สุรินทร์ วุ่น!! อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย ออกโรงเอง สกัด ส.ส.เก่า หนุน”นวย บ้านนา”นักธุรกิจหนุ่มคนรุ่นใหม่ ชิงเก้าอี้ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย
1 min readสุรินทร์-วุ่น อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย ออกโรงเอง สกัด ส.ส.เก่า หนุน”นวย บ้านนา”นักธุรกิจหนุ่มคนรุ่นใหม่ ชิงเก้าอี้ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 8 เขตใหม่ชายแดนไทย-กัมพูชา ให้พรรคพิจารณาเลือกคนรุ่นใหม่ ขณะที่ชาวบ้านกว่า 100 คน พอใจ ระบุไม่เอาคนเก่าแน่นอน หากพรรคส่งคนมาไม่ถูกใจ เตรียมเทคะแนนบุคคลให้พรรคข้างเคียงอื่นฝั่งประชาธิปไตย อดีต ส.ส.เจ้าของพื้นที่ ยัน รับประกันชนะเลือกตั้งเขตนี้ 100 เปอร์เซ็นต์
วันที่ 29 ม.ค. 66 ที่บ้านเลขที่ 100 ม. บ.รุน ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ชาวบ้านจากพื้นที่ อ.กาบเชิง และพนมดงรัก กว่า 100 คน ได้รวมตัวกันเพื่อต้องการทราบความชัดเจนในตัวผู้มัครของพรรคเพื่อไทยคนใหม่ เนื่องจากมีกะแสข่าวมาว่าจะมี ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยที่มีอายุมากเกือบ 80 ปีแล้ว จะย้ายหนีเขตตัวเองจากอีกพื้นที่หนึ่งของ จ.สุรินทร์ มาลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตใหม่ ซึ่งเป็นเขต 8 แห่งนี้ ซึ่งชาวบ้านต่างไม่เห็นด้วยและไม่ต้องการ ส.ส.ที่มีอายุมากมาเป็นตัวแทนของพวกเขา และอยากได้คนรุ่นใหม่ๆมาทำหน้าที่แทน โดยชาวบ้านได้ประสานไปยังนายประดุจ มั่นหมาย อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย ที่อยู่กับประชาชนในพื้นที่เขตนี้มานาน เพื่อขอทราบตัวคนรุ่นใหม่ที่ชาวบ้านต้องการ
โดยนายปะดุจ มั่นหมาย อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย ก็ลงพื้นที่พบปะชาวบ้านตามความต้องการ พร้อมเปิดเผยชื่อคนรุ่นใหม่เพื่อสนับสนุนและผลักดัน ในการนำเสนอตัวต่อพรรคเพื่อไทยให้พิจารณาคัดเลือกให้เป็น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในเขต 8 นี้ คือนายเสรษฐิพณ แท่นดี หรือ “นวย บ้านนา” นักธุรกิจหนุ่มไทย-กัมพูชา และเป็นที่ปรึกษาเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 จบการศึกษาระดับประถมศึกษา ร.ร.บ้านตาอ็อง ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์จบระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจาก ร.ร.เทนมีย์มิตรประชา ต.เทนมีย์ อ.เมือง จ.สุรินทร์จบระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จาก ร.ร.ศรีไผทสมันต์ ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์และจบระดับปริญญาตรี เอกวิชาบริหารการจัดการทั่วไป จากมหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์ และสามารถใช้ภาษาท้องถิ่นเขมร และภาษากัมพูชา รวมทั้งภาษาส่วยและลาว ได้อีกด้วย ซึ่งสามารถสื่อสารกับประชาชนในเขต 8 ซึ่งมีพื้นที่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีความหลากหลายทางด้านภาษาได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ชาวบ้านที่มารวมตัวกันดังล่าว หลังจากทราบข้อมูลบุคคลที่ทางอดีต ส.ส.พรรคไทยรกไทย นำเสนอตัวบุคคลดังกล่าวมา ต่างพอใจที่เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น แม้ทางพรรคจะยังไม่ได้ประกาศตัวผู้สมัครในเขตนี้ก็ตาม อย่างน้อยชาวบ้านก็ต้องการคนรุ่นใหม่ และไม่ต้องาร ส.ส.เก่าที่มีอายุมากและจะหนีเขตตัวเอง มาลงในเขตใหม่นี้ด้วยความเคลือบแคลงใจของชาวบ้าน และมีนัยยะทางการเมืองอะไรแอบแฝงหรือไม่ ถึงยอมที่จะย้ายหนีเขตตัวเองมาลงเขตอื่นดังกล่าว และหากพรรคเพื่อไทยส่งตัวผู้สมัครลงมาไม่ถูกใจชาวบ้าน ชาวบ้านก็พร้อมจะเคลื่อนไหวต่อต้านต่อไป
นายประดุจ มั่นหมาย อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า เดิมตนตั้งใจจะลงสมัครในเขต 8 เขตใหม่นี้ ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมของตนเองอยู่แล้ว และที่ผ่านมาตนถูกเว้นวรรคทางการเมือง หลังจากเสนอตัวเองให้กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่จะสนับสนุนคนรุ่นใหม่ ตนจึงขอสละสิทธิ์และขอผลักดันคนรุ่นใหม่มาแทน ในฐานะที่ตนเป็นเจ้าขอพื้นที่ตรงนี้ ก็จึงขอเสนอตัวแทนมาลงเขตนี้ ซึ่งตนจะผลักดัน ซึ่งในพื้นที่มีแนวร่วมแกนนำเก่าก็ยังอยู่ครบ เราจช่วยกันผลักดันคนรุ่นใหม่ ถ้าคนของเรามีโอกาสไลง พูดได้วาปักธงชัยได้เลย ส.ส.ในเขตนี้ เท่าที่ตนติดตามผลงาน ส.ส.รุ่นหลังตนเองที่ผ่านมา ไม่ค่อยได้ลงพื้นที่ บางคนกอายุมาก อยากได้คนรุ่นใหม่ อย่างน้อยใหม่ก็ดีกว่าเก่าแน่นอน ซึ่งชาวบ้านที่มากันวันนี้ อดีตก็เลือกตนเองทั้งนั้น เขาติดใจในนโยบายพรรคไทยรักไทยตลอดมา มีผลงานเป้นที่ประจัก ซึ่งถ้าตัวแทนลงก้สามารถปักธงได้เลย ตนเป็นประกัน เพราะตนรู้จิตใจแลความต้องการขอชาวบ้านแถวนี้เป็นอย่างดี ตนทราบข่าวมาว่า มี ส.ส.ปัจจุบันอยู่ในเขต อ.สังขะ พอมีเขตใหม่ เขาอยากจะเปลี่ยนเขต ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้าน ทราบว่า เขาไม่อยากได้ อยากได้คนใหม่ เพราะเขต 8 เขตใหม่ เป็นเขตปลอด ส.ส.เพื่อไทยเดิม เป้นเขตใหม่ จึงอยกได้คนใหม่ คนใหม่ได้เป็น ส.ส.100 เปอร์เซ็นต์ ตนเป็นกันกัน จึงขอเสนอตัวและสนับสนุนคุณนวย บ้านนา หรือ เสรษฐิพณ แท่นดี เป็นคนที่ใกล้ชิดกับตน และเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจ อัธยาศัยดี เข้ากับชาวบ้านได้ง่าย และเป็นคนในพื้นที่ คนในท้องถิ่น พูดภาท้องถิ่นกับชาวบ้านได้ ทั้งเขมร ไทย ลาว และภาษาส่วย ตนมั่นใจว่าจะชนะรบเลือกตั้งในเขตนี้ เพราะตนมีแกนนำเดิม มวลชนดิม เป็นคนที่เลือกพรรคไทยรักไทยมา 100 เปอร์เซ็นต์ จึงมีความมั่นใจ เพราะเขาศรัทธาตั้งแต่พรรคไทยรักไทยมาแล้ว จนถึงเพื่อไทย ยังไงก็เพื่อไทยอย่างเดียว ทั้งนี้ชาวบ้านโดยเฉพาะคนเสื้อแดง บอกว่าถ้าได้คนที่เขาไม่ต้อการและพึงพอใจ ก็อาจมีปฏิกิริยา โต้กลับางพรรค เพราะว่า เขามีนอยู่ในใจแล้ว กลุ่มเสื้อแดงกามผมมามากว่าจะเอายังไง ท่าน ส.ส.ได้ลงหรือไม่ ตนก็ยอมรับนโยบายพรรคว่าต้องการคนรุ่นใหม่ ซึ่งชาวบ้านท่เป็นหัวคะแนนผมก็บอกว่าถ้าได้คนที่ไม่ถูกใจ เขาก็ไม่เอา เขาก็จะหันไปสนับสนุนพรรคก้าวไกล หรือพรรคเสรีรวมไทย ที่เป็นฝั่งและโซนเดียวกัน เขาไม่ข้ามโซน อยู่ในฝั่งประชาธิปไตย แต่ว่า เรากลัวจะเสียคะแนนมวลขนตรงนี้ เพราะฉะนั้น ตนอยากให้ทางพรรคฟังเสียงชาวบ้าน ให้ตอบสนองชาวบ้าน ถ้าเสนอคนผิดแล้วจะเสียของ ให้ฟังเสียงประชาชนบ้าง อย่าฟังเสียงคนไม่กี่คน ซึ่งตนจะทราบข้อมูลดี เพราะเป็นคนอยู่พื้นที่ รู้ความเคลื่อนไหว ซึ่ง ถ้าได้คนไม่ถูกใจเขาก็จะไปสนับสนุนตัวบุคคลพรรคอื่น ส่วนพรรคยังไงก็เพื่อไทย ตะแนนเขตอาจพลิกผันไปได้ถ้าคนไม่ถูใจ แต่คะแนนพรรคยัง 100 เปอร์เซ็นต์ ให้ทางพรรคถามคนเยอะๆถามให้รอบคอบ ซึ่งจะมีผลกระทบกับพรรค หากได้คนสมัครที่ไม่ถูกใจชาวบ้าน ได้คนที่ถูกใจชาวบ้านบ้านรับรองชาวบ้านไม่วอกแวกไปทางไหน จะเทะแนนห้เพื่อไทยอย่างเดียว เพราะคู่ต่อสู้สำคัญคือพรรคภูมิใจไทย ที่ทุ่มเทมาก ซึ่งคนของภูมิใจไทยเคยต่อสู้กับตนมารอบหนึ่งแล้ว สมัยนั้นแพ้ตนเองแบบไม่ติดฝุ่น หลัก 2-3 หมื่นคะแนน ยังไงชาวบ้านก็เลือกเพื่อไทยและถ้าเป็นบุคคลที่ตนเองสนับสนุนด้วย ก็ไม่ต้องห่วง อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย กล่าว
ด้านนายเซือน กมลเดช อดีตมวลชนคนเสื้อแดง อยู่บ้านเลขที่ 66 ม.5 บ.คลองน้ำซับ ต.แนงมุด อ.กาบเชิงฯ กล่าวว่า ได้ชื่อว่าคนเก่า ก็คือเก่า เรารู้นิสัยหมดแล้ว ถึงคนใหม่เรายังไม่รู้ แต่ยังไงเราก็ต้องเอาคนใหม่ไว้ก่อน พรรคเพื่อไทย ทำอะไรทำจริง ตนชอบเป็นชีวิตจิตใจ มีนโยบายที่ทำให้เห็นมามาก ทั้งรักาฟรีทุกโรค ใช้หนี้ไอเอ็มเอฟก็พรรคเพื่อไทย ไม่ได้ไปกู้หนี้ยืมสินเหมือนพรรคทุกวันนี้ เขาแจกเงินคนละ 500-600 บาท ก็ว่าเขาดี เที่ยวฟรี อะไรฟรี พากันดีใจทั้งแถว ที่ไหนได้เราติดหนี้เขา ข้าวของแพงใครเป็นคนใช้ ก็มีแต่พี่น้อง นายเซือนฯกล่าว
ด้าน นายเจริญ วงค์รัมย์ 67 อดีต ผญบ.ศรีสวาย อยู่บ้านเลขที่ 71 ม.9 ต.จีกแดก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ กล่าวว่า เราต้องช่วยกันเลือกคนใหม่แน่นอน อดีต ส.ส.ประดุจ มั่นหมาย ตนก็เคยเลือก ยังไงก็จะช่วยเลือกคนใหม่ที่ท่านสนับสนุน ยังไงคนใหม่ รถใหม่ก็จะแรงกว่า รถเก่าคนเก่าๆอยู่แล้ว อดีตผู้ใหญ่บ้านจีกแดก กล่าว