกลางในคดีได้แก่ ยาบ้า ของกลางทั้งหมด รวมจำนวน 405,600 เม็ด,ถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 15 ใบ,โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Iphone 11 จำนวน 1 เครื่อง,โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ realme 6i สีฟ้าจำนวน 1 เครื่อง,รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ HONDA รุ่น CIVIC สีเทา หมายเลขทะเบียน ญร 7574 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน และ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ YAMAHA รุ่น X-Max300 สีดำ หมายเลขทะเบียน 1กบ 8327 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า“จำหน่าย โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดย ฝ่าฝืนกฎหมาย และเป็นการกระทำเพื่อการค้า”


สำหรับพฤติการณ์การจับกุมผู้ต้องหาที่ 1 นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ร่วมกันสืบ ทราบว่านายโบ้ฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับบุคคลในพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และบริเวณใกล้เคียง โดยนายโบ้ฯ จะรับยาเสพติดมาจากเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ และนำมาเก็บรักษาไว้ที่บริเวณบ้านพักของตนเองเป็นจำนวนมาก และจะนัดส่งมอบยาเสพติดให้กับลูกค้าที่บริเวณริมถนนเลียบคลองคันพนังเส้นทางสวนส้ม ม.7 ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร อยู่เป็นประจำ ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ม.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการนัดส่งมอบยาเสพติดให้ลูกค้ากันที่บริเวณริมถนนเลียบคลองคันพนังเส้นทางสวนส้ม มุ่งหน้าถนนพระราม 2โดยนายโบ้ฯ จะใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อ HONDA รุ่น CIVIC สีเทา หมายเลขทะเบียน ญร7574 กรุงเทพมหานคร เป็นยานพาหนะมาส่งมอบให้กับลูกค้าที่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนการจับกุม โดยใช้วิธีเฝ้าจุดซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้เคียง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงร่วมเดินทางโดยรถยนต์ไปพร้อมสายลับเพื่อเข้าจุดซุ่มดู กระทั่งเห็นรถยนต์เก๋ง ซึ่งมียี่ห้อ สี และหมายเลขทะเบียนตรงตามที่สายลับแจ้ง ขับมาจอดอยู่ที่บริเวณริมถนนตรงจุดนัดหมาย จึงเข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจเพื่อขอทำการตรวจค้น พบนายโบ้ฯนั่งอยู่ภายในรถ แสดงอาการตกใจ และพยายามจะขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปสกัดกั้นและเข้าไปควบคุมตัวผู้ชายคนดังกล่าวลงมาจากรถยนต์ แสดงความประสงค์ขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาบ้า รวมจำนวน 274,000 เม็ด แบ่งซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์เก๋ง และจากการสอบสวนเบื้องต้นนายพรชัย หรือโบ้ฯ ยังให้การรับสารภาพว่ายาบ้าที่ตรวจพบเป็นของตนเอง ที่กำลังจะนำมาส่งมอบให้กับลูกค้าที่ติดต่อสั่งซื้อ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเสียก่อนและยังมียาบ้าอีกบางส่วนซุกซ่อนอยู่ที่ภายในบ้านพัก ม.2 ต.บ้านเกาะ อ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ผู้ต้องหานำไปตรวจค้นก็พบยาบ้าอีก รวมจำนวน 81,600 เม็ด แบ่งซุกซ่อนอยู่ภายในบริเวณบ้าน รวมยาบ้าทั้งหมด 355,600 เม็ด ซึ่งผู้ต้องหารับว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของตน โดยรับมาจากหญิงสาวรายหนึ่งที่รู้จักเพียงชื่อเล่นเท่านั้น เพื่อนำมาขายต่อให้กับคนในพื้นที่สมุทรสาคร และพื้นที่ใกล้เคียง
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมนายพรชัย หรือโบ้ วงศ์ยะรา พร้อมของกลาง เพื่อรวบรวมหลักฐานและสืบสวนขยายผลตามอำนาจเจ้าพนักงานปปส. และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย


ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผลต่อจากผู้ต้องหารายที่ 1 จนทราบว่านายสุวัฒน์หรือจุ่น ดาวละลม อาศัยอยู่ที่ ม.8 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร มีพฤติกรรมเป็นเครือข่ายยาเสพติดและลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับบุคคลในพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยจะรับยาเสพติดมาเก็บรักษาไว้ที่บริเวณบ้านพักของตนเองเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน จึงได้วางแผนจับกุมที่บริเวณริมถนนเศรษฐกิจ ข้างบริษัทกรีนสปอร์ต จำกัด ม.8 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ขณะที่นายจุ่นจะนำยาบ้านมาส่งมอบให้กับลูกค้า ซึ่งเมื่อถึงเวลานัดหมายพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ YAMAHA รุ่น X-Max300 สีดำ หมายเลขทะเบียน 1กบ 8327 กรุงเทพมหานคร (ตรงตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบข้อมูล) ขับขี่เข้ามาจึงได้เข้าไปแสดงตัวขอตรวจค้น พบยาบ้า จำนวน 10,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในกระสอบปุ๋ยสีขาว ที่วางอยู่ตรงหว่างขาบนรถจักรยานยนต์ โดยนายสุวัฒน์หรือจุ่นฯ ยอมรับว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของตนเอง ที่กำลังจะนำมาส่งมอบให้กับลูกค้า จึงยึดไว้เป็นของกลาง อีกทั้งจากการสอบสวนเพิ่มเติมนายจุ่นยังให้การยอมรับว่า มียาบ้าอีก 40,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ที่บริเวณริมถนนในซอยตลาดสดเทศบาลตำบลอ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงนำเจ้าหน้าที่ฯ ไปตรวจยึดยาบ้าไว้ได้ รวมจำนวนทั้งสิ้น 50,000 เม็ด ขณะที่ผู้ต้องหาให้การว่า ยาบ้าดังกล่าวเป็นของตนเองที่นำมาซุกซ่อนไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากไม่กล้าเอาไปส่งในคราวเดียวกัน โดยตนรับยาบ้ามาจากนายเดี่ยว(นามสมมติ) เมื่อตนได้เงินจากการขายแล้วก็จะนำไปแบ่งกับนายเดี่ยว ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำผู้ต้องหาที่ 2 พร้อมของกลาง ส่งพงส.สภ.กระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


ด้านพล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธํารงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวว่า ตามคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ยกระดับการปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระสำคัญของชาติ ทั้งนี้ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สนองนโยบายดังกล่าว ด้วยการบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนและยุทธศาสตร์ชุมชนเข้มแข็งร่วมแก้ปัญหายาเสพติด เพื่อดำเนินการปราบปรามผู้ค้าให้หมดสิ้นไป และนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด โดยมีชุมชนเป็นผู้แจ้งเบาะแส และเจ้าหน้าที่ภาครัฐเข้าไปดำเนินการปราบปราม พร้อมกับยึดทรัพย์ผู้กระทำความผิด เพื่อให้กระบวนการค้ายาเสพติดนั้นหมดสิ้นไป ส่วนผู้ที่ติดยาก็นำเข้าสู่การบำบัดรักษา สำหรับในพื้นที่ภาค 7 นั้น ได้สั่งการให้ทุกสถานี (โรงพัก) ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเข้มข้น โดยเชื่อว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงจัง อีกไม่นานปัญหายาเสพติดจะต้องเบาบางลงอย่างแน่นอน ซึ่งในส่วนของจังหวัดสมุทรสาครนั้น ที่ผ่านมาพบว่าเป็นทั้งพื้นที่จำหน่ายยาเสพติด และเป็นแหล่งพักยาเสพติดรายใหญ่ เพื่อกระจายไปสู่พื้นที่ต่างๆ ดังนั้นการปราบปรามจึงต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นและจริงจังต่อเนื่อง เพื่อเป็นการตัดเส้นทางของยาเสพติดทุกประเภท