อดดูซากุระบาน!กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวร้อง “ทนายรณรงค์” หลังซื้อตั๋วทิพย์แล้วโดนเท

เมื่อเวลา 14.00 น วันที่ 28 มีนาคม 66 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีกลุ่มผู้เสียหายจำนวนหลายรายรวมตัวเดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อให้ช่วยเหลือติดตามคดีหลังพวกตนทั้งหมดถูกบริษัททัวร์ชื่อ “พาเที่ยวเลย” ในจังหวัดปราจีนบุรี หลอกลวงขายตั๋วว่าสามารถพาเที่ยวในต่างประเทศ และภายในประเทศได้แต่เมื่อจ่ายค่าตั๋วไปแล้วพอถึงวันเดินทางกลับไม่ได้ไปอย่างที่โฆษณาไว้ทำให้มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อแล้ว 94 รายเสียหายนับ 10 ล้านบาท อยากให้ทางทนายรณณรงค์ เข้ามาช่วยเหลือในด้านคดี เพราะไม่อยากให้บริษัททัวร์แห่งนี้ซึ่งยังเปิดดำเนินกิจการอยู่ไปเที่ยวหลอกลวงผู้เสียหายอีกเลย

นายจารุจันทร์ อายุ 41 ปีเล่าว่าตนกับเพื่อนๆอีก 6 คน ได้ไปซื้อตั๋วทัวร์เพื่อเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นโตเกียว-ฟูจิคาว่า เพื่อ ดูหิมะชมซากุระบาน โดยจองตั๋วทัวร์เดินทาง 15 ถึง 19 มีนาคม 66 ในราคาหัวละ 35,888 บาท และได้จ่ายเงินมัดจำให้กับบริษัททัวร์ ชื่อพาเที่ยวเลย สำนักงานที่ตั้งในจังหวัดปราจีนบุรี โดยโอนเงินเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 66 ไป 84,000 บาท และในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 66 อีก 95,328 รวมทั้งหมด 179,328 บาท โดยโอนเข้าบัญชีเจ้าของบริษัทชื่อนางสาวโรสริน แต่พอถึงวันเดินทางกลับถูกเทไม่สามารถเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นได้ตามโปรแกรมที่จองไว้เมื่อติดต่อกับนางสาวโรสริน ก็ถูกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมาสุดท้ายก็ไม่สามารถติดต่อได้ถูกบล็อกเฟส จึงอยากให้ทางเขาออกมารับผิดชอบเพราะพวกตนเองก็ได้แจ้งความไว้ในเบื้องต้นแล้วถ้าคิดว่าหนีได้ก็หนีไป

ส่วนนางสายเทียน ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนพร้อมเพื่อนๆ 18 คนได้จองคณะทัวร์เพื่อไปเที่ยวหลวงพระบางสปป.ลาว ในราคาหัวละ 10,000 บาทและโอนเงินให้กับบริษัททัวร์แห่งนี้ไปแล้ว 123,000 บาท โดยจะออกเดินทางในวันที่ 5-7 เมษายน เมื่อเช็คที่พักและสายการบินแล้วปรากฏว่าไม่มีการจองแต่อย่างใดจึงเชื่อแน่ว่าถูกแหลกแน่นอนอีกทั้งในเพจ Facebook ของบริษัททัวร์ดังกล่าวก็ยังเปิดให้จองท่องเที่ยวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและทนายรณณรงค์เข้ามาช่วยเหลือเพราะไม่อยากให้ทางบริษัทแห่งนี้ไปเที่ยวหลอกลวงคนอื่นจนได้รับความเสียหายเหมือนเช่นที่พวกตนเองโดนในขณะนี้

ส่วนอีกรายคือนางสุภาพร อดีตผู้จัดการฝ่ายบัญชีบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งพร้อมกับเพื่อนๆในคณะอีก 18 คนได้จองตั๋วท่อง เที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในราคาหัวละ 7,400 บาทและได้จ่ายเงินให้กับบริษัททัวร์ดังกล่าวไปแล้ว 72,000 บาท แต่พอถึงเวลาเดินทางกลับไม่สามารถไปท่องเที่ยวได้ตามที่ซื้อตั๋วไว้ จึงเชื่อแน่ว่าถูกบริษัทแห่งนี้หลอกลวงให้ซื้อตั๋วทิพย์ ตนและเพื่อนๆจึงได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้วเป็นหลักฐาน และรวมตัวเดินทางมาร้องทนายรณณรงค์เพื่อให้ช่วยเหลือในด้านคดี

ทางด้านทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า เคสนี้เป็นเคสเกี่ยวกับบริษัทที่พาไปเที่ยวต่างประเทศ ปรากฏว่าไปหลายประเทศไม่ได้บินเลย ผู้เสียหายเบื่องต้นมีเป็น100คน เดี๋ยวจะพาไปที่กองปราบปราม ให้ตำรวจดำเนินคดีฐานฉ้อโกงประชาชนและการทำผิดนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพราะว่าแต่ละคนที่ไปเจอก็จะเจอที่ฟีดเฟสบุ๊ค ก็คือเขาซื้อโฆษณา บางคนก็โดนไปเป็นหลักหลายแสน ก็คือทัวร์ไปต่างประเทศมันแพงอยู่แล้วและมีคณะครูโรงเรียนบางโรงเรียนซื้อทัวร์ไป 60 กว่าคน ก็หน้าจะไม่ได้บินเหมือนกัน อยากฝากบอกผู้เสียหายทุกคนหรือผู้ชมที่อยู่ทางบ้านให่ตรวจสอบบริษัทที่เราจะซื้อทัวร์ก่อน 1.มีใบอนุญาติถูกต้อง 2.ใบอนุญาติให้ขายทัวร์ต่างประเทศหรือในประเทศได้ เพราะบริษัทที่มีปัญหานี้มีแค่ใบอนุญาติขายทัวร์ในประเทศ แต่อย่างไรก็ตามก็เดี๋ยวจะพาไปกองปราบปรามเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายให้ถึงที่สุดแล้วเดี๋ยวจะให้ผู้เสียหายไปยื่นเรื่องที่ ททท. ด้วยเพราะว่าทางท่องเที่ยวกำกับดูแลบริษัททัวร์ ถ้าเกิดฝ่าฝืนขายทัวร์แล้วไม่ได้บินเขาสั่งเพิกถอนใบอนุญาติได้ทันทีเลย