ศุกร์. พ.ย. 15th, 2024

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

กรรมการวัดแจงเหตุทุบกุฎิสงฆ์ และศาลาหลังใหญ่ของ”หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ”

1 min read

จากกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ขอให้ตรวจสอบเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ กรณีสืบเนื่องจากกรณีที่เจ้าอาวาสร่วมกับหน่วยงานของรัฐบางหน่วย จัดทำโครงการ 5 ส. เพื่อปรับปรุงสถานที่เขตกัมมัฏฐาน (บริเวณหลังวัด) โดยมีกุฏิที่พักอาศัยของสงฆ์จำนวน 82 หลัง ที่ต้องทำการทุบทิ้งและไม่แจ้งให้พระสงฆ์ทราบเบื้องต้นทราบแต่เพียงว่าจะเป็นการปรับปรุงให้สวยงามสะอาดขึ้น แต่ปรากฎว่ามีการรื้อทุบทำลายกุฏิพระไปแล้ว 11 หลังและได้ให้พระออกจากกุฎิตั้งแต่กลางพรรษาที่แล้ว ทำให้พระจำนวนมากเดือดร้อน อีกทั้งไม่แจ้งญาติโยมที่สร้างกุฏิต่างๆ ดังกล่าวเพื่อเก็บอัฐิญาติของบรรพบุรุษไว้เลย

ที่สำคัญมีการทำลายต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่เป็นต้นกล้าจากพุทธคยาเจดีย์ ที่ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงพระราชทานมาให้ปลูกไว้ที่วัดเพื่อเฉลิมพระเกียรติ์ 5 ธันวา 2554 อีกด้วยการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดต่อกฎหมายหลายประการ และอาจขัดต่อมติมหาเถระสมาคมอีกด้วย สมาคมฯซึ่งได้รับการร้องเรียนจากพระเณรและญาติโยมจำนวนมาก จึงจำต้องนำความไปร้อง ป.ป.ช.เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวและบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป เพื่อยุติการรื้อถอนกุฏิพระอีก เกือบร้อยหลังที่เหลืออีกด้วย

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบยังวัดชลประทานรังสฤษดิ์ ถนนติวานนท์ ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยได้พบกับหลวงอาพระรูปวัดที่บวชมานานกว่า 30 ปี ที่วัดแห่งนี้ (ขอเบลอหน้) ซึ่งได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าการกระทำดังกล่าวของท่านเจ้าอาวาสวัด ทำให้พระลูกวัดที่จำพระพรษาอยู่ในกุฏิที่ถูกรื้อถอนได้รับความเดือดร้อน เพราะเป็นการรื้อกะทันหันช่วงกลางพรรษาซึ่งพระกำลังจำวัดอยู่ ตอนนี้อาตมาก็ทราบแต่เพียงว่ามีการรื้อถอนทุกบฏิพระภิกษุสงฆ์ไปแล้วจำนวน 11 หลังและจะทำการรื้อถอนทุบกุฏิของพระอีก 60 หลังต่อเนื่องกันกุฏิอาตมาเองก็อยู่ในกุฏิที่จะถูกทุบเหมือนกัน อยากให้ทางผู้ใหญ่หรือทางเจ้าอาวาสของวัด ไตร่ตรองและพิจารณาถี่ถ้วนให้ดีก่อนจะทำอะไรลงไป

ต่อมาทางพระลูกวัดที่ถูกทุบกกุฏิและได้รับความเดือดร้อนได้พาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังจุดที่มีการรื้อถอนทุกกุฏิโดยพบว่ากุฏิทั้ง 11 หลังถูกรื้อถอนจนโล่งเตียน ไปแล้วจำนวน 10 หลัง ครับผมโดยเฉพาะศาลาจิตพิพิธ ซึ่งสร้างจากจิตศรัทธาที่หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุอดีตเจ้าอาวาสได้สร้างไว้นั้นถูกทุบทิ้งไปเป็นหลังที่ 11 แล้ว สร้างความสลดหดหู่ใจให้กับญาติโยมพุทธศาสนิกชนคนเก่าแก่ที่มาทำบุญที่วัดตั้งแต่สมัยหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุยังมีชีวิตอยู่

ความคืบหน้าในเรื่องนี้นั้น เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 27 มกราคม 66 ดร. จวน คงแก้วกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการในการก่อสร้างเขตกัมมัฎฐานตามโครงการวัดประชา รัฐ สร้างสุขพัฒนาวัดตามแนวทาง 5 ส. ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า โครงการก่อสร้างดังกล่าว จริงๆวัดชลประทานเรามีอยู่ 3 ส่วน หรือ 3 โซน โดยเฉพาะเขตที่ 1 คือ เขตพุทธาวาสจะเห็นว่าด้านหน้ามีพระอุโบสถและต้นไม้ร่มรื่นสวยงาม เขตที่ 2 คือหลังวัด เป็นเขตที่เราเผยแพร่ธรรมทุกวันอาทิตย์ และวันพระ รวมทั้งวันสำคัญทางพุทธศาสนา จะมีการแสดงปาฐกถาธรรมไหว้พระ สวดมนต์รักษาศีล ปาฐกถาธรรม จนถึงเวลา 10.30 น แล้วก็ใส่บาตรที่ป่าร่มรื่นตรงส่วนนั้นซึ่งตรงจุดนี้เราเรียกว่าเขตธรรมาวาส หรือเป็นเขตพุทธาวาส สังฆาวาส เขตกรรมฐานที่เรากำลังจะพัฒนาโดยมติกรรมการและก็สงฆ์ ส่วนใหญ่นั้นเป็นเขตที่ถูกปล่อยปละละเลยมาประมาณ 62 ปีไม่มีการพัฒนาเลยที่เห็นเป็นกุฏิอยู่กันเป็นหย่อมๆไม่เป็นระเบียบอีก 70 กว่าหลังจากที่ทุบไป 11 หลังแล้วนั้น กุฏิทั้งหมดมี 82 หลังรื้อไปแล้ว 11 หลังรวมทั้งศาลา 1 หลังตามแผนพัฒนาใหม่เป็นการนำวัดเข้าสู่โครงการวัด ประชา รัฐ พัฒนาวัดตามแนวทาง 5 ส. คณะกรรมการวัดประชุมกันแล้วพบว่าพื้นที่ดังกล่าวทั้งหมดพื้นดินก็เริ่มทรุด เพราะปัญหาน้ำท่วมในหน้าฝน หากไม่รื้อและก่อสร้างใหม่ เราจึงประชุมและขอมติจากสงฆ์ในวัดจะสร้างใหม่เป็นลักษณะกุฏิ 5 กลุ่มกลุ่มละ 12 หลังในกุฏิทั้งหมดจะคล้ายๆกับทาวน์เฮ้าส์มีชั้นเดียวเพื่อให้พระท่านได้อยู่สบายแต่ละกลุ่มจะมีหัวหน้ากลุ่ม 1 ท่านคอยกำกับดูแล เช่นว่า 1 ใน 12 รูป ที่ท่านดูแลอาจจะเจ็บป่วยในเวลากลางค่ำกลางคืนหัวหน้ากลุ่มก็จะเรียกรถพยาบาลมารับตัวไปรักษาหรือองค์ใดองค์หนึ่งจะไป ที่ไหนก็สามารถฝากกุฏิกับเพื่อนพระด้วยกันได้ มีระบบการดูแลมีการสนทนาธรรมมีห้องสมุดมีห้องต้อนรับขณะที่พระสงฆ์ดำรงชีพอยู่ใน 60 หลังนั้นถ้าวันหนึ่งมีโยมเข้ามาเยี่ยมก็สามารถไปติดต่อที่ operator ซึ่งจะมีพระอยู่เวรยามคอยต้อนรับ และพระต้องมีที่อยู่สามเณรต้องมีที่อยู่ ส่วนงบประมาณที่เราก่อสร้างในครั้งนี้ก็มีญาติโยมเริ่มทยอยมาบริจาคในการก่อสร้าง หากสร้างเสร็จตามที่กล่าวมาในกุฏิทั้งหมด 60 หลังซึ่งมีทั้งทางเดินเท้า สวนพืชพันธุ์ ที่สวยงาม งบประมาณไม่เกิน 70 ล้านบาท การก่อสร้างครั้งนี้เรามีคณะกรรมการวัด ซึ่งเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ตั้งแต่รองผู้ว่าราชการลงมาจนถึงนายกเทศมนตรีผู้กำกับ เป็นรองประธาน กรรมการส่วนเรื่องที่นายศรีสุวรรณ ไปร้องเรียนนั้นหลวงพ่อท่านเจ้าอาวาสก็พร้อมให้ตรวจสอบ เพราะท่านโปร่งใสไม่มีปัญหาใดๆส่วนจะมาสอบเมื่อไหร่ก็พร้อมยินดีแต่ขอให้นัดเวลาล่วงหน้าหน่อยเพราะสุขภาพท่านไม่ค่อยแข็งแรง ส่วนเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่ามีนอกมีในนั้นวัดมีใบอนุโมทนาบัตรมีเหรัญญิก ในการรับเงินทุกครั้ง แม้แต่ศาลาสุขคติ ที่เห็นอยู่นี้ก็มีผู้บริจาคให้กับทางวัดถึง 20 ล้าน ทุกวันนี้พุทธศาสนิกชนก็ได้บุญจากการใช้สถานที่แห่งนี้ ตนก็สงสัยว่าท่านเป็นพระอยู่ในวัดนี้ทำไมต้องร้องหลวงพ่อ มีอะไรก็มาคุยกับหลวงพ่อจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องมากกว่า

Loading…

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.