จันทร์. พ.ย. 25th, 2024

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

สองตายายทุกข์หนักต้องทิ้งอาชีพก่อสร้างเพื่อมาเฝ้าลูกตัวเองนอนป่วยติดเตียงหลังประสบอุบัติเหตุไร้คู่กรณีเหลียวแล

1 min read

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ที่จังหวัดนครปฐมผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายคำตัน บุตาวัตร อายุ 70 ปีอาชีพก่อสร้าง อ.บางเลน จ.นครปฐม ได้ร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชน หลังจากที่ลูกชายประสบอุบัติเหตุเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา จนทุกวันนี้กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง สะโพกหลุด และผ่าตัดสมอง แต่ยังไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ขณะที่คู่กรณีที่ประสบเหตุก็ไม่เคยติดต่อมาดูแล หรือสอบถามสารทุกข์ตั้งแต่เกิดเหตุ

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านสุขเกษมซอย 3 ที่อยู่ 38/2 หมู่ 4 ต.บางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐม
และได้พบกับ นายคำตัน บุตาวัตร อายุ 70 ปี และ
นาง วิณา บุตรวัตร อายุ 68 ปี 2 สามีภรรยา อาชีพก่อสร้าง และเป็นพ่อแม่ของ นาย พรชัย บุตรวัตร อายุ 44 ปี ซึ่งนายคำตัน บุตาวัตร ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า ลูกชายได้ประสบอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 ขณะที่ลูกชายของตนได้ขี่รถ จยย.ไปเติมน้ำมันที่ปั๊มเอสโซ่ก่อนถึงทางเข้าตลาดน้ำทุ่งบัวแดงและได้ขี่ออกมามีรถบรรทุกส่งน้ำแข็งยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 83-6026 นนทบุรี ชนด้านท้ายอย่างจังทำให้ลูกตนเองได้รับบาดเจ็บสาหัส

จนต้องเข้ารักษาตัวเร่งด่วนที่โรงพยาบาลบางเลน และพบว่ามีอาการกระทบกระเทือนที่สมอง ทำให้ต้องส่งตัวต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลนครปฐมทำการผ่าตัด

ต่อมานาง วิณา บุตรวัตร ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า หลังจากผ่าตัดได้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนครปฐมเป็นเวลา 1 เดือนกว่า จากนั้นจึงได้ออกมารักษาตัวต่อที่บ้านโดยตลอดเป็นระยะเวลากว่า 5 เดือนโดยตนต้องทิ้งอาชีพก่อสร้าง เพื่อหาเงินมารักษาดูแลลูกชายที่ประสบเหตุ ซึ่งต้องจ่ายค่าจ้างพยาบาลอีกเดือนละเกือบ 10,000 บาท ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอย่างอื่นสำหรับผู้ป่วยติดเตียง และที่ผ่านมานั้นตนเองดูแลลูกมาโดยตลอด

นาง วิณา บุตรวัตร ผู้เป็นแม่ที่ประสบเหตุ ยังบอกอีกว่า หลังจากที่เกิดเหตุแล้ว ทางครอบครัวได้เรียกค่าสินไหมจากประกันเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาททางฝ่ายตัวแทนประกันภัยได้ยื่นข้อเสนอเป็นค่าสินไหมให้กับนายพรชัยผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาทส่วนทางนายคำตัน บุตาวัตร พ่อ ไม่รับข้อเสนอดังกล่าว

ส่วนทางด้านคู่กรณีกลับนิ่งเฉย และไม่เคยเหลียวแลเลยสักครั้งตั้งแต่เกิดเหตุมา ซึ่งตนเองก็ต้องมีภาระเพิ่มขึ้นและทางพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ทำงานอาศัยเงินจากรัฐบาลเดือนละ 600 บาทในการหาเงินมาดูแลลูกชายที่ป่วยจนหมดอนาคต และที่ผ่านมาพยายามจะหาหนทางในการเรียกร้องความเป็นธรรมให้ลูกชาย แต่เนื่องด้วยไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกฎหมาย และเกรงว่าครอบครัวจะได้รับอันตราย จึงไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งพาผู้ใดหรือหน่วยงานใด

ภาพ/ข่าว ปนิทัศน์ มามีสุข / นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม

Loading…

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.