หนุ่มอิสลามร้อง “ทนายดัง” เมียหนีไปอยู่กับหนุ่มไปรษณีย์ทั้งที่มีทะเบียนสมรส

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 16 มีนาคม 66 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นาย อดุลย์ หรือ บังดุลย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปีพร้อมลูกสาววัย 8 ขวบและลูกชายคนเล็กวัย 2 ขวบเดินทางเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังภรรยาสุดที่รักหนีไปอยู่กับชู้ ทั้งๆที่ยังจดทะเบียนสมรสกับตนเองและไม่ได้หย่าขาดจากกันเลย ตนเองพยายามอธิบายเหตุผลและขอเห็นใจให้เห็นแก่ลูกกลับมาอยู่กับครอบครัวเหมือนเดิมแต่ภรรยาก็ไม่ยอมกลับยังหลงใหลในตัวชู้หนุ่มรายนี้ ตนเองไม่รู้จะทำอย่างไร จึงต้องหอบลูกเดินทางมาร้องเรียนกับทนายรณณรงค์ให้ช่วยเหลือ

บังดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนแต่งงานจดทะเบียนสมรสอยู่กินกับนางสาวศิริรัตน์หรือ เปิ้ล อายุ 37 ปี มานานกว่า 10 ปี โดยตนเองมีอาชีพเป็นช่างต่อเติมอาคารบ้านเรือน ส่วนภรรยาทำงานบริษัทแห่งหนึ่ง ตนกับภรรยามีลูกหญิง- ชาย ด้วยกัน 2 คน ความรักในครอบครัวก็อยู่กันอย่างอบอุ่นเรื่อยมาแต่แล้วจู่ๆภรรยาของตนกลับแอบไปมีความสัมพันธ์หนีไปอยู่กับนายบัญชา ทองพันชั่ง พนักงานไปรษณีย์บางพลี โดยทิ้งตนกับลูก 2 คนอย่างไม่ใยดีและไม่เหลียวกลับมาเลย

ตนพยายามติดต่อพูดคุยกับนายบัญชาด้วยดีอ้อนวอนขอให้เขาคืนภรรยาให้กับตนเพื่อเห็นแก่ลูกและครอบครัวซึ่งแรกๆนายบัญชาก็รับปากว่าจะคืนให้แต่สุดท้ายก็ไม่ทำตามที่พูด ส่วนภรรยาเมื่อทราบว่าตนจับได้และรู้ว่าหนีไปอยู่กับนายบัญชาก็พยายามพูดจาหว่านล้อมทำนองขอเลิกกับตนซึ่งตนเองก็พยายามยกเหตุผลพูดจาทุกอย่างพร้อมทั้งบอกกับภรรยาว่าเรื่องที่ผ่านไปตนไม่ติดใจและทำใจได้ตนเห็นแก่ลูกขอเพียงให้เขากลับมาอยู่กับครอบครัวอยู่กับตนตนยินดีให้อภัยแต่เขาก็ไม่ยอมกลับมาหาลูกและตน ทำให้ตนคิดมากไม่เป็นอันทำงาน เพราะเอาเวลาไปติดตามหาภรรยา ตลอดเวลาจนถูกนายจ้างให้ออกจากงาน ตนเคยไปร้องเรียนผู้ใหญ่ที่ไปรษณีย์บางพลี เพื่อให้รับรู้ถึงเรื่องราวของนายบัญชาที่มาเป็นชู้กับภรรยาตนแต่เรื่องก็เงียบหายไม่รู้จะทำอย่างไรดีสงสารแต่เพียงลูก 2 คนที่ต้องมากำพร้าแม่ บังดุลย์ กล่าวเสียงเศร้าพร้อมยกมือไหว้ขอให้ทนายรณรงค์ช่วยเหลือ

ขณะที่ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า เรื่องนี้ขอบอกให้เป็นความรู้ก่อน ถ้ามีทะเบียนสมรสและมีสามีอยู่แล้ว แล้วมีคนอื่นไปยุ่งคือชู้ การที่ภรรยาเป็นชู้ กับคนอื่นฝ่ายชายสามารถฟ้องร้องตามกฎหมายได้ เรียกร้องค่าทดแทนได้ บางคนก็หลักแสนบางคนหลักล้าน สามารถฟ้องหย่าเรียกค่าเสียหายจากฝ่ายหญิงได้ด้วย ถ้ามีหลักฐานยืนยันเป็นชายชู้สามารถยื่นทางวินัยให้สอบสวนได้ซึ่งไปรษณีย์เป็นรัฐวิสาหกิจยังมีเรื่องจริยธรรมพนักงานอยู่ ถ้าเป็นข้าราชการคือไล่ออกสถานเดียว ยังแปลกใจว่าทำไมทางไปรษณีย์ขาดหลักฐานอะไร ยังไงก็อยากให้ค่อยคุยกันเพราะว่ายังมีเด็กอีก 2 คน ซึ่งมาด้วยวันนี้และไม่มีคนเลี้ยง ตนอยากฝากถึงโดยเฉพาะบอร์ดผู้บริหารชั้นผู้ใหญ่ควรจะมีกรอบจริยธรรมเรื่องเหล่านี้ให้ชัดเจนเพราะว่าประเด็นเรื่องครอบครัวเป็นประเด็นละเอียดอ่อน ชอบหรือเอาอีกคนนึงมาเป็นผัวเป็นเมียแล้วครอบครัวเขาพังทลายเราเป็นรัฐวิสาหกิจเราต้องมีจริยธรรม เป็นต้นแบบให้สังคมไทยอย่าลืมว่ากระทรวงการคลังถือหุ้นอยู่